เด็กและเยาวชนอายุ 12 ปีขึ้นไปใน จ.ประจวบฯ ได้รับวัคซีนมากกว่าร้อยละ 85 ซึ่งเป็นจำนวนที่มากพอที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ทำให้สามารถเปิดการเรียนการสอนในรูปแบบปกติได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ตามเป้าที่ ศธ. กำหนด

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้กำลังใจแก่เด็กนักเรียน นักศึกษาที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ในสถานศึกษาทุกสังกัดของ จ.ประจวบฯ ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ จากบุคลากรทางการแพทย์ รพ.ประจวบฯ มาให้บริการฉีดวัคซีนเพื่อเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ที่โดมอเนกประสงค์อนุสรณ์ประจวบวิทยาลัย 103 ปี โรงเรียนประจวบวิทยาลัย 
 

ซึ่งในวันนี้มีกลุ่มเป้าหมายคือเด็กนักเรียนระดับชั้น ม.4-ม.6 ปวช. ปวส. และนักเรียนที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค จำนวน 3,300 คนจากสถานศึกษา 8 แห่งใน อ.เมืองประจวบฯ 

นายเสถียร กล่าวว่า การให้บริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์แก่นักเรียนในครั้งนี้ถือเป็นรอบแรกของ จ.ประจวบฯ จะเน้นฉีดให้เด็กนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าก่อน จากนั้นเมื่อมีการจัดส่งวัคซีนมาเพิ่มเติม ก็จะฉีดให้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นการสร้างความปลอดภัยก่อนกลับไปเปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียนอีกครั้ง 

สำหรับผู้ปกครองที่ยังลังเลใจ สามารถเปลี่ยนใจให้บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนในครั้งต่อไปได้ โดยขณะนี้ได้มีการรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่ง อย.ขึ้นทะเบียนรับรองให้สามารถใช้กับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้แต่ไม่รุนแรง

นพ.วรา เศลวัตนะกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมา จ.ประจวบฯ ได้ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข บุคลากรที่ปฏิบัติงานด่านหน้า รวมถึงประชาชนกลุ่มต่างๆ รวมทั้งสิ้น 281,915 คน ครอบคลุมร้อยละ 48.77 ของประชากรทั้งหมดในจังหวัด โดยกลุ่มประชากรที่ได้รับวัคซีนมากที่สุดคือกลุ่มประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป 
 


อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การฉีดวัคซีนครอบคลุมทุกกลุ่ม ภาครัฐจึงเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิดไฟเซอร์แก่เด็กและเยาวชนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งจากการสำรวจความต้องการฉีดวัคซีนผ่านสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดฯ พบว่ามีผู้ปกครองต้องการให้บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวนทั้งสิ้น 32,465 คน จากจำนวนนักเรียน-นักศึกษาที่มีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์จำนวนประมาณ 37,841 คน 

ซึ่งภาพรวมหากฉีดได้ครบตามจำนวนที่แจ้งไว้นี้ ผนวกกับเด็กกลุ่มเปราะบางบางส่วนที่ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วก่อนหน้านี้ คาดว่าจะมีเด็กและเยาวชนอายุ 12 ปีขึ้นไปใน จ.ประจวบฯ ได้รับวัคซีนมากกว่าร้อยละ 85 ซึ่งเป็นจำนวนที่มากพอที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ทำให้สามารถเปิดการเรียนการสอนในรูปแบบปกติได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ตามเป้าหมายที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้
 

นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์