‘การเหยียดเพศ’ พฤติกรรมฝังรากของ ‘ชาวตะวันตก’ ที่เชื่อฝังหัวว่า ‘ขัดหลักศาสนา’ ฝากบาดแผลทุกยุคสมัย

ก่อนที่เราจะกลับบ้าน เราถามไมเคิลกับเจมส์ว่าจะให้ไปส่งบ้านไหม เขาทั้งสองบอกว่าก็ดีเหมือนกันเพราะจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าแท็กซี่กลับ ระหว่างทางไมเคิลกับเจมส์ก็เอ่ยปากชวนเราไปทานอาหารแถวบ้านพวกเขาในวันอังคารที่จะถึง ส่วนเราพอได้ยินแบบนั้นก็รีบตอบตกลงไปทันที เพราะตื่นเต้นจะได้มีเพื่อนไปทานอาหารตอนกลางคืน เพราะส่วนใหญ่ตัวเราจะไม่ค่อยทานอาหารเป็นเรื่องเป็นราว เรามักจะทานโดนัทหรือขนมขบเคี้ยวที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเสมอๆ

เมื่อถึงวันอังคาร เรารีบทำการบ้านจากโรงเรียนสอนภาษาให้เสร็จ เนื่องจากเรารู้ว่าเจอสองคนนี้ต้องพูดคุยกันจนถึงดึกแหง ๆ เราขับรถไปหาไมเคิลกับเจมส์ที่หน้าบ้านเขา เมื่อพวกเขาลงมาไมเคิลก็บอกให้หาที่จอดได้เลย ร้านอยู่ไม่ไกลนัก เดินประมาณห้านาทีจากบ้านเขาก็ถึง 

ประจวบเหมาะว่าวันนี้เป็นวันที่มีคอนเสิร์ตในบริเวณนั้นด้วย พวกเราเลยวนหาที่จอดรถประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าเราจะได้ที่จอดรถ ซึ่งห่างจากร้านอาหารพอสมควร ต้องเดินกันเกือบสิบห้านาที เราก็บอกกับทั้งสองว่าดีเหมือนกันเราได้ออกกำลังก่อนทานอาหารค่ำ ระหว่างที่เดินไปนั้นเราก็คุยกันเรื่องต่าง ๆ อย่างเมามัน สักครู่เราสามคนก็ได้ยินคนทำเสียงเล็กเสียงน้อยล้อเลียนมาจากข้างหลัง เราหันขวับไปเห็นเด็กหนุ่มผิวสีอายุไม่ถึงสิบแปดเดินควงสาวทำลอยหน้าลอยตาแล้วกล่าวว่า ‘Three fags on the road’ ซึ่งหมายถึง ‘ตุ๊ดสามนางบนถนน’

ไมเคิลบอกว่าไม่ต้องไปสนใจให้เดินต่อไป แต่เจมส์อดรนทนไม่ไหวหันกลับไปต่อคำว่า “Grow up” คล้าย ๆ กับว่า “โตซะบ้างได้แล้ว” ทันทีที่เจมส์หยุดพูด ไอ้หนุ่มปากเปราะรี่เข้ามาหาเจมส์และชกเขาล้มไป ไมเคิลโกรธจนหน้าแดงเลยวิ่งไปจะช่วยสู้กับเจ้าตัวร้าย 

ส่วนสาวที่ไอ้หนุ่มน้องควงมาด้วย ก็พยายามเข้ามาห้ามทัพ ตะโกนบอกให้หยุด ๆ หลายครั้ง ไอ้ตัวแสบได้สติเลยวิ่งหนีไป ทั้งไมเคิลและเจมส์รีบวิ่งตามไป แต่สองคนนั้นวิ่งหายเข้าไปในตึกอพาร์ตเมนต์ ส่วนเราสามคนที่วิ่งตามไปอย่างกระชั้นชิด ก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขวางไว้ไม่ให้เข้า โดยให้เหตุผลว่าพวกเราไม่ใช่ผู้อยู่อาศัยในตึกนั้น พวกเราทั้งสามหัวเสียไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ดึงดันจะเข้าไป พออารมณ์เย็นลงก็มาคิดกันว่าจะทำอย่างไรต่อดี ไมเคิลบอกว่าควรจะไปแจ้งตำรวจที่โรงพัก เราเลยขับรถมุ่งไปที่โรงพักใกล้ ๆ แถวที่เกิดเหตุ

สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราทั้งสามคนไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นสิ่งที่ชนกลุ่มน้อยเผชิญอยู่ทุกวันในอเมริกา มันคือการเหยียด (discrimination) ประเทศนี้มีการเหยียดหลายอย่าง เช่น เหยียดสีผิว เหยียดเพศหลากหลาย เหยียดอายุ เหยียดความพิการ 

