เรื่องรักนักเรียนนายร้อย ตอนที่ 5 ผงแป้งปริศนา
>> ความเดิมตอนที่แล้ว
กรกฎ จ้ำ และเพื่อนคนอื่น ๆ อีกหลายคนทำภารกิจส่งจดหมายหานักเรียนพยาบาลสำเร็จ พวกเขาได้รับจดหมายตอบกลับจากพวกเธอ ทำเอายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มไม่หุบไปตาม ๆ กัน
กิจกรรมภายในโรงเรียนที่สามารถพาแฟนมาร่วมงานได้ ก็มีงานเลี้ยงหลังจบกีฬาระหว่างกองร้อย หรือเรียกว่า 'สปอร์ตเดย์' และงานเลี้ยงหลังจบการฝึกวิชาทหาร หรือที่เรียกว่า 'งานกู๊ดบายซัมเมอร์'
ตอนนี้พวกนักเรียนปี 1 ได้ขึ้นชั้นมาอยู่ปี 2 แล้วแหละ
เช้าวันอังคาร ที่หน้ากองร้อยเช่นเดิม พี่ๆ ชั้นปีที่ 5 (ซึ่งปีที่แล้วเป็นชั้นปีที่ 4) ขึ้นมาชี้แจงที่ด้านหน้า ขณะที่กำลังเข้าแถวกันอยู่
“มีบัตรคอนเสิร์ตการกุศลของวิทยาลัยพยาบาลตำรวจ มีวงดนตรีนูโว มาแสดงที่กรุงเทพฯ เดี๋ยวพี่จะแบ่งให้น้อง ๆ ที่ได้กลับบ้านรับบัตรไปดู เผื่อฟลุ๊คกได้แฟนโดนบังเอิญก็คราวนี้แหละ ใช่ไหมนักเรียนนายร้อยยุทธฉายา” พี่ชั้นปีที่ 5 เอ่ยบอกทุกคน ก่อนจะหันมากระเซ้าจ้ำ
จ้ำยืนในท่าตามระเบียบพักอยู่ในแถวกับเพื่อน ๆ ทำท่ายืนตรงอมยิ้มแล้วตะโกนตอบเสียงดัง “ครับ พี่ครับ”
ทำเอานักเรียนนายร้อยทุกชั้นต่างขำกันยกใหญ่ ตอนนั้นพวกเราเป็นนักเรียนชั้นเลขน้อยสุด (เพราะน้องปีหนึ่งยังอยู่รวมกันที่ตึกของกองพันที่สี่ กองพันนักเรียนใหม่)
กรกฎยืนอยู่ในแถวก็อมยิ้ม แต่ไม่ใช่เพราะจ้ำทำท่าตลก แต่เป็นเพราะเขาได้ยินคำว่า 'วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ' ซึ่งทำให้เขาคิดถึงเขมิกามากยิ่งขึ้น
กรกฎรอคอยเวลาให้ถึงวันศุกร์เร็ว ๆ
...และแล้ววันที่เขารอคอยก็มาถึงสักที
ในตอนเช้า รุ่นพี่ที่ทำหน้าที่ในการตรวจความสะอาดของห้องนอนได้บอกข่าวร้ายที่ฟังแล้วขนหัวลุก
“วันนี้ผมไปตรวจห้องมา ห้อง 207 มีผงแป้งอยู่ที่ท้ายเตียง ดังนั้นทั้งห้องต้องถูกกักบริเวณ เย็นนี้มารวมแถวให้แต่งชุดพละมา ห้อง 207 รับทราบ”
“ทราบ” กรกฎตอบพร้อมกับจ้ำ หัวใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ฝันที่จะได้เจอเขมิกา และสาวิตรี สูญสลายไปในพริบตา ทั้งสองจำได้ว่าก่อนออกจากห้องนอนภายในห้องก็เรียบร้อยดี
...แล้วผงแป้งมันมาจากไหน?
