'ชาวบ้าน' โวย!! ภาพลักษณ์ 'วัดพระธาตุพนม' ถูกบั่นทอน หลัง 'ถนนลายขิด' ถูกตีเส้นทำที่จอดรถ ทำลายความสวยงาม

(14 พ.ค. 66) ความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดระเบียบวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าวางขายของในพื้นที่โซนนิ่งของทางคณะกรรมการวัดจัดไว้ให้ โดยมีนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง ในฐานะประธานมูลนิธิกองทัพธรรม ไวยาวัจกรวัด เป็นประธานดูแลบริหารทั้งภายในภายนอกวัดพระธาตุพนมฯ จัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เข้ามาดูแลจัดระเบียบ ป้องกันการฉกฉวยโอกาสเรียกรับผลประโยชน์ ด้วยการให้เช่าพื้นที่ขายของในบริเวณวัดของคณะกรรมการวัดบางกลุ่มที่ฝังรากลึกมายาวนาน
.
จนกระทั่งการจัดระเบียบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทางบรรดาพ่อค้าแม่ค้า พร้อมใจยินยอมที่จะเข้าไปขายของในพื้นที่ที่ทางวัดจัดให้ อีกทั้งคณะกรรมการวัดกำลังแก้ไขปัญหาจัดระเบียบทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ควบคู่กับการจัดพื้นที่ขายของแบบถาวร เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อความสวยงามไม่รกหูรกตาเหมือนที่ผ่านมา ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ในการท่องเที่ยว และให้เป็นไปตามระเบียบขั้นตอน ในการเสนอองค์พระธาตุพนมขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
.
ล่าสุดได้มีแกนนำชาวบ้านออกมาร้องเรียนให้ข้อมูลผ่านสื่อ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สะท้อนปัญหาเกี่ยวกับความสวยงามของถนนบริเวณหน้าวัด จากทางเข้าประตูวัดด้านหน้า ที่เคยมีปัญหากับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามาก่อนหน้านี้ ลักษณะเป็นรูปตัวที (T) ยาวไปถึงประตูโขงติดถนนเลียบแม่น้ำโขง โดยจากข้อมูลพบว่า เป็นพื้นที่ถนนลานธรรม ที่ออกแบบก่อสร้างมาเป็นพิเศษ พื้นถนนกว้างประมาณ 8 เมตร ยาวประมาณเกือบ 500 เมตร ส่วนพื้นที่การออกแบบเป็นบล็อกปูพื้น พิมพ์สีออกมาเป็นลวดลายแบบพิเศษ ที่เรียกว่าลายขิดอีสาน สื่อถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมประเพณีของชาวอีสาน เพื่อให้เกิดความสวยงามโดดเด่น หากมีการจัดกิจกรรมขบวนแห่ต่างๆ สามารถสร้างความตื่นตาให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
.
ส่วนริมถนนที่เป็นฟุตบาท จะมีการจัดรวบรวมข้อมูลประวัติความเป็นมา กล่าวถึงความสำคัญขององค์พระธาตุพนม ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ชื่นชมศึกษา แต่ปัจจุบันพื้นลายขิดดังกล่าว มีความสวยงามน้อยลง ไม่มีความโดดเด่น เนื่องจากกรรมการวัดออกแบบ ให้มีการตีลายเส้นสีขาวทับถนนลายขิดอีสาน เพื่อจัดเป็นที่จอดรถ ทำให้เสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และไม่คุ้มค่ากับงบประมาณการออกแบบ ที่ต้องใช้งบประมาณสูงเกือบ 5 ล้านบาท จึงต้องการเรียกร้องผ่านสื่อให้มีการปรับปรุงแก้ไข ให้มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สมกับงบประมาณที่ก่อสร้าง และประชาชน นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงาม โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น