‘นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม’ หรือ ‘หมอวรงค์’ รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ Click on Clear THE TOPIC เปิดใจถึงการเป็น ‘ทัพหน้าต้านล้มเจ้าเป้าหมายที่ไม่เปลี่ยน’ และเป้าหมายต่อไปของพรรคไทยภักดี

ไม่นานมานี้ ‘นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม’ หรือ ‘หมอวรงค์’ รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ Click on Clear THE TOPIC เปิดใจถึงการเป็น ‘ทัพหน้าต้านล้มเจ้าเป้าหมายที่ไม่เปลี่ยน’ และเป้าหมายต่อไปของพรรคไทยภักดีว่า...

‘พรรคไทยภักดี’ เป็นอีกพรรคการเมืองที่ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนในการก่อตั้งขึ้น เพื่อต่อต้านคนสามกลุ่ม ได้แก่ พรรคก้าวไกล กลุ่มก้าวหน้า และม็อบสามนิ้ว โดยปัจจุบัน พรรคไทยภักดี ใช้ระยะเวลาเดินทางมากว่า 7 เดือนในการดำเนินการเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองของไทยอย่างสมบูรณ์

ทว่าก่อนจะไปถึงจุดนั้น หมอวรงค์ เผยถึงเหตุผลที่พรรคไทยภักดี มีการดำเนินการที่ช้ากว่าพรรคอื่น ๆ นั่นก็เพราะต้องการก่อตั้งพรรคจากรากฐานอย่างแท้จริง โดยไม่อาศัยหัวพรรคคนอื่น สิ่งนี้เองทำให้ไทยภักดีเป็นศูนย์รวมของผู้ร่วมอุดมการณ์ที่เข้ามามีส่วนร่วมและนำมาสู่การสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในการตอบสนองความต้องการของประชาชน

อีกทั้งภายใต้กติกาทางการเมืองและยุธศาสตร์ที่เปลี่ยนไป จากกติกาในอดีตที่ใช้ ‘ระบบการเลือกตั้งแบบบัตรสองใบ’ ที่แม้ว่าประชาชนจะเป็นผู้เลือก ส.ส. แต่แท้จริงแล้ว นายทุนคือผู้ที่ครอบงำพรรคการเมืองใหญ่เหล่านี้ และคือผู้ที่เลือก นายกฯ ให้ ส.ส. เข้าไปโหวตในสภาเสียมากกว่า

และด้วยระบบแบบบัตรสองใบนี้เอง ทำให้เกิดการแข่งขันในเชิงบุคคลเพราะประชาชนจะเลือกที่ตัว ส.ส. ไม่ใช่จากพรรคการเมือง อันนำมาสู่การซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่งหมอวรงค์มองว่าระบบดังกล่าว ‘ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน’

ในขณะที่ปัจจุบันที่ได้เปลี่ยนกติกาไปใช้ ‘ระบบบัตรใบเดียว’ โดยระบบนี้เองประชาชนจะมองที่พรรคและตัวของนายกฯ มากกว่า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงไปของกติกาทางการเมืองนี้ จะก่อให้เกิดการต่อสู้ โดยการก่อตั้งพรรคการเมืองในเชิงอุดมการณ์ ที่จะนำประโยชน์มาสู่ประชาชนได้อย่างแท้จริง

หมอวรงค์ เล่าย้อนกลับไปถึงจุดยืนของพรรคที่ก่อตั้งขึ้นด้วยว่า พรรคไทยภักดีชัดเจนในการต่อต้านคนสามกลุ่มที่เรียกว่า ‘ขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์’ ใฝ่ฝันอยากให้ประเทศไทยกลายเป็น ‘สาธารณรัฐ’ ซึ่งระบบดังกล่าว ไม่สามารถทำให้ประเทศไทยอยู่รอดได้

>> แต่ระบบการปกครองของไทยในปัจจุบันต่างหาก ถึงจะเป็นทางรอดของประเทศไทยที่แท้จริง เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเสมือนจุดหลอมรวมความรู้สึกของความเป็นคนไทย และถ้าหากขาดสถาบันที่สำคัญนี้ไป ประเทศไทยจะถึงคราวแตกแยกอย่างแน่นอน!!

จากตัวแปรที่กล่าวมา จึงส่งผลให้เกิดเป็น ‘อุดมการณ์ 5 ข้อ’ และ ‘5 DNA’ ที่สะท้อนตัวตนของพรรคไทยภักดี ดังนี้

>> ‘อุดมการณ์ 5 ข้อ’

1.) ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือ การยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

2.) สืบสานความเป็นไทย เชื่อมั่นในวัฒนธรรม จารีต ประเพณี

3.) ต่อต้านทุนผูกขาด เพราะสิ่งนี้จะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำขึ้นในสังคม

4.) สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเกษตร

5.) เชื่อมั่นว่าประเทศต้องพึ่งพาตนเองถึงจะอยู่รอด

>> ‘ความเป็นตัวตน หรือ DNA 5 ข้อ’

1.) ต้องการทำเพื่อการเปลี่ยนแปลง

2.) โปร่งใส

3.) สร้างคนใหม่

4.) นักการเมืองที่ไว้วางใจได้

5.) ภักดีประชา ศรัทธาสถาบัน

อย่างไรก็ตาม อุดมการณ์ และ DNA ของพรรคไทยภักดี ดูเหมือนจะขัดกับกลุ่มคนที่หมอวรงค์เรียกว่า ‘ขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ แนวคิด มุมมอง หรือแม้แต่การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์

