ปฏิกิริยาต่อประกาศการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ออกมาเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 66 บางพรรคร้องเฮ บางพรรคร้องโฮ…

เฉพาะสนาม กทม. ที่มีประชากร 5,394,910 คน เฉลี่ยราษฎรต่อ ส.ส.1 คนเท่ากับ 163,482.212 นั้น...กกต. เคาะแบบที่1 ออกมาใช้ ‘อรรถวิชช์  สุวรรณภักดี’ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ไปยื่นฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนประกาศแบ่งเขตดังกล่าวทันที…

เหตุผลหลักของอรรถวิชช์ คือ ผิดหลักเกณฑ์ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตา 27(1) ที่ระบุหลักเกณฑ์ให้ ‘รวมอำเภอต่าง ๆ เป็นเขตเลือกตั้ง’ หรือต้องมีอำเภอ (เขต) หลัก แต่ปรากฏว่าจาก 33 เขตเลือกตั้งเป็นการรวมตำบล (แขวง) โดยไม่มีเขตหลักถึง 13 เขตเลือกตั้ง...

ไม่เพียงแค่พรรคชาติพัฒนากล้า...แม้แต่พรรคเพื่อไทย โดยสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.กทม. และ ดร.อิ่ม ธีรรัตน์ สำเร็จวณิชย์ โฆษกพรรคก็ออกมาแถลงในแนวเดียวกัน...แต่ราย ดร.อิ่ม เธอคิดฟุ้งไปหน่อยว่าอาจเป็นแผนทำให้การเลือกตั้งโมฆะ…

เหตุผลที่ 3 ส.ส.แถลงมา ก็ฟังขึ้นอยู่ไม่น้อย แต่จะจบลงอย่างไรต้องตามไปดู...แต่หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ขอหมายเหตุประเทศไทย ถึง ทิศทางและแนวโน้มการเมืองการเลือกตั้งของกทม.ไว้ 4 ประการดังนี้…

1) ส่องกล้องการแบ่งเขต...ที่หลายพื้นที่เป็นการ ‘รวมแขวง’ จนมีการพูดกันว่าคนที่สอบได้ต้องเรียกว่า ‘ส.ส.แขวง’ ไม่ใช่ ส.ส.เขตนั้น...พรรคที่ได้ประโยชน์น่าจะเป็นพลังประชารัฐ ที่ไม่มีผู้สมัครโดดเด่นมากในระดับเขต แต่การแบ่งพื้นที่อาจจะเข้าทางปืน...กับอีกพรรคคือ ก้าวไกล ซึ่งมีการวางกำลังทุกแขวง...

2) แนวโน้มภาพรวม สนามกทม. พรรคเพื่อไทยยังนำโด่ง การแบ่งเขตกระทบบ้างบางเขต แต่หลายเขตยิ่งทำให้ผู้สมัคร ‘นอนมา’ โดยเฉพาะกทม.ด้านตะวันออก อีกพรรคคือก้าวไกลที่กระแสในในกทม.ยังพอใช้ได้

3) พรรคประชาธิปัตย์กับพรรครวมไทยสร้างชาติยังต้องเหนื่อยหนักทั้งคู่...แต่ละพรรคพอจะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์อยู่พรรคละ 2-3 เขตเท่านั้น พรรค รทสช. ในกทม.นั้น จะต้องหาอะไรที่มากกว่า ‘ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ’ มาขายแล้วล่ะ?

4) พรรคภูมิใจไทย…‘เสี่ยหนู’ มุ่งมั่นที่จะปักธงในสนามกทม.ให้ได้ โดยเฉพาะเขตของ ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ, ดร.ส้ม-พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ หรือแม้แต่เอกภพ เหลือรา แห่งเพจ ‘สายไหมต้องรอด’...แต่นอกจากพรรคถูกโจมตีรอบด้านในขณะนี้แล้ว การแบ่งเขตก็ส่งผลกระทบไม่น้อย อาจต้องขยับปรับเขตผู้สมัครกันใหม่…

ไม่งั้นสายไหมไม่รอด..แน่นอน!!

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน