‘ดร.นพดล’ ลั่น!! รู้ข้อมูลผู้อยู่เบื้องหลังม็อบปฏิรูปสถาบันฯ ชี้!! มีขบวนการคอยชักใยเพื่อบั่นทอนเสาหลักของชาติ

ดร.นพดล กรรณิกา เผยกลางรายการ รู้ข้อมูลผู้อยู่เบื้องหลังและคนปั่นกระแส จนมาเป็นการชุมนุมปฏิรูปสถาบันฯ โดยใช้เครื่องมือ และมีคณะทำงานโดยมีกลุ่มไอที (IT) ด้วยกันทั้งหมด 3 กลุ่ม จนรู้ความจริง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ให้สัมภาษณ์ในรายการสนามข่าว ช่อง FM101 ยืนยันว่า รู้ข้อมูลผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ตลอดจนผู้ปั่นกระแสจนเป็นที่มาของการชุมนุมปฏิรูปสถาบัน และยืนยันว่ามีกระบวนการอยู่เบื้องหลังจริง ตามที่รัฐบาลตั้งข้อสังเกต

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า อาจารย์สำรวจเสียงประชาชนในโลกโซเชียล ผ่านระบบเน็ตซุปเปอร์โพล เพื่อดูความเคลื่อนไหวข้อความที่มีแฮชแท็กและติดเทรนค์ทวิตเตอร์ เช่น #เยาวชนปลดแอก, #หยุดคุกคามประชาชน, #สู้เป็นไทยถอยเป็นทาส, #whathappeninthailand แล้วอาจารย์บอกว่า ไปดูแล้วมีการปั่นจากต่างประเทศเข้ามา 7 เท่า อาจารย์ไปเช็กอย่างไร?

ดร.นพดล ตอบว่า “เรามีวิธี มีเครื่องมือ และมีคณะทำงานโดยมีกลุ่มไอที (IT) ด้วยกันทั้งหมด 3 กลุ่ม แล้วเราใช้เครื่องมือที่เรามีอยู่ ทุกอย่างที่อยู่ในโลกโชเชียล จะมีอยู่ด้วยกัน 2 กลุ่ม คือกลุ่ม structure กับ unstructure ข้อมูลที่มันมีระบบระเบียบกับข้อมูลที่ไม่มีระบบระเบียบแล้วหลังจากนั้นเราจะกวาดหาทั้งหมด แล้วนำมาจัดเป็น layer ต่างๆ ข้อมูลที่มันออกมาจากที่ไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นในโซเชียลหรือนอกโลกโซเซียล ทุกอย่างมันต้องมีแหล่งที่มา เพราะฉะนั้น จะทำให้ทราบว่า มันมาจากไหน ใครเป็นคนเริ่ม และเริ่มเมื่อไร เครื่องมืออันนี้มันมีครื่องมือในการตรวจจับอยู่แล้ว และเครื่องมือที่เราใช้อยู่มันจะสามารถรู้ได้ว่ามันไม่ได้มาจาก proxy มันเป็น uique P ที่เราสามารถจับได้ แล้วก็กลุ่มคนที่ใช้ VPN มันจะเป็น privacy ของเขา”

ดร.นพดล กล่าวต่อว่า มันเริ่มตั้งแต่ต้นปี เรารู้แล้วว่าใครเป็นคนเริ่ม เริ่มวันไหน เริ่มมาตอนแรกไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไร แต่ดูเหมือนว่าทำกันเป็นขบวนการ เริ่มปล่อยออกมา พอปล่อยออกมาแล้วในช่วงจังหวะหนึ่งเราจะเห็นผมนำเสนอไปไม่ได้ทั้งหมด นำเสนอได้บางส่วนเพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเป็น privacy ของคน พอเราจับได้ เราจะเห็นว่ามันไม่น่าจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

โดยส่วนใหญ่มันมี Milestone หลักของการเคลื่อนไหว Timeline ของการเคลื่อนไหวแล้วก็จะมีช่วงเวลาหรือจังหวะเวลา หรือวันที่วันไหนที่จะเป็นช่วงที่จะปั่น โดยช่วงก่อนหน้านั้นจะเริ่มมีการปั่นมาทีละเล็กทีละน้อย เหมือนกับเป็น normal cuve ขึ้นจากจุดพีคแล้วก็ตกลง ซึ่งมีการทั้งBoostทั้งปั่น และมีที่เป็นตัวปลอม ที่หลายคนรู้จักคำว่า ‘อวตาร’ ซึ่งคนหนึ่งคน สามารถปั่นกระแสแทน ทำให้เราเห็นภาพภาพของคนป็นหลักหมื่น หลักแสน หลักล้าน จากคนคนเดียว เขาสามารถนั่งปั่นเข้าไปเรื่อยๆ และเครื่องมือที่เขาใช้ทำ ก็เป็นของบริษัทของโซเชียลมีเดียที่ต่างชาติเป็นที่นิยม

เราแยกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 คือเชิงปริมาณ ซึ่งใช้คนๆเดียวสามารถเปลี่ยน SIM เปลี่ยน account เพิ่มaccount สร้าง account ขึ้นมา แล้วก็ปั่นคนเดียวทำได้เป็นหมื่น เป็นแสน เขาใช้เครื่องมือของบริษัทโชเชียลมีเดีย เชิงปริมาณ จำนวนคน คนคนเดียวทำมือถือไม่รู้เป็นร้อยๆ เครื่อง มีอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ใช้แค่มือถืออย่างเดียว เครื่องมืออุปกรณ์เชื่อมต่อออนไลน์ได้ อันนี้คือปั่นยอด ผมเสนอไปหมดแล้วคำว่าช่องทาง แต่ content ใครอะไร อย่างไร ผมไม่ได้สน สุดท้ายเราเกาะคนนี้ไปเชื่อมโยงคนนั้นเป็น networkไป เห็นออกมาเลยว่าเป็นวัฏจักรแบบนี้ เป็นเครือข่ายเขาทำแบบ online - on ground - online - on ground แบบนี้ไปเรื่อยๆ

on ground ก็คือ ลงพื้นที่ปฏิบัติการลงถนน ถ้าอยู่บนโลกออนไลน์เป็นล้าน แต่ on ground หลักหมื่น หลักพัน #whathappenedinThailand ประเทศไทยมีแค่ 12,290 บัญชีผู้ใช้งานเคลื่อนไหวแต่รวมต่างชาติไปเป็น 2.3 ล้านเพราะมันก็มีเทคนิคอะไรบางอย่าง แต่ที่สำคัญก็คือ คำพูดนี้มันเห็นชัดเจนว่ามันปั่นมาจากข้างนอกเยอะ แล้วก็คือใคร มันออกมาจากทั่วโลกมาจากหลายประเทศ แต่ว่ามันไม่ใช่จะใช้ VPN กันได้หมดทุกคน ก็เรียนให้ทราบได้แล้ว เราก็สามารถรู้แล้ว ซึ่งก็คนที่รู้ได้ดีจริงๆ คือ ISP (Internet service provider) เขารู้แน่ๆ

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า อาจารย์สามารถร่าง map ได้ แล้วว่ามันเริ่มต้นจากตรงไหนเครือข่ายเป็นอย่างไร รู้เลยเหรอว่าเป็นใคร?

ดร.นพดล ตอบว่า มันเปิดเผยตัวจริง รู้เลยว่าเป็นใคร แล้วก็คนนี้ไปเชื่อมโยงกับคนนั้น แล้วสุดท้ายก็ on ground ก็ไปอยู่ในกลุ่มนั้น แล้วก็ออกมาแถลงการณ์อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย อะไรแบบนี้ ซึ่งก็เป็นกลุ่มที่เรารู้กัน ซึ่งข้อมูลมี 2 ประเภท กลุ่มข้อมูลเปิดกับกลุ่มข้อมูลปิด ณ ตอนนี้หน่วยงานของรัฐไปจัดการกับกลุ่มข้อมูลเปิด กลุ่มข้อมูลปิดก็อยู่เบื้องหลัง จะมีเครื่องมือในการปฏิบัติการสามารถจัดการได้ ต้องพูดความจริงต้องเอาความจริงมาเปิดเผย แต่สุดท้ายก็ปั่นเป็นความเท็จ สิ่งนี้พวกเราทำกันเอง ไม่ได้หวังสิ่งใดทั้งสิ้น เราอยากเห็นความมั่นคงไม่อยากซ้ำเติมวิกฤต ซึ่งกลุ่มเคลื่อนไหวพยายามจะบั่นทอนเสาหลักของชาติ

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า ถ้าเราดูทิศทางจากการอภิปรายในสภา โดยรัฐบาลเชื่อว่ามีกระบวนการอยู่เบื้องหลัง

ดร.นพดล ตอบว่า ไม่ใช่แค่ความเชื่อ มันเป็นความจริง แต่ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายรัฐบาล

เมื่อผู้ดำเนินรายการ ถามว่า มันจะทำให้ การมองว่ากลุ่มเยาวชนถูกปลุกปั่น

ดร.นพดล ตอบว่า ผมอยู่กับข้อมูลเยาวชนจิตใจบริสุทธิ์จำนวนไม่น้อย แรกๆ ก็จะเป็นเยาวชนพลังเงียบบริสุทธิ์ เขาเริ่มข้ามในโซเชียล มันมีขบวนการ ปฏิบัติการ 2 รูปแบบ รูปแบบแรก คือ ใช้ BOT และ A รูปแบบที่ 2 คือใช้กองกำลังหรือกำลังคน เยาวชนเข้ามาในโลกโซเซียลด้วยความบริสุทธิ์สงสัยว่า เรื่องนี้ป็นอย่างไร พอคลิกกด A และ BOT จะปฏิบัติการทันทีส่งเรื่องนั้นเข้ามาทันที ในแง่ลบต่อสถาบัน ส่งมาอีก จากสงสัย เป็นสงสัยจะจริง จากสงสัยจริงน่าจะจริง ภายหลังจะจริง สุดท้ายจริงแน่ หลังจากนั้นจะเป็น name calling ทำให้ความเห็นแตกต่างจากความคิดหลายอย่างเหลือเพียงแค่ 2 ฝั่ง คือพวกชังชาติ กับพวกสลิ่ม สุดท้ายจะเป็นเหมือนฮ่องกงใครเห็นไม่เห็นด้วยกับเรา เห็นต่างเผาเลย