เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักสื่อสารมวลชน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “นิยามใหม่ของวิทยุทรานซิสเตอร์ คือ “หลุมดักควาย” พอลุงตู่แนะนำให้ใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ในการติดตามข่าวสารในยามระบบโทรคมนาคมล่ม ไฟฟ้าดับ เราได้เห็นควายตกหลุมหลายตัว นึกว่าตัวเองฉลาด ออกมาแซะว่าลุงตู่โบราณ ตกยุค แท้ที่จริงไม่รู้จริงว่าหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาก็ใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ในภาวะฉุกเฉินกันทั่วโลก” 

ขณะที่ ปู จิตกร บุษบา คอลัมนิสต์ชื่อดัง ก็ได้อธิบายถึง 'ทรานซิสเตอร์' ไว้ในเฟซบุ๊กว่า “นายกประยุทธ์ ท่านมีประสบการณ์ตรง รู้ว่าบางพื้นที่ ประชาชนเดือดร้อนลำบาก จากเหตุไฟดับ อินเทอร์เน็ตล่ม และต้องแจ้งเตือน สื่อสารถึงประชาชน ผ่านทาง 'วิทยุกระจายเสียง' ซึ่งก็คือคำว่า 'ทรานซิสเตอร์' ที่กำลังบ้วนถุยใส่กันอยู่นี่แหละ วิทยุกระจายเสียงมีทั้งระบบเอเอ็มและเอฟเอ็ม ที่สู้กับสภาวะฝนฟ้าคะนองได้สบายๆ” 

พร้อมยังกล่าวถึงพลเมืองออนไลน์ด้วยว่า “พลเมืองออนไลน์ ผู้มีร่างกายและวิญญาณเป็นโทรศัพท์มือถือ จึงอาจคิดและรู้ไม่ไกลไปกว่าประสบการณ์ของตน ที่สิงสถิตอยู่ในจักรวาลมือถือ ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ที่บอกถึงสันดานคับแคบและปัญญาที่จำกัด เพียงเพราะเกลียดรัฐบาล ขบขัน สมเพช และพร้อมที่จะด้อยค่า ทั้งๆ ที่ปัญญาของตัวเอง ประสบการณ์ของตัวเองก็มีจำกัดไม่ต่างกัน อีกขั้วหนึ่งก็ผลุนผลันออกมาปะทะ วิวาทะและสงครามน้ำลายออนไลน์จึงบังเกิด ในขณะที่คนแก้ปัญหาก็แก้ไป คนเดือดร้อนก็ยังเดือดร้อนอยู่” 

ท้ายสุดแล้ว ปู จิตกร บุษบา ได้สรุปว่าข้อเท็จจริงและประเด็นต้องจับกันให้ถูก และมีสติ เถียงกันให้ถูกเรื่องและมีความรู้ เพราะท้ายสุดก็เชื่อว่า นายกฯ ก็คงไม่ได้อยากให้สถานการณ์ไปถึงจุดที่จะต้องใช้ ‘ทรานซิสเตอร์’ จริงไหมครับ