ตอนเย็นวันนั้น นักเรียนนายรัอยส่วนใหญ่แต่งเครื่องแบบกลับบ้าน ใส่หมวกหม้อตาล และถือกระเป๋าเจมส์บอนด์ มารวมแถวที่ใต้ถุนกองร้อย
หนึ่งในนั้นมีคู่แข่งหัวใจของกรฎด้วยรวมอยู่ด้วย นั่นคือ...สุเทวานี่นเอง พี่ชั้นปีที่ 4 แจกบัตรชมคอนเสิร์ตให้นักเรียนนายร้อยที่แต่งตัวเท่ๆ ยืนรออยู่
ส่วนกรกฎและจ้ำมาในชุดพละเตรียมอยู่โรงเรียน ได้แต่มองตาปริบๆ อย่างน่าเสียดาย
พี่ชั้นปีที่ 5 ให้แยกย้ายเดินทางไปกลับบ้านไปได้ สุเทวา ก็เดินมาหากรกฎพร้อมบอกว่า
“แล้วจะดูคอนเสิร์ตเผื่อนะ ฮ่า ๆ”
พี่ชั้นปีที่ 5 บอกให้นักเรียนที่ถูกกักบริเวณช่วยกันทำความสะอาดกองร้อย โดยมีรางวัลเป็นขนมปัง ขนมเค้ก น้ำผลไม้กล่อง และส้ม แบบที่แจกบนรถทัวร์ (อันที่จริง ทางโรงเรียนทำไว้แจกนักเรียนนายร้อยที่จะกลับไปบ้าน แต่ไม่มีใครอยากกิน ก็เลยเหลือมาถึงพวกที่อยู่โรงเรียน)
กรกฎและจ้ำรับงานถอนหญ้าที่อิฐรูปตัวหนอนหน้ากองร้อย ระหว่างนั่งถอนหญ้า จ้ำพูดขึ้น
“น่าเสียดาย เพราะผงแป้งบ้า ๆ นั่น ทำให้อดเจอแฟนฉันเลย”
“ไม่น่าใช่แป้งในห้องเรา” กรกฎบอก “ตอนเย็นกูกลับมาที่ห้อง ผงมันสีออกเหลืองๆ เหมือนแป้งตรางู แต่ห้องเราใช้แป้งจอห์นสันสีออกขาวนี่หว่า”
จ้ำได้ยินแบบนั้นก็ทำตาโตก่อนจะพูดว่า “จำได้ไหมวันที่รวมแถวหน้ากองร้อย เมื่อเช้าใครมาเข้าแถวเป็นคนสุดท้าย”
“ไอ้สุเทวา!!” ทั้งสองพูดพร้อมกัน ราวกับรู้ใจ
จ้ำทำหน้าเซ็งปนไม่พอใจ ก่อนจะพูดด้วยความแค้นสุดขีด “อย่างนี้ต้องล้างแค้น!! วันพระไม่ได้มีหนเดียวนะเว้ย!!”
เป็นอันว่าทั้งกรกฎและจ้ำต่างสงสัย 'สุเทวา' ที่ทำให้เขาถูกกักบริเวณ แถมไม่ได้มีโอกาสใกล้ชิดนักศึกษาพยาบาลอีกแล้ว...แค้นนัก!!
“เอาอย่างนี้ดีกว่า อาทิตย์หน้าถ้าได้ออกไปกรุงเทพฯ เราไปวิทยาลัยพยาบาลตำรวจกัน มึงก็ไปหาเขมิกา กูก็ไปหาสาวิตรี” จ้ำพูดชี้แนะกรกฎ
“แล้วถ้าเธอทั้งสองไม่อยู่ล่ะ?” กรกฎถามเพราะหวั่นใจว่าจะพลาดโอกาสอีกครั้ง
“งั้นกูจะเขียนจดหมายไปบอกสาวิตรีก่อนว่าให้ชวนเขมิกาให้รออยู่ที่วิทยาลัย พอเราไปถึงตอนเช้าวันเสาร์ก็จะได้มีเวลาคุยกัน กินข้าว ดูหนัง แถวสยามสแคร์ไง” จ้ำตอบเป็นชุด พร้อมยกยิ้มดีใจ
กรกฎเห็นเพื่อนมั่นใจแบบนั้น ก็ตอบกลับไปเบาๆ ว่า “ก็ดี...ถ้าได้กลับบ้านนะ”
...นี่แหละชีวิตชายชาติทหาร ชีวิตนักเรียนทหาร อยู่บนความไม่แน่นอน มีสิ่งเดียวที่แน่นอนและมั่นคงคือ 'หัวใจ' ที่ยังคงโหยหาความรักตลอดเวลา
โปรดติดตามตอนต่อไป...
เรื่องโดย พลตรี อภิสิทธิ์ บุศยารัศมี
หมายเหตุ : เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องแต่งขึ้น เพื่อความสนุกสนานสำหรับผู้อ่านเท่านั้น ไม่มีเจตนาลบหลู่หรือหมิ่นประมาทผู้หนึ่งผู้ใด