คุณหนึ่ง ฐนพงศ์ ลือขจรชัย | THE STUDY TIMES STORY EP.57

บทสัมภาษณ์ คุณหนึ่ง ฐนพงศ์ ลือขจรชัย ปริญญาโทและเอก คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นักเขียน
จากนักกฎหมายสายนิติศาสตร์ สู่นักเขียนผู้ใช้ประสบการณ์และความรู้ถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือ

ในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย คุณหนึ่งเรียนที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โดยส่วนใหญ่เป็นคนที่ชื่นชอบในการทำกิจกรรม ซึ่งคุณหนึ่งได้เข้าร่วมชมรมเชียร์ มีกิจกรรมที่โดดเด่น คือ การแปลอักษรในงานจตุรมิตร คุณหนึ่งเป็นสต๊าฟ รับผิดชอบในงานกิจกรรม ทำให้ไม่ค่อยได้เข้าเรียน จึงต้องมีความพยายามมากขึ้นในการเรียน ส่งงาน ส่งการบ้าน เทคนิคในการเรียนของคุณหนึ่งคือ ชื่นชอบในการอ่านหนังสือ ทำความเข้าใจกับตัวเองมากกว่า ทำให้เข้าใจบทเรียนและไม่ลืมในสิ่งที่ได้จากการอ่าน

ก่อนจะเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี คุณหนึ่งยังไม่รู้ว่าตัวเองจะไปทางสายอาชีพไหน จนได้เข้าร่วมแข่งขันตอบปัญหาวิชาด้านกฎหมาย โดยได้รับโอกาสจากคุณครูท่านหนึ่ง และได้รับรางวัลชนะเลิศมา เลยรู้สึกว่าตัวเองถนัดด้านกฎหมายและคิดว่าเมื่อจบแล้วสามารถทำเป็นวิชาชีพได้ จึงตัดสินใจสอบเข้าในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

เมื่อเข้าไปเรียนในคณะนิติศาสตร์ คุณหนึ่งรู้สึกว่าวิธีเรียนเพื่อไปแข่งขันกฎหมายกับวิธีเรียนในระดับมหาวิทยาลัย มีความแตกต่างแทบจะเป็นคนละเรื่องกัน  เหมือนต้องไปเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด เพราะคณะนิติศาสตร์เป็นการเรียนกึ่งวิชาชีพ ไม่ได้มีแค่หลักวิชาการ และการเรียนกฎหมายจะไปอิงกับเรื่องอื่นๆ ทางสังคมค่อนข้างเยอะ โดยคุณหนึ่งได้กล่าวว่า การเรียนนิติศาสตร์ไม่ใช่แค่ว่าชอบกฎหมาย ไม่ชอบกฎหมาย แต่จะต้องรู้ตัวเองด้วยว่ากฎหมายเรื่องอะไรที่เราอยากจะอยู่กับมัน 

เมื่อจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี คุณหนึ่งได้เข้าทำงานในสายนิติศาสตร์อย่างเต็มตัว กลับกลายเป็นว่าเป็นสิ่งที่เหมือนทั้งรักและเกลียด เพราะคุณหนึ่งชอบในเรื่องเนื้อหากฎหมาย แต่เมื่อมาทำงานจริง ๆ ได้เห็นผู้คนผิดหวัง เสียใจ ล้มละลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากพบเจอ เลยได้ย้อนกลับมาถามตัวเองว่าจะทำอย่างไรหากไม่ทำสายกฎหมายต่อ กระทั่งย้อนกลับไปในสมัยเรียนนิติศาสตร์ พบว่าวิชาที่ชื่นชอบที่สุดคือ ประวัติศาสตร์กฎหมายและนิติปรัชญา ซึ่งเป็นวิชากฎหมายที่เป็นวิชาการแท้ๆ คุณหนึ่งเลยตัดสินใจอยากที่จะเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์กฎหมายที่ประเทศสก็อตแลนด์ แต่ก็มีเหตุที่ทำให้ไม่ได้ไป สุดท้ายตัดสินใจเรียนต่อประวัติศาสตร์ เพื่อทำเกี่ยวกับประวัติศาสตร์กฎหมาย ที่ประเทศไทย  

