'สนธิญาณ' ส่งสารถึงกลุ่มก๊วนเครื่องมือให้กับพวกต่างชาติ  ขอให้คิดดีๆ!! ใครก่อความวุ่นวายหนนี้ เจอกันหลังเลือกตั้ง

(9 พ.ค. 66) นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นักธุรกิจด้านสื่อสารและนักเคลื่อนไหวการเมือง ได้โพสต์คลิปติ๊กต๊อกพูดคุยประเด็นเรื่อง 'การก่อความวุ่นวายในสังคมไทย' ว่า...

"ผมออกความเห็นทางการเมืองนอกจากรายการชัดครบจบจริงในท็อปนิวส์มานาน เหตุผลเพราะเบื่อหน่ายนักการเมืองและรัฐบาลที่ไม่ได้เห็นปัญหาว่าประเทศเราถูกคุกคามจากชาติมหาอำนาจ โดยมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนผ่านพรรคการเมืองที่มาปั่นหัวเด็กและเยาวชน

"ผมพยายามจะสื่อสารข้อมูลเหล่านี้ไปว่า จะต้องพลิกกลับมาเรียนประวัติศาสตร์ ตามที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ได้ทรงมีพระราชดำรัสไว้ รวมทั้งจะต้องมีการศึกษาถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ได้สร้างให้กับสังคมไทยอย่างลึกซึ้งในพระองค์ที่สำคัญๆ และทำให้ประเทศของเราเข้มแข็งยืนยาวอย่างเป็นเอกราชมาได้จนถึงปัจจุบัน"

นายสนธิญาณ กล่าวต่อว่า "แต่ที่ผ่านมาเรื่องนี้ไม่เคยได้รับความสนใจ นักการเมืองก็เอาแต่แสวงหาผลประโยชน์ เพื่อนำพาไปสู่การเลือกตั้ง แล้วก็จะวนรอบในวงจรอุบาทว์กลับมามีอำนาจกันใหม่ 

"วันนี้ชัดเจนครับว่าประเทศชาติของเราแตกออกเป็น 2 ฝั่ง อย่างชัดเจน ฝั่งหนึ่งอาจจะเรียกว่าพวกอนุรักษ์นิยมหรือกลุ่มผู้สูงวัยที่จงรักภักดีในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อีกส่วนหนึ่งก็คือผู้ที่ประกาศตัวเองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ต้องการการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระดับคนทำงานหนุ่มสาวไปจนถึงนิสิตนักศึกษาในมหาลัยไปถึงเด็กนักเรียนในระดับมัธยม ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองอย่างธรรมชาติ แต่เป็นการสร้างหลักฐานกระบวนการเท็จขึ้นมาและใช้เครื่องมือในการสื่อสารในยุคนี้กระจายไปถึงผู้คน"

นายสนธิญาณ กล่าวต่ออีกว่า "ผมจะเรียนว่าในสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามในแบบหรือสงครามปฏิวัติ ชัยชนะที่แท้จริง จะต้องเกิดขึ้นจากพลังของข่าวสารและการสื่อสารไม่ใช่การใช้อาวุธ อาวุธเป็นเพียงแต่องค์ประกอบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ดังเราจะเห็น...ไม่ว่าจะเป็นการปลุกระดมผู้คนของฮิตเลอร์ในเยอรมันจะต้องผ่านภาพยนตร์ ซึ่งนั่นก็คือเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในขณะนั้น ในสหรัฐอเมริกาก็เช่นกัน ในญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน 

"วันนี้การสื่อสารทันสมัยยิ่งขึ้นการนำพาข่าวสารไปให้ถึงผู้รับสารเป็นไปอย่างรวดเร็วแทบกระพริบตา สามารถกระจายได้เป็นล้านๆ ภายในไม่กี่นาที ปรากฏการณ์ดังกล่าวจึงนำพาไปสู่การปลุกเร้า ข้อมูลที่ผิดและบิดเบือนไปถึงผู้รับสารซึ่งหมายถึงคนหนุ่มสาว นิสิต นักศึกษา และนักเรียน...รัฐบาลที่มีอำนาจและนักการเมืองไม่เคยสนใจเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ข้อมูลที่ผิดและบิดเบือนนั้นมุ่งไปสู่การโจมตีสถานบันพระมหากษัตริย์ แต่เราไม่ได้รับการเอาใจใส่แต่อย่างใดที่จะแก้ไขปัญหา เอาแต่แก้ไขปัญหาเป็นอย่างฉาบฉวย

"เพราะอะไรรู้ไหมครับ? เพราะรัฐบาลและนักการเมืองไม่ได้เข้าใจปัญหาที่แท้จริง ว่าปัญหาเหล่านี้จะนำความหายนะมาสู่บ้านเมืองของเรา สหรัฐอเมริกาต้องการให้เราอยู่ข้างเขา ถ้าไม่อยู่ข้างเขาก็ต้องทำลายเสีย เพื่อไม่ให้อีกฝั่งอีกฝ่าย คือ จีนกับรัสเซียมาใช้ประโยชน์

