‘เฟอร์รารี่’ เปิดตัว ‘Ferrari Purosangue’ SUV 4 ประตู 4 ที่นั่ง ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 75 ปี เคาะราคาขายที่ 40.5 ล้านบาท

Ferrari Purosangue (พูโรซังกเว้) เป็นรถสปอร์ตแบบ 4 ประตูขนานแท้จากเฟอร์รารี่ โดยถือเป็นรถ 4 ประตู 4 ที่นั่งรุ่นแรกของประวัติศาสตร์ 75 ปี ของม้าลำพอง มาพร้อมเครื่องยนต์แบบวางกลางลำด้านหน้า และติดตั้งชุดเกียร์ไว้ด้านหลัง เพื่อให้ได้มาซึ่งเลย์เอาต์แบบรถสปอร์ต แตกต่างจากรถครอสโอเวอร์และเอสยูวีทั่วไปที่มักติดตั้งเครื่องยนต์เยื้องไปทางด้านหน้าจนเกือบคร่อมเพลาหน้า ส่งผลให้มีการกระจายน้ำหนักไม่เหมาะสม ขณะที่พูโรซังกเว้มีการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังอยู่ที่ 49:51 ซึ่งวิศวกรแห่งมาราเนลโลเห็นพ้องว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางลำด้านหน้า

ชื่อ Purasangue ในภาษาอิตาลีแปลว่า ‘พันธุ์แท้’ มาพร้อมแชสซีซ์ที่ถูกออกแบบใหม่หมดจด ติดตั้งหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อช่วยลดน้ำหนักและจุดศูนย์ถ่วงของรถ และการออกแบบตัวถังใหม่ส่งผลให้สามารถติดตั้งประตูแบบบานพับอยู่ด้านหลัง (Welcome Doors) ทำให้สามารถเข้า-ออกรถได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ตัวรถยังมีขนาดกะทัดรัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ตัวถังภายนอกได้รับการออกแบบและขัดเกลาอย่างประณีตโดย Ferrari Styling Centre เพื่อให้เกิดรูปทรงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดีไซน์ประกอบด้วยสองส่วนที่แยกออกจากกันอย่างเห็นได้ชัด โดยส่วนล่างของตัวรถเน้นไปทางเทคนิคบริเวณใต้ท้องรถ ขณะที่ตัวถังส่วนบนมีความน่าเกรงขามและสง่างาม โดยจุดนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงส่วนเว้าโค้งที่ดูรายกับลอยตัวอยู่เหนือซุ้มล้อทั้งสี่

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะไฟฟ้าแบบทำความร้อนได้ทั้ง 4 ที่นั่ง สามารถรองรับผู้ใหญ่ 4 คน ได้อย่างสะดวกสบาย ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรถมีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เฟอร์รารี่เคยมีมา และเบาะหลังยังสามารถพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่ใส่สัมภาระได้ จากรูปแบบตัวตัวรถส่งผลให้ตำแหน่งการขับขี่สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถได้เหนือกว่าเฟอร์รารี่รุ่นอื่นๆ แต่การจัดวางยังคงเป็นแบบเดียวกับเฟอร์รารี่ทุกคัน นั่นคือตำแหน่งการขับขี่ที่กระชับและใกล้กับพื้น เพื่อมอบความรู้สึกเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกับการเคลื่อนไหวของรถ อีกทั้งยังสามารถเลือกออปชันเสริม เช่น เครื่องเสียง Burmester และหนัง Alcantara แบบใหม่ที่ผลิตจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล เป็นต้น

Ferrari Purosangue ติดตั้งเครื่องยนต์ 12 สูบ ความจุ 6.5 ลิตร ไร้ระบบช่วยอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 725 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 716 นิวตัน-เมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที โดยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของแรงบิดมีให้ใช้ที่รอบต่ำเพียง 2,100 รอบต่อนาที อีกทั้งบุคลิกการตอบสนองคันเร่งเป็นแบบเดียวกับรถสปอร์ตขนานแท้ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.3 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ในเวลา 10.6 วินาที

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ 8 จังหวะ F1-DCT คลัตช์น้ำมันคู่ ถูกปรับให้เหมาะสมผ่านการใช้ดรายซัมพ์และชุดคลัตช์ที่มีขนาดกะทัดรัดกว่าเดิม ช่วยลดความสูงได้ 15 มม. ขณะที่ประสิทธิภาพของชุดคลัตช์ใหม่เพิ่มสูงขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์ รองรับแรงบิดขณะเปลี่ยนเกียร์ได้สูงถึง 1,200 นิวตัน-เมตร พร้อมชุดควบคุมแรงดันไฮดรอลิกเจเนอเรชันใหม่ช่วยให้เวลาในการปลดและจับคลัตช์เร็วกว่าเดิม ทำให้เวลารวมในการเปลี่ยนเกียร์ลดลงเมื่อเทียบกับเกียร์ DCT 7 จังหวะรุ่นก่อนหน้านี้

Ferrari Purosangue มีอุปกรณ์สั่งติดตั้งพิเศษและการตกแต่งแบบเฉพาะตัวให้เลือกหลากหลายชนิด โดยเป็นครั้งแรกของเฟอร์รารี่ที่เปิดโอกาสให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถเลือกปรับแต่งหลังคารถได้เอง โดยสามารถสั่งติดตั้งกระจกขนาดใหญ่เต็มพื้นที่แบบ Electrochromic แทนหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ตัวกระจกด้านในเคลื่อนด้วยฟิล์ม Electro-sensitive เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านฟิล์ม จะเกิดการเปลี่ยนระดับสีเพื่อให้มีแสงส่องเข้ามายังห้องโดยสาร หรือสามารถปิดทึบได้ตามต้องการ

นี่นับเป็นการเปลี่ยนแปลงก้าวสำคัญของ Ferrari ที่จะเปิดตลาดไปสู่ลูกค้าผู้บริโภคเศรษฐีกลุ่มใหม่ หลังจากที่คู่แข่ง supercar อย่าง Porsche หรือ Lamborghini ได้ออกรถ SUV ทำตลาดขายอย่างถล่มทลายกันมาแล้ว ก็ต้องมาลองดูกันซิว่า สาวกเจ้าม้าลำพองนั้น จะให้การตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน


เรื่อง: กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager