The Royal Military College, Duntroon ราชวิทยาลัยวิชาการทหาร Duntroon แห่งเครือรัฐออสเตรเลีย มหาวิทยาลัยการทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ
ด้วยเดือนนี้เป็นเดือนมหามงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗๐ พรรษา จึงขอนำเรื่องของ ราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon (The Royal Military College, Duntroon) อันเป็นราชวิทยาลัยทางการทหารแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งล้นเกล้าฯ ในหลวงของเราทรงสำเร็จการศึกษาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ ทรงได้รับถวายสัญญาบัตรจากราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon และปริญญาอักษรศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอักษรศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย New South Wales มาเล่าให้ผู้อ่านได้รับทราบกันครับ
ก่อนการก่อตั้งกรุง Canberra (นครหลวงของเครือรัฐออสเตรเลีย) บริเวณที่เรียกว่า Duntroon เป็นอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว Campbell ก่อนที่จะถูกเลือกให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนฝึกนายทหาร โดยพลตรี Sir William Throsby Bridges (ซึ่งเป็นผู้บัญชาการราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon คนแรก) ในปี พ.ศ. ๒๔๕๓ (ค.ศ. ๑๙๑๐) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Mount Pleasant ใกล้กับทะเลสาบ Burley Griffin และกระทรวงกลาโหมที่ Russell Hill เทียบได้กับ ราชวิทยาลัยการทหาร Sandhurst (โรงเรียนนายร้อยทหารบกแห่งสหราชอาณาจักร) และโรงเรียนนายร้อยทหารบกสหรัฐฯ ณ West Point (United States Military Academy West Point) โดย ราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon ตั้งอยู่ติดกับ Australian Defense Force Academy (ADFA) ซึ่งเป็นสถาบันการทหารทั้งสามเหล่าทัพของกองทัพแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย (Australian Defense Force) ที่ให้การศึกษาฝึกฝนอบรมด้านการทหารในระดับอุดมศึกษาสำหรับนายทหารแห่งกองทัพบกออสเตรเลีย กองทัพเรือออสเตรเลีย และกองทัพอากาศออสเตรเลีย
ราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๔ โดยผู้สำเร็จราชการ ลอร์ด Dudley ซึ่งได้ประกาศชื่อวิทยาลัยแห่งนี้ว่า ราชวิทยาลัยการทหารแห่งออสเตรเลีย (The Royal Military College : RMC) หลักสูตรที่ RMC ได้รับการออกแบบให้เป็นหลักสูตรสี่ปี โดยมีวิชาทหารครึ่งหนึ่ง และวิชาการทั่วไปอีกครึ่งหนึ่ง เนื่องจากการขยายตัวของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง การศึกษาในยุคแรกจึงทำให้นักเรียนนายร้อยจบการศึกษาเร็วเป็นพิเศษเพื่อจะถูกส่งไปปฏิบัติการในต่างประเทศ การรับนักเรียนเข้าเรียนในสามรุ่นต่อมาก็สั้นลงเช่นกัน และนักเรียนนายร้อยในสี่รุ่นแรกส่วนใหญ่ถูกบรรจุในกองทัพจักรวรรดิออสเตรเลียน (The Australian Imperial Force (AIF)) และกองทัพบกของนิวซีแลนด์
พลตรี Sir William Throsby Bridges
(ซึ่งเป็นผู้บัญชาการราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon คนแรก)
ในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง พลตรี Bridges (ผู้บัญชาการราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon คนแรก) ได้รับคำสั่งจากกองทัพจักรวรรดิออสเตรเลียนที่ ๑ ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ และเสียชีวิตในสมรภูมิที่แหลม Gallipoli (เมือง Gelibolu ประเทศตุรเคียในปัจจุบัน) ร่างของเขาถูกส่งกลับมายังออสเตรเลีย และถูกฝังไว้บนเนินเขา Mount Pleasant ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon ได้อย่างชัดเจน สรุปโดยรวมแล้วนายทหารออสเตรเลียจำนวน ๔๐ นายที่จบจากราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon ยุคแรก ๆ จากทั้งหมด ๑๑๗ นายเสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ในปีพ.ศ. ๒๔๗๔ ราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon ถูกย้ายไปอยู่ที่ค่าย Victoria นคร Sydney ด้วยที่ตั้งแห่งใหม่ ราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ 'Duntroon Wing, ค่าย Victoria แต่วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon ก็ถูกย้ายกลับมาที่ Duntroon กรุง Canberra เช่นเดิม เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สองในปี พ.ศ. ๒๔๘๓ (ค.ศ. ๑๙๓๙) หลักสูตรการศึกษาสี่ปีถูกลดลงเหลือสองปี มีการเข้าเรียนพิเศษเพิ่มเติมเป็นเวลา หก เก้า และสิบสองเดือน ภายในปี พ.ศ. ๒๔๘๖ แต่ด้วยสถานการณ์ความขัดแย้งทางการทหารที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้สามารถขยายระยะเวลาของหลักสูตรได้ และเปลี่ยนเป็นหลักสูตรสามปี ในปีพ.ศ. ๒๔๙๐ ได้มีการเปลี่ยนเป็นหลักสูตรสี่ปี (ฉบับปรับปรุง) ซึ่งรวมถึงหลักสูตรการศึกษาทางเลือกในสาขาศิลปศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ และต่อมาในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรเหล่านี้ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาได้รับการยกเว้นวิชาได้ถึงครึ่งจำนวนสำหรับหลักสูตรพลเรือนที่ดำเนินการในมหาวิทยาลัย โดยหลักสูตรการทหารมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างข้อกำหนดระยะสั้นของนายทหารชั้นต้น และรากฐานที่กว้างขึ้น ซึ่งจำเป็นสำหรับตำแหน่งอาวุโสในกองทัพบกต่อไป