สังเกตได้จากเหตุการณ์ที่มีคนจำนวนไม่น้อยถูกแจ้งความด้วยข้อหามาตรา 112 กันมากมายในปัจจุบัน ซึ่ง ‘หมอวรงค์’ ได้ให้เหตุผลว่า การวิพากษ์ วิจารณ์ สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย วิพากษ์ วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์และมีเจตนาที่บริสุทธิ์

ในส่วนของแนวคิดของกลุ่มพรรคก้าวไกล กลุ่มก้าวหน้า และม็อบสามนิ้ว หมอวรงค์ให้เหตุผลว่า การกระทำหรือแนวคิดต่าง ๆ จาก คน 3 กลุ่ม ‘ไม่ใช่ของจริง’ เพราะไม่ได้อยู่ในเส้นทางหลักที่จะทำเพื่อประชาชน และของจริงต้องมีเจตนาที่สร้างสรรค์ต้องการปฏิรูปประเทศไปในทางที่ดีขึ้น มิใช่การทำลาย

ทั้งนี้ เมื่อถามถึงบทบาทของพรรคไทยภักดี หากก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองในเมืองไทยอย่างสมบูรณ์แล้ว เรื่องแรกที่จะปฏิรูปคืออะไร? หมอวรงค์ได้ให้คำตอบว่า...

1.) เรื่องแรกที่จะปฏิรูป คือ ‘การแก้ปัญหาเรื่องโกง’ ทั้งนักการเมืองและในระบบราชการ โดยการแก้ไขกฎหมายที่เอื้อต่อการนำไปสู่การทุจริต และการแก้ไขปัญหาจากตัวผู้นำ โดยการใช้ระบบแบบ Digital Government ซึ่งระบบนี้จะเป็นการยื่นแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องเจอหน้ากัน ทำให้สามารถกำหนดระยะเวลาได้อย่างชัดเจนว่าจะต้องอนุมัติภายในกี่วัน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการทุจริตที่เอื้อต่อการรับสินบน

2.) หมอวรงค์ยังกล่าวอีกว่า พรรคไทยภักดี จะเป็นพรรคแรกที่กล้า ‘ปฏิรูปตำรวจ’ เพื่อตอบสนองประชาชน เพราะที่ผ่านมาตำรวจใช้โครงสร้างแบบทหาร รอคำสั่งจากทหาร ทั้งที่ตำรวจควรมีหน้าที่อยู่ดูแลประชาชนทั่วไปได้อย่างเต็มที่

3.) นอกจากนี้ คือเรื่องการ ‘ปฏิรูปผูกขาดของระบบต่าง ๆ’ แนวคิดของไทยภักดีมองว่า สาธารณูปโภคพื้นฐาน และเรื่องปากท้อง ราคาต้องไม่แพงจนเกินไป หรือแม้กระทั่งน้ำมันที่ยังเป็นระบบผูดขาด ทำให้เป็นปัญหาของน้ำมันราคาแพงในปัจจุบัน

4.) อีกหนึ่งหัวใจสำคัญคือเรื่อง ‘ระบบการศึกษา’ ที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง หากมองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ระบบการศึกษายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นระบบแบบเดิม ในขณะที่สังคมเดินหน้าไปมากแล้ว และเมื่อพูดถึงการปฏิรูประบบการศึกษา คงหนีไม่พ้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของผู้บริหาร ครู หรือผู้บริหารกระทรวงศึกษา เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักเรียน เราจะต้องเพิ่มเงินเดือนให้ครู เพื่อได้ครูที่เก่ง และมีความสามารถที่จะนำพาการศึกษาให้เดินหน้าต่อไปทันยุคดิจิทัลได้

5.) และสุดท้ายคือการ ‘ให้ความสำคัญกับพี่น้องเกษตกร’ เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นกลุ่มที่ถูกเอาเปรียบเยอะมาก รัฐบาลควรเป็นตัวตั้งของแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้กลุ่มเกษตรเข้าสู่ระบบในการซื้อขายผ่านออนไลน์ ตรงนี้เกษตรจะได้ประโยชน์ โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้ากลาง

อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนพรรคการเมืองต้องใช้ทุนทรัพย์มาก และหมอวรงค์ ก็มองว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่ง เพราะต้องรอดูว่าอุดมการณ์พรรคจะสื่อไปถึงประชาชนที่เห็นด้วยกับแนวทางของพรรคแค่ไหน โดยผู้ที่จะร่วมอยู่ในร่มไม้เดียวกันกับพรรคไทยภักดีนั้น ไม่ได้จำกัดกลุ่มคน ขอแค่มีอุดมการณ์ และ DNA เดียวกัน คือ “นำการเปลี่ยงแปลง โปร่งใส สร้างคนใหม่ ไว้ใจได้ ไทยภักดี” ที่สำคัญคือธำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นเสมือนจุดหลอมรวมความรู้สึกของความเป็นคนไทยมาอย่างยาวนาน

สุดท้าย ‘หมอวรงค์’ ยังกล่าวอีกว่า “พร้อมที่จะรับไม้ต่อจากพลเอกประยุทธ์ ในการจัดการปัญหาของแผ่นดินนี้!! ผมพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี”

รับชมคลิปเต็ม >> ทัพหน้าต้านล้มเจ้าเป้าหมายที่ไม่เปลี่ยน กับ 'หมอวรงค์ แห่งไทยภักดี’ ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ : ตามลิงก์นี้ >> https://fb.watch/6QS6Va-5Rm/


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9