วัดกันที่ “Chilbi” (คิลบี้) เทศกาล ‘งานวัด’ สไตล์สวิส

งาน Chilbi (คิลบี้) ในภาษาสวิสหรือ Kirchweih (เคีรยคไวห์) ในภาษาเยอรมัน เป็นอารมณ์คล้าย ๆ งานวัดของไทยเรา เป็นเทศกาลที่น่าจะมีมาตั้งแต่ยุคกลางปี 1330 โอ้โห! 690 ปีแล้วนะ ครั้งแรกเกิดขึ้นที่ Wetzikon จากครอบครัวที่ร่ำรวยมั่งคั่งและมีอำนาจในสมัยนั้น เป็นผู้ที่สืบทอดโบสถ์โดยการนำเอาญาติพี่น้องในตระกูลมาเป็นบาทหลวงเพื่อรักษาอำนาจให้คงอยู่ ได้มีการเฉลิมฉลองการรับบาทหลวงเป็นครั้งแรกสำหรับโบสถ์นี้ และนับแต่นั้นก็มีการเฉลิมฉลองแบบนี้ทุก ๆ ปีจนถึงปัจจุบัน

ส่วนในปี 1334 Bischof von Konstanz เป็นผู้มีตำแหน่งสูงทางศาสนาในภูมิภาค Konstanz ก็ได้ทำการเฉลิมฉลอง Chilbi ขึ้นหลังจากที่มีการสร้างโบสถ์เสร็จสิ้น โดยทำการเฉลิมฉลองในวันอาทิตย์หลังจากวันที่พระแม่มาเรียขึ้นสู่สวรรค์ หรือวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคม ซึ่งเมือง Wädenswil (แวเดนสวิล) เมืองแถวบ้านวี่ก็ยังจัดงานในช่วงเวลานี้อยู่ 

แต่ก่อน Chilbi เป็นเพียงแค่การเฉลิมฉลองธรรมดา ๆ เท่านั้น และ Chilbi Wetzikon เริ่มเป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวาง ผู้คนจากหมู่บ้านโดยรอบจะแห่แหนมาเที่ยวงาน ในปี 1877 เป็นครั้งแรกที่มีการบันทึกว่าในงานมีม้าหมุน และในปี 1947 เริ่มมีรถบั๊มพ์เข้ามา ต้นศตวรรษที่ 20 วิวัฒนาการต่าง ๆ เริ่มเข้ามามีบทบาท งาน Chilbi ก็มีการพัฒนาเช่นกัน มีเครื่องเล่นเครื่องร่อนมากมาย เครื่องเล่นต่าง ๆ ก็เริ่มมีความเร็ว แรง และน่าหวาดเสียวมากขึ้น 

วี่มาสวิตเซอร์แลนด์ครั้งแรกในปี 2001 ตอนที่ได้มางานวัดครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้น นึกไปถึงงานวัดหลวงปู่อี๋ที่บ้านที่สัตหีบ บรรยากาศคล้าย ๆ กัน เพียงแต่ตัวแสดงเปลี่ยนไปเป็นคนสวิส วัยเด็กก็ตื่นเต้นกับม้าหมุน วัยรุ่นก็สนุกสนานกับเครื่องเล่นหวาดเสียวต่าง ๆ กลุ่มเพื่อนสาวที่สนุกสนานเจี๊ยวจ๊าว คู่แฟนที่เดินจับมือเคียงกัน วัยทำงานก็จะมาหาอะไรกิน นั่งดื่มพูดคุยสังสรรค์กันตามประสา

งานที่เมือง Wädenswil จัดงาน Chilbi ติดกับทะเลสาบซูริคและบริเวณสถานีรถไฟ วี่จะไปขึ้นชิงช้าสวรรค์ทุก ๆ ปีเป็นธรรมเนียมที่ทำตั้งแต่มาสวิสปีแรกจนถึงตอนนี้ เดินวนไปโดยรอบหาของกิน เล่นเกมปาลูกโป่งบ้าง ยิงปืนบ้าง ปีแรก ๆ ได้ตุ๊กตามาเต็มบ้านเลย เมื่อเดินจนเมื่อยขาก็จะมีซุ้มงานอยู่หลายจุด มีที่นั่งให้คนมานั่งกินนั่งดื่มสังสรรค์พูดคุยกันแต่อาจคุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างนะเพราะเสียงดนตรีดังสนั่นหวั่นไหวมาก ๆ สมัยก่อนงานอาจมีเพียงแค่วันอาทิตย์ แต่ในปี 1958 ก็เริ่มจัดงานเป็นวันเสาร์-อาทิตย์-จันทร์ ซึ่งในวันเสาร์งานอาจมีถึงตีสองตีสามเลยทีเดียวกว่าคนจะซา ตามเต็นท์นั่งบางทีมีคนนั่งดื่มกันถึงตีสี่ตีห้าเลยทีเดียว 

ส่วนปีที่แล้วเป็นปีที่แปลกใหม่สำหรับพวกเรามาก เพราะไม่มีงาน Chilbi อย่างเช่นปกติ จะมีเพียงชิงช้าสวรรค์เพื่อเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของงานเท่านั้น ปีนี้ก็เช่นกันแต่อาจจะมีร้านขนม ร้านยิงปืน ร้านปาลูกโป่งอยู่สองถึงสามร้านเท่านั้นที่เพิ่มขึ้นมาจากปีที่แล้ว เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดนั่นแหละ บางงานที่ใหญ่หน่อยเค้าจะจัดงานไว้ 2 โซน คือโซนร้านค้าซึ่งเปิดใครเข้าไปก็ได้ กับโซนเครื่องเล่น ซึ่งโซนเครื่องเล่นนี้ต้องมีใบ certificate ว่าฉีดวัคซีนแล้ว แต่ถ้าไม่มี เขามีจุดบริการตรวจโควิดฟรีหน้างานด้วยนะ 

บางครั้งวี่ก็รู้สึกว่าโลกใบนี้แม้จะกว้างใหญ่แค่ไหน แต่หลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่าง มันช่างคล้ายกันอย่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ เพราะแม้เอเชียและยุโรปจะห่างไกลกันแค่ไหน แต่ก็มีสิ่งที่คล้ายกันอยู่หลาย ๆ อย่าง เช่นอย่างงาน Chilbi ที่เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับโบสถ์และศาสนา ซึ่งก็คล้ายกับไทยเราที่งานวัดก็เกี่ยวข้องกับวัดและศาสนาเช่นเดียวกัน โลกที่ดูเหมือนกว้างใหญ่และมีความแตกต่างในหลาย ๆ ด้าน หรือที่จริงแล้วมันมีความเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่มาตลอด…


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9