คุณหนึ่งเล่าวว่า การเรียนในช่วงแรกค่อนข้างยาก เพราะยังแยกประวัติศาสตร์กับโบราณคดีไม่ออก แต่เมื่อทำงานจริง ได้นำข้อเด่นของตัวเองจากการเรียนกฎหมายและความชอบในประวัติศาสตร์มารวมกัน พัฒนางานได้ดีจนสามารถคว้ารางวัลวิทยานิพนธ์ดีเด่น ตีพิมพ์เป็นหนังสือออกสู่สาธารณะ ชื่อเรื่องว่า เสียดินแดนมลายู : ประวัติศาสตร์ชาติฉบับ Plot Twist และในปัจจุบันคุณหนึ่งกำลังศึกษาปริญญาเอก คณะศิลปศาสตร์ (ประวัติศาสตร์) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อยู่ระหว่างทำวิทยานิพนธ์ในเรื่องของเขตแดนแม่น้ำโขง 

จุดเริ่มต้นการเป็นนักเขียน คุณหนึ่งฝึกฝนเริ่มเขียนหนังสือมาตั้งแต่ช่วงมัธยมศึกษา ไม่ว่าจะเป็นนิยายแฟนตาซีจากความสนใจในเรื่องแฮรี่พอตเตอร์ เขียนแล้วใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็พยายามเขียนต่อไป รวมถึงการเขียนนิยาย เรื่องสั้น เขียนจดหมายส่งประกวดทางไปรษณีย์ ได้รับรางวัลบ้างก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว หลังจากที่คุณหนึ่งได้รับการตีพิมพ์หนังสือเล่มแรก และได้รับโอกาสจากทางผู้ใหญ่ คุณหนึ่งตอบรับทุกโอกาสที่เข้ามา พร้อมทั้งหาความรู้และประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น คุณหนึ่งได้แชร์ข้อคิดที่ว่า คนเราอาจจะไม่ได้เก่งไปเสียทุกอย่าง รู้ครึ่งหนึ่งไม่รู้ครึ่งหนึ่ง สำคัญคือเวลาโอกาสมาหาเราให้รีบคว้าเอาไว้ เพราะอาจจะเป็นจุดที่ทำให้เกิดโอกาสในครั้งต่อ ๆ 

คุณหนึ่งแชร์มุมมองว่า นักเขียนหลาย ๆ คนอาจจะคิดในแง่ลบว่าทำไมหนังสือของตัวเองถึงยังไม่ได้ตีพิมพ์ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับคนที่อยากมีหนังสือเป็นของตัวเอง ขั้นแรกคือ ทำต้นฉบับให้ดีที่สุดและส่งให้กับทางสำนักพิมพ์ ถ้ายังไม่ดีก็ส่งเล่มใหม่ ส่งไปเรื่อยๆ แล้วรอการตอบกลับ

สำหรับคุณหนึ่ง สิ่งที่ได้รับจากการเป็นนักเขียน คือ การฝึกวิธีคิดและวินัยในการเขียนให้จบ คุณหนึ่งมองว่า สำคัญที่สุดของการเขียนไม่ใช่เขียนดี แต่ต้องเขียนให้จบ หนังสือเล่มนึงควรเขียนให้จบดราฟแรกภายใน 3 – 4 เดือน หากนานกว่านั้นมีแนวโน้มที่จะไม่จบ เพราะสมาธิหลุด เริ่มมีไอเดียใหม่ อยากที่จะไปเขียนในเรื่องอื่น ๆ งานเขียนหนังสือเป็นงานที่ทำกับตัวเอง ต้องอยู่กับตัวเอง พูดคุยกับตัวเอง ไม่มีใครช่วยได้ 

คุณหนึ่งฝากทิ้งท้ายสำหรับน้องๆ ไว้ว่า ไม่ว่าจะกิจกรรมหรือการเรียน มีอะไรให้ทำไป ลองทุกอย่างจะได้รู้ว่าตัวเองชื่นชอบอะไร การถูกคาดหวังให้เลือกคณะที่ถูกต้องได้ใน ม.6 แทบเป็นไปไม่ได้เลย คนส่วนใหญ่ไม่ได้ทำงานตรงกับที่ตัวเองได้เรียนในระดับปริญญาตรี ถ้ามีกิจกรรมให้ไปลองให้หมด ค่อยๆ ทำไป ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอจุดที่ทำงานเอนจอย ชอบ ดี และหาเงินกับมันได้ ต้องลองทำไปเรื่อย ๆ 

.

.

.

.