‘ชินวัตร’ ขายที่ดินย่านลาดหญ้า 22 แปลง ให้ ‘เอสซีฯ’ รองรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เพื่อต่อยอดอสังหาฯ

ครอบครัวชินวัตร ขายที่ดินย่านลาดหญ้า 22 แปลง ให้ SC มูลค่า 1,239 ล้าน พัฒนาคอนโด
เมื่อวันที่ (17 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทให้นำวาระบริษัท เอสซี แอสเสท โฟร์ จำกัด (SC FOUR ) เป็นบริษัทย่อยของเอสชีที่มีแผนจะเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินจำนวน 22 แปลง พื้นที่รวม 4 ไร่ 3 งาน 36.3 ตารางวา หรือ 1,936.3 ตารางวา มูลค่ารวม 1,239.23 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนลาดหญ้า จากบริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (RENDE) ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกันกับบริษัท เพื่อนำที่ดินมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ตามแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 พิจารณาอนุมัติในวันที่ 19 เมษายน 2566

อย่างไรก็ตามเนื่องจากบริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (RENDE) ผู้ขายเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกันกับบริษัท การเข้าทำรายการดังกล่าว จะต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเอสซี ซึ่งต้องได้รับคะแนนเสียงอนุมัติไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย และภายหลังได้รับอนุมัติจะเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายในเดือนพฤษภาคมนี้

โดยผู้ซื้อบริษัท เอสซี แอสเสท โฟร์ จำกัด กับผู้ขายบริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด มีความสัมพันธ์ ดังนี้ 

1. SC FOUR เป็นบริษัทย่อยของบริษัทโดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 บริษัทถือหุ้น SC FOUR ในสัดส่วนร้อยละ 99.99 
2. ครอบครัวชินวัตร เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 60.29 ของทุนที่ชำระแล้ว และเป็นผู้มีอำนาจควบคุมกิจการ
3. ครอบครัวชินวัตร เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน RENDE ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 100 ของทุนที่ชำระแล้ว 
4. นายณัฐพรศ์ คุณากรวงศ์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการของบริษัทและดำรงตำแหน่งกรรมการของ SC FOUR และเป็นสามีของนางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งถือหุ้นในบริษัทจำนวน 1,176,915,495 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.80 และถือหุ้นใน RENDE จำนวน 138,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30

การเข้าทำรายการซื้อที่ดินในครั้งนี้ จะทำให้ SC FOUR ได้ที่ดินเปล่าในบริเวณถนนลาดหญ้าขนาดพื้นที่ 4-3-36.3 ไร่ รวมกับที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ SC FOUR ขนาดพื้นที่ 0-3-10.9 ไร่ รวมเป็น 5-247.2 ไร่ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อขายจำนวน 2 อาคาร พื้นที่ขายรวมประมาณ 33, 322 ตารางเมตร โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟส เฟสละ 1 อาคาร โดยทยอยก่อสร้างและเปิดขายที่ละเฟส ซึ่งจะทำให้ SC FOUR สามารถพัฒนาโครงการได้อย่างต่อเนื่อง

โดยทำเลที่ตั้งของที่ดินมีศักยภาพในการพัฒนาโครงการ ที่ดินแปลงนี้ตั้งอยู่บนถนนลาดหญ้า เป็นทำเลที่ดี มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เป็นศูนย์กลางการขยายตัวและเติบโตของเมืองจากฝั่งพระนครมายังอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา มีการคมนาคมที่สะดวก ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีคลองสานเพียง 600 เมตร รวมถึงการเริ่มพัฒนาโครงการสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้

การเข้าทำรายการจะทำให้ SC FOUR มีที่ดินที่มีศักยภาพสำหรับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสามารถสร้างกระแสเงินสดและรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงโอกาสเพิ่มรายได้และกำไรในอนาคต

ทั้งนี้ SC FOUR วางแผนพัฒนาที่ดินที่จะเข้าทำรายการในครั้งนี้รวมกับที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ SC FOUR ให้เป็นโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อขาย โดย SC FOUR คาดการณ์ระยะเวลาพัฒนาโครงการช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม 2568 – สิงหาคม 2571 รายได้โครงการรวม 2 เฟส ประมาณ 4,719.12 ล้านบาท

หากการพัฒนาโครงการนี้ประสบความสำเร็จและเป็นไปตามที่บริษัทดาดการณ์ไว้ จะทำให้ SC FOUR มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคต เพิ่มเติมจากโครงการเดิมที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน

สำหรับการเข้าทำรายการซื้อที่ดินรวมถึงการพัฒนาโดรงการทั้ง 2 เฟสในครั้งนี้ จำนวนเงินต้นทุนโครงการรวมประมาณ 3,094.06 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าที่ดิน 1,305.90 ล้านบาท ค่าก่อสร้างและงานระบบสาธารณูปโภค 1,320.98 ล้านบาท และต้นทุนอื่นๆ 467.18 ล้านบาท


ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_3931143