‘สหรัฐฯ’ เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ หลังสภาพคล่องติดขัด เงินสดเหลือใช้ไม่ถึงกลางปี 66 ลุ้น!! นโยบายยืดชีวิต

เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกอาการหวั่นวิตก ว่าเงินคงคลังในประเทศกำลังหมด ซึ่งอาจนำไปสู่สัญญาณอันตรายว่าสหรัฐฯ มหาอำนาจด้านเศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลก เสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 นี้ หากสภาคองเกรซไม่เร่งพิจารณานโยบายเพิ่มเพดานหนี้ หรือ ระงับอำนาจในการกู้เงินในประเทศ ก่อนภาคธุรกิจการเงินของโลกจะปั่นป่วนรุนแรง 

ทั้งนี้ เจเน็ต ยังได้ส่งจดหมายตรงถึงทั้งประธานสภาผู้แทน และ วุฒิสภา ให้เร่งพิจารณานโยบายดังกล่าวเพื่อปกป้องศรัทธา และความน่าเชื่อมั่นของสหรัฐอเมริกาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยได้อ้างถึงแผนการจำกัดวงเงินกู้จำนวน 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เป็นอำนาจการกู้เงินตามกฎหมาย

รัฐมนตรีคลังหญิง หนักใจกับความหนักหนาสาหัสของสภาพคล่องในกองคลังของสหรัฐฯ ถึงขนาดกล่าวออกมาว่า ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า เงินสดจะหมดคลังสหรัฐฯ เมื่อไหร่ แต่หากประเมินจากรายได้ภาษีในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และ ระดับค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง คาดว่ามีกระแสเงินสดใช้จ่ายได้ถึงแค่ต้นเดือนมิถุนายนนี้เท่านั้น

นี่จึงมีความจำเป็นที่สภาคองเกรซต้องเร่งพิจารณาแผนขึ้นเพดานหนี้ หรือระงับการจำกัดวงเงินกู้เพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว และรักษาศักยภาพในการชำระหนี้ได้ 

นางเยเลน ยังเตือนอีกว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เคยมีประสบการณ์มาแล้ว ว่าหากรอจนถึงนาทีสุดท้ายในการตัดสินใจระงับวงเงินกู้ หรือ เพิ่มวงเงินกู้จะสร้างความเสียหายแก่ภาคธุรกิจ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคขนาดไหน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มต้นทุนเงินกู้ระยะสั้นของผู้เสียภาษี และ ยังส่งผลเสียต่อระดับความน่าเชื่อถือของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย 

นับเป็นวิกฤตการเงินในสหรัฐฯ ที่หลายประเทศกำลังจับตามอง เพราะใครจะเชื่อว่ามหาอำนาจทางการเงินอย่างสหรัฐอเมริกาจะถังแตก จนถึงขั้นผิดนัดชำระหนี้ได้ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงเจ้าหนี้สหรัฐที่มีอยู่ทั่วโลกจะเริ่มหนาวๆ ร้อนๆ แม้แต่ชาวอเมริกันทั่วไปก็ชักหวั่นๆว่ารัฐบาลสหรัฐฯได้ก่อหนี้มากกว่าที่คิด พอรู้ตัวอีกที เงินก็จะหมดประเทศซะแล้ว

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์


อ้างอิง: AP News / NPR