แต่ในที่นี้ขอเน้นแค่การเหยียดเพศหลากหลาย ประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดมาจากการก่อตั้งของพวก Puritan pilgrims พวกเขาคือชาวอังกฤษที่เคร่งศาสนาคริสต์และมุ่งมั่นที่จะตัดพิธีกรรมของคาทอลิกออกจากนิกายของอังกฤษ (Church of England) อย่างสิ้นเชิง เมื่อทางรัฐบาลอังกฤษไม่น้อมเอนตามอุดมการณ์ของพวกเขา พวกเขาจึงหนีมาตั้งถิ่นฐานในดินแดนใหม่ในช่วงต้นคริสต์ศักราช 1700 เพื่อจะได้มีอิสระในการนับถือศาสนาตามแนวคิดของตน 

ต่อมาแนวคิดทางศาสนาของพวกเขาได้พัฒนาเป็นนิกาย Evangelical ที่เข้มงวดในการปฏิบัติตามคำสอนพระคัมภีร์ไบเบิลทุกประโยค พวกเขาตีความว่าชาวเพศหลากหลายนั้นไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระเจ้า เพราะชาวคริสเตียนควรที่จะเกิดมาเพื่อสืบพันธุ์และเผยแพร่ศาสนา ความต้องการทางเพศที่ไม่ได้ลงเอยด้วยการเกิดบุตรธิดานั้นเป็นการขัดต่อคำสอนของพระคัมภีร์และเป็นบาป 

ความเชื่อทางศาสนาของพวกเขาเป็นฐานการสร้างกฎหมายของประเทศ คนที่ไม่ได้เป็นหญิงชายตามหลักความเชื่อถูกจัดว่าเป็นคนลักเพศและควรจะถูกลงโทษตามกฎหมาย พ่อแม่เห็นลูกมีแนวโน้มที่จะชอบเพศเดียวกันก็จะจับลูกเข้าไปทำบำบัดเปลี่ยนความชอบทางเพศ (conversion therapy) ซึ่งบางทีใช้ไฟช็อต, เฆี่ยน, ขู่ หรือใช้ยากล่อมประสาท ผู้ที่ไม่ยอมทำตามที่สังคมกำหนดให้เดินมักจะสังสรรค์กันในสถานที่ลับ 

บ่อยครั้งที่ตำรวจได้เบาะแส พวกเขาก็จะไปบุกทำลายสถานที่นั้นและใช้กำลังเกินกว่าเหตุเพื่อจับกุมผู้ร่วมชุมนุม สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนถึงวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) เมื่อตำรวจเข้าไปบุกบาร์ใน Stonewall Inn ณ มหานครนิวยอร์ก ชาวเพศหลากหลายในบาร์นั้นไม่สามารถทนถูกกดขี่อีกต่อไปจึงฮึดสู้กับเหล่าตำรวจจนกลายเป็นจุดเริ่มของการเรียกร้องเสรีภาพทางเพศจนประสบความสำเร็จในหลายเดือนให้หลัง 

หลังจากนั้นพวกเขาได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายของรัฐที่มีความคิดก้าวหน้า เช่น แมสซาชูเซตส์ กฎหมายคุ้มครองขยายจากทีละรัฐจนกลายเป็นกฎหมายของประเทศ ทางรัฐบาลจกำหนดว่าการทำร้ายผู้ที่อยู่ในกลุ่มเพศหลากหลายเป็นอาชญากรรมที่เกิดการความเกลียด (hate crimes) ที่ควรจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก ถ้าอยากทราบรายละเอียดสามารถอ่านได้ที่: https://www.justice.gov/hatecrimes/learn-about-hate-crimes 

นอกจากนั้นปี 2015 (พ.ศ. 2558) ชาวอเมริกันในกลุ่มเพศหลากหลายได้รับสิทธิที่จะแต่งงานถูกต้องตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามพวกเคร่งศาสนาพยายามที่จะลิดรอนสิทธิ์ของชาวเพศหลากหลายมาโดยตลอด 

และการเหยียดทางเพศทะลุสถิติอีกครั้งหลังจากที่ Donald Trump เข้ารับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีในปี 2016 (พ.ศ. 2559) ข้อมูลจากข่าวของโทรทัศน์ช่อง NBC สถิติการทำร้ายชาวเพศหลากหลายเพิ่มขึ้น 50% ในหนึ่งปีหลังจากที่ทรัมป์ได้รับเลือกตั้ง  อ่านเพิ่มได้ที่: https://www.nbcnews.com/feature/nbc-out/anti-lgbtq-homicides-nearly-doubled-2017-report-finds-n840011 

ไม่แปลกเลยที่การเหยียดต่อชาวกลุ่มน้อยต่างพวกจะทะลุเป้าในช่วงที่ทรัมป์อยู่ในทำเนียบขาว เพราะตัวเขาเองซึ่งเป็นผู้นำก็โป้ปดมดเท็จให้ร้ายกับชาวผิวสีและคนจีน 