"ลองคิดดูนะครับที่ฟิลิปปินส์ในสมัยประธานาธิบดีคนก่อนดูแตร์เตประกาศไม่เอาสหรัฐอเมริกา ดูแตร์เตหมดอำนาจลงไป ประธานาธิบดีคนใหม่ประกาศให้จัดตั้งฐานทัพขึ้น 4 แห่ง 

"ส่วนในไทยเคยผิดหวังในการที่จะกลับมาใช้สนามบินอู่ตะเภาในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะกองทัพไม่เอาด้วย แต่ถ้าวันนี้อีกฝั่งอีกฝ่ายหนึ่งเกิดชนะการเลือกตั้งแน่นอนครับประเทศจะถูกเอียงไปทางสหรัฐอเมริกาและตะวันตกในทันที"

นายสนธิญาณ กล่าวถึงจุดแข็งของรัฐบาลที่ผ่านมาด้วยว่า "ในขณะที่ผ่านมาข้อดีข้อรัฐบาลไทยก็คือ การประคับประคองสถานการณ์เหมือนกับที่ผู้นำชาติเราในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นพระมหากษัตริย์หรือนายกรัฐมนตรีในยุคก่อนๆ ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 มาจนถึงสมัยยุคคอมมิวนิสต์นั้น สามารถประคับประคองสถานการณ์ของประเทศให้รอดพ้นไปได้ 

นายสนธิญาณ กล่าวถึงการเตรียมก่อความวุ่นวายของฝ่ายพ่ายแพ้ด้วยว่า "ดังนั้นที่บอกว่าถ้าไม่ชนะก็จะต้องทำลาย ผ่านการออกมาประกาศว่าจะแลนด์สไลด์ของพรรคส้มบ้าง พรรคแดงบ้าง โดยเฉพาะพรรคส้มที่สร้างโพลล์สร้างกระแสในโลกโซเชียลขึ้น แล้วถ้าไม่แลนด์สไลด์ตามที่พูด ก็ประกาศไว้ล่วงหน้าแล้วว่า "เพราะจะมีการโกงเลือกตั้ง?" แบบนี้หมายความว่าไง? หมายความว่า นั่นคือการสร้างประเด็นเงื่อนไขไว้เพื่อเตรียมที่จะก่อความวุ่นวายขึ้นหลังการเมืองหรือไม่?

"ที่ผมออกมาพูดวันนี้ ก็เพื่อจะบอกว่า หากคุณก่อความวุ่นวาย ก็จะได้เจอดีกัน ผมอยากให้ลองไปศึกษาประวัติศาสตร์ของนักศึกษาเมียนมาที่เคยก่อเหตุมาแล้วเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ท้ายที่สุดแตกพ่าย หนีกระเซอะกระเซิงมาพึ่งพิงในประเทศไทยและไปศึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาให้ดีๆ ด้วย

"อย่าคิดว่าวันนี้สหรัฐอเมริกาและตะวันตกจะมีอำนาจทำอะไรใครต่อใครได้ เพราะวันนี้การผนึกกำลังอย่างเข้มแข็งในโลกอาหรับที่เคยแตกเป็น 2 ฝัก 2 ฝ่าย จากการยุแยงของสหรัฐอเมริกาจบสิ้นลงแล้ว ยิ่งการผนึกกำลังของจีนกับรัสเซีย บวกกับอาหรับและแอฟริกา, อเมริกากลาง, อเมริกาใต้ ทำโลกเปลี่ยนไป หากคิดที่จะก่อความวุ่นวายขึ้นรับรองได้เจอดีแน่"

นายสนธิญาณ ย้ำถึงพลังของคนรุ่นเก๋าด้วยว่า "ยังมีคนไทยอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจจะคิดว่าพวกนี้เป็นคนแก่คนเฒ่า แต่บอกได้เลยว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีพลัง ผ่านบทเรียนการต่อสู้มาแล้วในทุกรูปแบบและหนักหน่วงกว่าที่ปัจจุบันกระแสในขณะนี้ คนที่เคยผ่านการต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรมมาในยุคสมัยอดีตตั้งแต่คราวยุคเหตุการณ์ 6 ตุลา ที่เอามาสร้างกระแสกันอยู่ในปัจจุบัน ทำไมเขาถึงไม่โกรธไม่แค้น เพราะเขาเห็นความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบันนั้นมันไม่ได้มาจากการกดขี่ ขูดรีด หรือเอารัดเอาเปรียบ แต่มันเลยระดับไปจนถึงการต่อสู้ในระดับโลกที่สหรัฐอเมริกาได้เข้าแทรกแซงสังคมไทย-ประเทศไทย เพื่อจะใช้ประโยชน์ต่อไป"

"ดังนั้นใครที่คิดเป็นเครื่องมือให้กับพวกต่างชาติ ขอให้คิดให้ดี เพราะตนจะไม่นิ่งเฉยแน่นอน" นายสนธิญาณ ทิ้งท้าย


ที่มา: https://vt.tiktok.com/ZS8EqFTaU/