‘ผู้ประกอบการไทย’ ร่วมงาน ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่ง’ มุ่งพา ‘ภาพยนตร์ไทย-ละครไทย’ บุกตลาดจีนในอนาคต

(30 เม.ย.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำหรับผู้ชมชาวจีนจำนวนมากแล้ว ภาพยนตร์ไทยเรื่องสุดท้ายที่ดูในโรงอาจเป็นเรื่อง “ฉลาดเกมส์โกง” เมื่อปี 2017 ที่ถึงแม้จะเป็นหนังทุนต่ำ แต่กลับกวาดรายได้จากการจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์หรือบ็อกซ์ออฟฟิศจีนได้ถล่มทลายถึง 271 ล้านหยวน (ราว 1.33 พันล้านบาท) ขึ้นแท่นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดในจีน

และเมื่อไม่นานนี้แสงสปอตไลต์ได้สาดส่องไปยังภาพยนตร์ไทยอีกครั้ง ณ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่งครั้งที่ 13 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-29 เม.ย.

ลี ทองคำ ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทย จากบริษัท ทองคำ ฟิล์มส์ จำกัด ซึ่งเข้าร่วมงานเผยว่าหลังจากได้ร่วมงานกับผู้กำกับชาวจีนรวมถึงบริษัทภาพยนตร์และวิดีทัศน์ของจีนตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ก็ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย และมาร่วมงานนี้เพื่อมองหาโอกาสการร่วมมือ เขากล่าวว่าผู้กำกับ นักแสดง เงินทุน และทรัพยากรอื่นๆ ที่มีคุณภาพของจีนช่วยยกระดับการผลิตผลงานร่วมกัน และเผยว่าภาพยนตร์ที่ตนผลิตร่วมกับบริษัทจีน ซึ่งเปิดตัวในไทยเมื่อปีที่แล้ว กำลังอยู่ระหว่างการโปรโมตให้เข้าถึงผู้ชมชาวจีนในฤดูร้อนนี้

“ทีมกองถ่ายจีนนิยมมาถ่ายหนังที่ไทยมาก มีหลายโครงการที่อยู่ระหว่างเจรจาหรือเริ่มถ่ายทำในไทยแล้ว” คำกล่าวของจางเลี่ยง จากบริษัทอาร์ท้อป มีเดีย (Artop Media) ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2009 และได้นำภาพยนตร์ไทยส่งออกสู่สายตาผู้ชมชาวจีนแล้วมากกว่า 100 เรื่อง รวมถึงมีส่วนร่วมผลิตผลงานภาพยนตร์จำนวนหนึ่งในประเทศไทยด้วย

จางเลี่ยงกล่าวว่า เทศกาลภาพยนตร์เช่นนี้ สร้างเวทีการแลกเปลี่ยนระหว่างหน่วยงานรัฐ บริษัทภาพยนตร์ และผู้ประกอบวิชาชีพในวงการภาพยนตร์ของทั้งสองประเทศ พร้อมเผยว่าหลายปีมานี้ภาพยนตร์ไทยขายลิขสิทธิ์ได้ดีมากในจีน แต่ปัจจุบันภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายในโรงของจีนมีไม่กี่เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นการเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อใหม่มากกว่า

ปัจจุบัน แพลตฟอร์มวิดีโอ เช่น อ้ายฉีอี้ (iQiyi) เทนเซ็นต์ (Tencent) และ บิลิบิลิ (Bilibili) ไม่เพียงแต่เป็นช่องทางหลักของชาวจีนในการชมภาพยนตร์ไทยเท่านั้น แต่ยังรุกเข้าสู่ตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ของจีนจำนวนมากเผยโฉมสู่ตลาดผู้ชมชาวไทย

ขณะที่บริษัทจีนอย่างไป่หมิง กรุ๊ป (Baiming Group) ซึ่งทำธุรกิจแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ก็หวังที่จะสร้างความร่วมมือกับบริษัทผลิตภาพยนตร์และฐานการถ่ายทำภาพยนตร์ของไทยผ่านเทศกาลนี้ เพื่อโปรโมตภาพยนตร์และละครใหม่ๆ

สี่ฉงส่วง ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจของไป่หมิง กรุ๊ปกล่าวว่าแนวทางของหนังและละครทีวีไทยนั้นใกล้เคียงกับจีน ทั้งประเภทของหนัง รวมถึงการวางตัวนักแสดงก็สอดคล้องกับรสนิยมของผู้ชมชาวจีนมากกว่าหนังจากตลาดอื่น

วรรณสิริ โมรากุล ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรมของไทย กล่าวว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ตนได้เป็นตัวแทนเพื่อโปรโมตภาพยนตร์ไทยในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่งครั้งนี้ และรู้สึกประทับใจมากที่เห็นว่าผู้ชมชาวจีนชื่นชอบภาพยนตร์ไทยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยยกตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องมายาพิศวง (Six Characters) ซึ่งนำแสดงโดยมาริโอ้ เมาเร่อ นักแสดงไทยผู้มีแฟนคลับชาวจีนอยู่ไม่น้อย พร้อมเผยด้วยว่าตนก็มีนักแสดงจีนที่ชื่นชอบเช่นกัน และแสดงความหวังว่าในอนาคตจะมีภาพยนตร์และละครไทยเข้าสู่ตลาดจีนมากยิ่งขึ้น