สมอ. ยกระดับมาตรการคุมเข้ม ป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าควบคุมที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของประชาชน เตรียมลงพื้นที่หน้าด่าน สุ่มตรวจสินค้านำเข้า

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้กำชับให้ สมอ. ยกระดับความเข้มข้นของมาตรการเชิงรุกในการนำเข้าสินค้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศและการตรวจควบคุมการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดและทางออนไลน์ให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่อยู่ในการควบคุมของ สมอ. ทั้ง 126 รายการ ที่มีการโฆษณาผ่านทางทีวีดิจิทัลและสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งหากไม่ได้มาตรฐานจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยให้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภค เช่น กรมศุลกากร, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อร่วมกันทำงานเชิงรุกในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าในท้องตลาดอย่างเข้มงวด 

นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ. ขานรับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) อย่างเคร่งครัด เดินหน้ามาตรการคุมเข้มป้องกันไม่ให้สินค้าด้อยคุณภาพเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเฉพาะสินค้าที่ สมอ. ควบคุมทั้ง 126 รายการ เช่น ปลั๊กพ่วง, เตาปิ้งย่าง, กระทะไฟฟ้า, หม้ออบลมร้อน, ไดร์เป่าผม, ที่หนีบผม, พัดลม, หม้อหุงข้าว, หลอดไฟ, สปอตไลต์, หลอดไฟแอลอีดี, ภาชนะจานชามเมลามีน, ของเด็กเล่น, พาวเวอร์แบงก์ และ อะแด็ปเตอร์ เป็นต้น 

เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเป็นสินค้าที่ใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันของประชาชนทุกครัวเรือน โดยมักจะมีข่าวอันตรายจากไฟไหม้ หรือระเบิดจากสินค้าด้อยคุณภาพให้เห็นตามโซเชียลมีเดียอยู่บ่อยครั้ง หลังจากนี้ สมอ. จะเดินหน้าตามมาตรการอย่างเข้มข้น โดยผู้ประกอบการที่จะนำเข้าสินค้าที่ สมอ. ควบคุม จะต้องได้รับใบอนุญาตจาก สมอ. ก่อนจึงจะนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายได้ 

สำหรับกรณีไดร์เป่าผมด้อยคุณภาพที่เกิดไฟไหม้ สมอ. ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นสินค้าราคาถูก ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ไม่มีเครื่องหมาย มอก. และวางจำหน่ายทางออนไลน์ โดยปัจจุบันมีผู้ได้รับใบอนุญาตนำเข้าอย่างถูกต้องจาก สมอ. จำนวน 65 ราย และ สมอ. ได้เรียกเก็บตัวอย่างไดร์เป่าผม มาทดสอบคุณภาพทั้ง 65 รายแล้ว และจะสืบสวนขยายผลต่อไป จึงขอเตือนไปยังผู้บริโภคไม่ควรใช้สินค้าที่ไม่มี มอก. รับรอง 

เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า “เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา สมอ. ได้เข้าพบอธิบดีกรมศุลกากร นายพชร อนันตศิลป์ เพื่อหารือแนวทางการบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อสกัดกั้นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเข้ามาในราชอาณาจักร นอกเหนือจากระบบ National Single Window หรือ NSW ที่เชื่อมโยงข้อมูลในการนำเข้า ส่งออก กับกรมศุลกากรอยู่แล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ในการตรวจปล่อยสินค้าให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยจะร่วมกับกรมศุลกากรเพื่อสุ่มตรวจสินค้าที่ด่านศุลกากร เช่น อรัญประเทศ, ช่องเม็ก, แม่สาย, แม่ฮ่องสอน, ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าเรือคลองเตย และแหลมฉบัง เป็นต้น เพื่อป้องกันมิให้มีการลักลอบนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเข้ามาจำหน่าย เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคในประเทศ” เลขาธิการ สมอ. กล่าวทิ้งท้าย