'นายกฯ อิรัก' ลั่น!! ไม่ต้องการทหารสหรัฐฯ ในประเทศอีกต่อไป พร้อมระบุ!! อิรักสามารถรับมือกับกลุ่ม ISIS ได้ด้วยตนเอง
(17 ก.ย. 67) บลูมเบิร์ก รายงานว่า โมฮัมเหม็ด เชีย อัล-ซูดานี นายกรัฐมนตรีของอิรัก กล่าวว่า กองทัพสหรัฐฯ ไม่จำเป็นในประเทศของเขาอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากพวกเขาประสบความสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ในการปราบ ISIS และเขาวางแผนที่จะประกาศตารางเวลาการถอนกำลังทหารในเร็ว ๆ นี้
ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีทหารประมาณ 2,500 นายในอิรัก ซึ่งเป็นมรดกจากกองกำลังผสมที่นำโดยสหรัฐฯ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 เพื่อต่อสู้กับกลุ่มอิสลามที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ ISIS แม้ว่ากลุ่มนี้จะอ่อนแอกว่าเมื่อทศวรรษที่แล้วมากก็ตาม
สำหรับคำกล่าวในครั้งนี้ของนายกฯ อิรัก เป็นการตอกย้ำถึงจุดยืนของประเทศอีกครั้งในด้านความมั่นคง หลังจากเมื่อต้นปี สหรัฐฯ ได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่กองบัญชาการของกองกำลังระดมประชาชน (Popular Mobilization Forces) องค์กรร่ม (Umbrella Organization) ที่รัฐอิรักให้การสนับสนุน และประกอบด้วยกลุ่มก๊กติดอาวุธต่างๆ หลายสิบกลุ่ม จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย ซึ่งในเหตุโจมตีดังกล่าว ในนั้นรวมถึงมุชทาค ทาเลบ อัล-ไซดี ผู้นำกลุ่มฮะรอกัต ฮิซบุลเลาะห์ อัลนุจบา (Harakat Hezbollah al-Nujaba หรือ HHN) ที่วอชิงตันตราหน้าว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน
"กองกำลังระดมประชาชนเป็นตัวแทนในฐานะมีความเกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการกับรัฐ ขึ้นกับกองทัพของเรา และเป็นส่วนสำคัญของกองทัพของเรา" นายกฯ อิรักเน้นย้ำ "เราขอประณามการโจมตีนี้ที่เล็งเป้าหมายเล่นงานกองกำลังด้านความมั่นคงของเรา ซึ่งมีความสำคัญกว่าตัวอักษรและเจตนารมณ์ของคำสั่งจัดตั้งกองกำลังพันธมิตรนานาชาติ"
ขณะที่ เพนตากอน ได้เคยระบุถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เป็นการกระทำที่จำเป็นและสมเหตุสมผล ท่ามกลางการโจมตีเล่นงานที่ตั้งทางทหารของอเมริการะลอกแล้วระลอกเล่าในภูมิภาค และแบกแดดเองเป็นฝ่ายเชิญกองกำลังอเมริกา ให้เข้าช่วยสู้รบกับกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอเอส)
ทั้งนี้ นายอัล-ซูดานี ยังระบุอีกว่า กลุ่มไอเอส ไม่ได้เป็นภัยคุกคามอิรักอีกต่อไป ขณะการเจรจายุติภารกิจต่อต้านกลุ่มไอเอสของแนวร่วมระหว่างประเทศที่นำโดยสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไป