ทัพใหญ่ 'พปชร.' ปราศรัยหนุนผู้สมัคร ส.ส.กทม.33 เขต ลั่น!! พปชร. เป็นรัฐบาล 'ขจัดฝุ่นพิษ-ปลดหนี้-เพิ่มรายได้' ทันที

(18 มี.ค.66) พรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดเวทีปราศรัยที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม.ภายใต้ชื่อ 'พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ' นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก, นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง, นายอุตตม สาวนายน ประธานจัดทำนโยบาย และ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์

โดย พรรคพลังประชารัฐได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต ประกอบด้วย...
เขต 1 พระนคร สัมพันธวงศ์ ดุสิต บางรัก นายสฤษดิ์ ไพรทอง
เขต 2 สาทร ราชเทวี ปทุมวัน นายพณิชย์ วิทยาภัทร์
เขต 3 บางคอแหลม ยานนาวา น.ส.ชญาภา ธารดำรงค์ 
เขต 4 คลองเตย วัฒนา นายภูวกร ปรางภรพิทักษ์ 
เขต 5 ห้วยขวาง วังทองหลาง นายกานต์ กิตติอำพน 
เขต 6 ดินแดง พญาไท ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร  
เขต 7 บางซื่อ ดุสิต ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช 
เขต 8 จตุจักร หลักสี่ นายรังสรรค์ กียปัจจ์ 
เขต 9 บางเขน จตุจักร หลักสี่ นายปราโมทย์ เพ็ชรฤทธิ์ 
เขต 10 ดอนเมือง ภญ.สุชาดา เวสารัชตระกูล
เขต 11 สายไหม น.อ. บัญชาพล อรัณยะนาค
เขต 12 บางเขน สายไหม ลาดพร้าว ภญ.นพวรรณ หัวใจมั่น 
เขต 13 ลาดพร้าว วังทองหลาง นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ  
เขต 14 บางกะปิ วังทองหลาง น.ส. นฤมล รัตนาภูบาล  
เขต 15 คันนายาว บึงกุ่ม น.ส.ณิรินทร์ เงินยวง 
เขต 16 คลองสามวา นายกิติภูมิ นีละไพจิตร
เขต 17 หนองจอก คลองสามวา นายศิริพงษ์ รัสมี
เขต 18 หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง นายพีระพงษ์ รัสมี 
เขต 19 มีนบุรี สะพานสูง นางนาถยา แดงบุหงา 
เขต 20 ลาดกระบัง นายบุญรุ่ง เต๋งจงดี
เขต 21 ประเวศ สะพานสูง น.ส.แพรว กิจสุวรรณ
เขต 22 สวนหลวง ประเวศ  นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ 
เขต 23 พระโขนง บางนา นายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ
เขต 24 คลองสาน ธนบุรี ราษฎรบูรณะ นายศันสนะ สุริยะโยธิน 
เขต 25 ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา 
เขต 26 จอมทอง บางขุนเทียน นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ 
เขต 27 บางบอน บางขุนเทียน นายสาโรจน์ ซึ้งไพศาลกุล  
เขต 28 หนองแขม บางบอน จอมทอง นายมานพ มารุ่งเรือง 
เขต 29 บางแค หนองแขม นายเอกชัย ผ่องจิตร์ 
เขต 30 บางแค ภาษีเจริญ นายสิทธิโชค คล้อยแสงอาทิตย์
เขต 31 ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน น.ต.นิธิ บุญยรัตกลิน 
เขต 32 บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน ธนบุรี น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ 
และเขต 33 เขตบางพลัด บางกอกน้อย นายคมสัน พันธุ์วิชาติกุล

จากนั้นเมื่อเวลา 17.20 น.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวปราศรัยว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองที่ตนก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 61 และ คน กทม. ก็ให้ความไว้วางใจกับพรรคของเรา การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐได้คัดสรรผู้สมัครคุณภาพทั้ง 33 เขต มาผสมกับผู้สมัครรุ่นเก๋าที่จะมาร่วมใจกันเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานครให้ดีขึ้น ครั้งนี้ถือเป็นเวทีเป็นไม้แรก ของขุนพลพลังประชารัฐ กทม. ซึ่งในวันนี้เป็นวันที่ประกาศเปิดตัวทั้ง 33 เขต มั่นใจถึงความพร้อมทั้งตัวบุคคลและนโยบาย ตนขึ้นเวทีเป็นคนแรกเพื่อบอกว่า พปชร.ในอดีตที่พี่น้องกทม.ให้ความไว้วางใจ มี ส.ส.กทม.12 คน ตนจึงเป็นสัญลักษณ์ว่าในอดีตที่พี่น้องให้กำลังใจนั้น วันนี้มาเชื่อมโยงให้การเลือกตั้งครั้งนี้สำเร็จ ซึ่งพรรคคัดผู้สมัครคุณภาพ 33 เขต ผสมผสานระหว่างผู้สมัครตัวเก๋า และ รุ่นใหม่ที่จะเป็นขวัญใจพี่น้องกทม. 

"แน่นอนว่า ปัญหาของ กทม. ที่นับวันจะรุนแรงขึ้น คือเรื่องมลภาวะทางอากาศ หรือฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังสร้างปัญหาให้กับผู้สูงอายุรวมไปถึงเด็ก ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยทางระบบหายใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นพรรคประชารัฐจะนำอากาศบริสุทธิ์ กลับคืนมาให้กับคนไทยทุกคน เรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 คือปัญหาเร่งด่วน เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญของคนทุกชนชั้น ขอให้ทุกคนไว้วางใจผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ เลือกพวกเขาเข้ามาเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนทุกคนทั้ง 33 เขต เพราะพลเอกประวิตรหัวหน้าพรรคของเรา ได้ประกาศเอาไว้แล้วว่า หากได้เข้ามาเป็นรัฐบาลปัญหาฝุ่น PM 2.5 จะต้องได้รับการแก้ไขทั้งพื้นที่ กทม.และทั่วประเทศ" สนธิรัตน์ กล่าว

ต่อมาในเวลา 17.30 น. นายอุตตม สาวนายน ประธานจัดทำนโยบาย กล่าวปราศรัยว่า "วันนี้เรามาเพื่อแสดงเจตจำนงว่า เราจะทำงานอย่างมุ่งมั่น เพื่อพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพและทุกจังหวัดของประเทศไทย กทม.ต้องเป็นหัวขบวน เพื่อเป็นศูนย์กลางของเกือบทุกกิจกรรม ถ้าให้นำไปเทียบกับนานาประเทศแล้ว ต้องบอกว่ากรุงเทพของเราไม่น้อยหน้าประเทศไหน

"ขอพูดถึงนโยบายเพื่อชาว กทม.อย่าง กรุงเทพ +5 คือพื้นที่ กทม.บวกกับ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานีสมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา และ กรุงเทพฯต้องเป็นศูนย์กลางพัฒนา 360 องศา รวมถึงการกระจายความแออัดจาก กทม.ไปยังจังหวัดปริมณฑลที่มีของดีไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงแหล่งอาหารขนาดใหญ่ ที่เตรียมรอให้เราไปพัฒนา ทั้งนี้ เราจะสร้างเศรษฐกิจย่าน กทม.10 ย่านนำร่องไม่ว่าจะเป็นเขตลาดพร้าว เขตประเวศ เพื่อยกระดับและพัฒนาศักยภาพของพื้นที่ โดยการดึงจุดเด่นของแต่ละพื้นที่ออกมา โดยมีการเชื่อมโยงการคมมนาคมที่สะดวกและรวดเร็ว เพื่อเป้าหมายในการเติมเต็มความสุขให้กับคนเมืองให้ได้" นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม กล่าวอีกว่า พรรคพปชร. จะตั้งกองทุนประชารัฐ เพื่อปลดภาระ เพิ่มรายได้ และสร้างโอกาส แก้หนี้ให้เบ็ดเสร็จ เติมทุนใหม่ แล้วเสริมทักษะ ในกรอบวงเงิน 300,000 ล้านบาท เพื่อนำมาแก้หนี้ให้เบ็ดเสร็จ โดยกองทุนจะมีการให้กู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพยกตัวอย่างเช่น การกู้เงินจำนวน 50,000 บาท จะใช้เวลาผ่อน 7 ปี ซึ่งจะตกวันละ 24 บาท โดยดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 5 

นอกจากนี้ จะลงทุนพัฒนาในย่านเศรษฐกิจ และมีการจัดทุนตั้งต้นให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมไปถึงการพัฒนาการค้าขายในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยพรรคพลังประชารัฐ ยังมีนโยบายดูแลค่าใช้จ่าย เช่น ช่วยค่าใช้จ่ายตั้งแต่ตั้งครรภ์ถึงหกขวบ ซึ่งกลุ่มคนนี้จะมีประมาณ 266,000 คน และยกเว้นภาษีบุคคลธรรมดาผู้มีรายได้ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปีทุกอาชีพ รวมถึงบ้านหลังแรกสามารถนำค่าผ่อนบ้านมาลดภาษีได้  200,000 บาท 

นายอุตตม ทิ้งท้ายว่า ทั้งนี้ ในส่วนของบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือนที่ประชาชนคงจะทราบกันไปแล้ว แต่เราจะมีการเพิ่มการใช้บัตรให้ครอบคลุม เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าเดินทางสาธารณะ วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ และอื่นๆ เพื่อให้ความสะดวกสบายกับประชาชนมากขึ้น และเราจะมีการประกันชีวิตในวงเงิน 200,000 บาทต่อราย ฟรี