RMC-D ร่วมกับมหาวิทยาลัย New South Wales เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี โดยเริ่มในปีการศึกษา พ.ศ. ๒๕๑๑ ในอันที่จะสำเร็จการศึกษาจาก RMC-D นักเรียนนายร้อยจะต้องผ่านการศึกษาทั้งด้าน การทหาร และวิชาการ ตลอดจนความเป็นผู้นำ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้มีการตัดสินใจว่า การฝึกนายทหารในเบื้องต้นทั้งหมดจะรวมศูนย์ไว้ที่ RMC-D ดังนั้นในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ RMC-D เข้ารับหน้าที่ในการฝึกอบรมจากสถาบันฝึกอบรมนายทหารเต็มเวลาอื่น ๆ ทั้งหมด รวมถึงโรงเรียนนายร้อยที่ Portsea (Victoria) หน่วยฝึกอบรมนายทหารหญิงที่ Georges Heights (Sydney) และหน่วยฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่ Canungra (Queensland) ในเวลานี้ความรับผิดชอบในการสอนระดับปริญญาได้ถูกโอนไปยัง Australian Defense Force Academy (ADFA) ซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ และหลักสูตรถูกลงลดให้เหลือเพียงสิบแปดเดือนเฉพาะการศึกษาทางทหารล้วน ๆ ผู้สำเร็จการศึกษาจาก ADFA Army ได้รับสถานะขั้นสูงหกเดือน อันเนื่องจากการฝึกอบรมดำเนินการในช่วงพักการศึกษา ระเบียบปฏิบัตินี้ยังคงดำเนินต่อไปในปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ครบรอบ ๑๐๐ ปีของวิทยาลัย ผู้บัญชาการของ RMC ได้รับการแต่งตั้งและมอบอำนาจทางกฎหมายให้เป็นผู้บังคับการเต็มรูปแบบ โดยผู้บัญชาการกองทัพบกเพื่อรับผิดชอบบริหารและสั่งการหน่วยฝึกที่สำคัญของกองทัพบก ประกอบด้วย RMC - Duntroon (ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ RMC-D) ศูนย์ฝึกอบรมทหารเกณฑ์ที่ Kapooka (Wagga Wagga) และศูนย์สงครามทางบกที่ Canungra (Queensland) ดังนั้น ผู้บัญชาการ RMC-D จึงมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหลักสูตร ‘เริ่มต้น’ และ ‘หลักสำคัญในอาชีพ’ ทั้งหมดสำหรับทุกระดับตั้งแต่พลทหารไปจนถึงพันตรี ภาพรวมนี้เป็นที่รู้จักในนามของ Royal Military College - Australia (RMC-A)
RMC-D ได้ผลิตบัณฑิตทางการทหารที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงจำนวนมากซึ่งเคยและเป็นผู้นำในสาขาต่าง ๆ ของสังคมออสเตรเลีย และระดับนานาชาติ โดยราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon ได้ถวายพระเกียรติแด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นบัณฑิตทางการทหารที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงพระองค์หนึ่งในบรรดาศิษย์เก่าแห่งราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon ด้วย
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ เสด็จพระราชดำเนินถึงเครือรัฐออสเตรเลียเมื่อวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๓
ทรงเข้ารับการศึกษาในระดับเตรียมอุดมศึกษา ณ โรงเรียน King (The King’s School) ณ เมือง Parramatta ทางตะวันตกของนคร Sydney
หลังจากนั้นทรงเข้ารับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ณ ราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon (The Royal Military College, Duntroon)
ทรงเข้ารับการฝึกฝนอบรมเช่นเดียวกับนักเรียนนายร้อยร่วมสถาบันฯ ทุกคน อาทิ ทรงฝึกการรบในป่ารกทึบทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง Moruya ทางใต้ของรัฐ New South Wales โดยฝึกจำลองการปฏิบัติการค้นหาและกวาดล้าง โดยเป็นกองกำลังต่อต้านการก่อความไม่สงบ นักเรียนนายร้อยที่เข้ารับการฝึกต้องผจญกับ งู แมลงวัน และยุง ตลอดจนศัตรูนานาชนิด เนื่องจากอากาศร้อนและแห้งแล้งในช่วง ๑๔ วันแรก ก่อนที่สภาพอากาศจะเลวร้ายลงอีกเมื่อเข้าสู่สภาวะใกล้มรสุม
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ขณะทรงร่วมสวนสนามในพิธีสำเร็จการศึกษาเบื้องพระพักตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในพิธีสำเร็จการศึกษาของพระองค์
ทรงได้รับการถวายสัญญาบัตรทางการทหารจากราชวิทยาลัยการทหาร Duntroon และปริญญาอักษรศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอักษรศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย New South Wales ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙
เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
วันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
“ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน”
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า ดร.โญธิน มานะบุญ
👍 ติดตามผลงาน อาจารย์โญธิน มานะบุญ เพิ่มเติมได้ที่ : https://thestatestimes.com/author/ดร.โญธิน%20มานะบุญ