พลเมืองที่เลียนแบบทรัมป์ โดยเฉพาะสาวความคิดอนุรักษ์นิยมอายุสามสิบต้น ๆ ในนาม Libs of TikTok ใน Twitter ได้กุเรื่องว่าชาวเพศหลากหลายพยายามจะหลอกเด็ก ๆ มาเลี้ยงเพื่อต้องการล้างสมองให้เป็นคู่นอน 

นอกจากนั้นยังหาว่าสาว ๆ ที่ข้ามเพศมาจากชายจะแต่งตัวเป็นหญิงเพื่อแอบปล้ำผู้หญิงที่เข้าห้องน้ำ ที่ร้ายที่สุดก็คือปั้นน้ำเป็นตัวว่าโรงพยาบาลเด็กในบอสตันทำลายอวัยวะเพศของเด็กเพื่อผ่าตัดข้ามเพศ คนที่คิดตามโพสต์ของนางบางคนหลงเชื่อ จนเกิดโมหะและพากันตราหน้าหรือขู่ทำร้ายพวกเพศหลากหลาย แถมยังขู่วางระเบิดโรงพยาบาลเด็กสองครั้งติด ๆ กันเพื่อที่จะป้องกันเด็กไม่ให้ข้ามเพศ อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://www.boston.com/news/crime/2022/11/16/boston-childrens-hospital-bomb-threat-gems-program-gender-multiservices-anti-trans/ 

นักการเมืองที่ทะเยอทะยานอยากได้คะแนนเสียงจากพวกที่เหยียดชาวเพศหลากหลายพากันออกกฎหมายลิดรอนสิทธิ์เสรีภาพของพวกเขา เช่น Florida ลงโทษพ่อแม่ที่สนับสนุนให้ลูกข้ามเพศ โดยทางรัฐจะเอาเด็กไปให้ญาติหรือคนรู้จักที่ไม่เห็นด้วยต่อการข้ามเพศดูแลแทนพ่อแม่ อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://www.eqfl.org/Anti-Trans-Care-Bill-Filed-Senate 

ทาง Texas จะออกกฎหมายห้ามไม่ให้ทุกคน (ทั้งเด็กและผู้บรรลุนิติภาวะ) ผ่าตัดข้ามเพศ อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://www.cbsnews.com/news/texas-bill-ban-gender-affirming-care-transgender-adults/ 

ส่วนที่ Tennessee เพิ่งออกกฎหมายห้ามไม่ให้นักแสดงแต่งตัวข้ามเพศต่อหน้าสาธารณชนและเด็ก อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://www.npr.org/2023/03/06/1161452175/anti-drag-show-bill-tennessee-trans-rights-minor-care-anti-lgbtq-laws 

ส่วนถ้าผู้อ่านกำลังใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาและรู้สึกว่าสิทธิทางเพศของท่านถูกลิดรอน ติดต่อองค์กรพิทักษ์สิทธิพลเมืองของอเมริกา American Civil Liberties https://www.aclu.org/contact-us หรือ องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนของชาวเพศหลากหลาย Human Rights Campaign https://www.thehrcfoundation.org/contact?_ga=2.153885368.1895987098.1679007112-1982619358.1679007112 ได้เลย

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราทั้งสามคนนั้น ตำรวจมาที่ตึกอพาร์ตเมนต์ที่พ่อหนุ่มจอมแสบหนีเข้าไป โชคดีที่ยามจำได้ว่าคือใคร ตำรวจถึงจับกุมตัวไว้ได้อย่างทันที ท้ายที่สุดเขาถูกศาลตัดสินคาดโทษไว้เป็นเวลาห้าปี ถ้าหากว่าในช่วงเวลานั้นเขาไปเหยียดทางเพศผู้อื่นอีกเขาจะถูกจำคุกเป็นเวลาห้าปี

ตัวเราเจอประสบการณ์ที่ร้าย ๆ แบบนั้นถึงกับสั่นกลัว เข็ดที่จะเดินไปบริเวณที่เกิดเหตุ แถมขยาดการท่องเที่ยว และตั้งปฏิญาณไว้ว่าจะตั้งใจเรียนภาษาเพื่อสมัครเข้าปริญญาโท กว่าจะมาคิดฮึดขยันเรียนก็เกือบจะสิ้นเทอมเสียแล้ว ต้องมากันลุ้นในเทอมต่อไปว่าเราจะมีความสามารถพอที่จะเรียนขั้นมหาบัณฑิตได้หรือไม่?


เรื่อง: ดร.ชัยวุฒิ จิตต์กุศล
อักษรจรัสรุ่นที่ 55 อดีตเคยเป็น Senior Lecturer ที่ University of Massachusetts, Boston (สอนเฉพาะวิชาภาษาสเปน) ปัจจุบันหันมาทำไร่ดอกไม้และผลไม้