คุณปิ่น ธัญชนก ปการัตน์ | THE STUDY TIMES STORY EP.34

บทสัมภาษณ์ คุณปิ่น ธัญชนก ปการัตน์ ปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับ 1) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไอดอลและนักแสดงวัยรุ่น

การเรียนรัฐศาสตร์ทำให้การมองโลกเป็นระบบมากขึ้น เอามาใช้กับการทำงานในวงการบันเทิงได้เป็นอย่างดี

คุณปิ่นเรียนจบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยแรงบันดาลใจในการเลือกเรียนคณะรัฐศาสตร์ มาจากช่วงม.ปลายเรียนสายวิทย์-คณิต เป็นคนเรียนดีปกติ แต่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ จนได้ไปเข้าค่ายค้นหาตัวตน ในคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แต่เมื่อไปพบสิ่งที่ได้เรียนกลับรู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่ชอบ จึงตัดสินใจไม่เลือกคณะวิทยาศาสตร์แน่ๆ จากนั้นได้ไปอ่านวิชาเรียนของรัฐศาสตร์ รู้สึกอยากเข้าไปเรียน อยากรู้มากกว่านี้ จึงตัดสินใจแอดมิดชันเข้าคณะรัฐศาสตร์ สาขาสังคมวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

เพราะคำพูดของอาจารย์ที่กล่าวว่า “คนเรียนแพทย์ จบไปเป็นหมอรักษาคน แต่คนเรียนรัฐศาสตร์ จบไปเป็นหมอรักษาสังคม” เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้คุณปิ่นตั้งใจเรียนในสายสังคมวิทยา เพราะรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ส่งผลกระทบทั้งกับตนเอง ระดับสังคม ระดับประเทศ ไปจนถึงระดับทวีป สิ่งที่เรียนสามารถนำไปคิดต่อยอดได้เยอะมาก

เทคนิคการเรียนให้ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งของคุณปิ่น คือ พยายามตั้งใจในหัวข้อที่สำคัญ อ่านชีทล่วงหน้า ตั้งคำถามไว้ก่อนที่อาจารย์จะสอน การบ้านเป็นสิ่งสำคัญ เหมือนการทวนไปในตัว สิ่งไหนที่ไม่รู้สามารถไปหาเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ คุณปิ่นจะมีเช็คลิสต์จัดลำดับสิ่งที่ต้องทำทุกวัน และพยายามทำให้ครบตามที่วางแผนไว้

คุณปิ่นแนะหลักในการทำข้อสอบของรัฐศาสตร์ คือ ต้องมองมุมกว้าง อธิบายถึงสิ่งที่เป็นหลักก่อน แล้วค่อยย่อยหัวข้อออกมา พร้อมทั้งยกตัวอย่างสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคม มาเชื่อมโยงอย่างมีเหตุมีผล

คุณปิ่นกล่าวว่า สิ่งที่ได้จากการเรียนรัฐศาสตร์ คือ การมองโลกเปลี่ยนไป ไม่ตัดสินอะไรง่ายๆ มองทุกอย่างในมุมกว้างมากขึ้น พยายามตั้งคำถามกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น มีทักษะ Critical Thinking เพิ่มขึ้น สามารถนำจุดนี้มาใช้ได้กับทุกเรื่อง

นอกจากนี้คุณปิ่นยังได้ทำกิจกรรมมากมายในรั้วมหาวิทยาลัย เช่น กิจกรรมค่ายสอนหนังสือเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย ให้กับนักเรียนมัธยมที่ต่างจังหวัด การทำกิจกรรมครั้งนั้นพบว่า โรงเรียนที่ไปมีความกันดารมาก น้องๆ มีความรู้พื้นฐานไม่ตรงตามระดับชั้นที่เรียน ไม่มีความฝัน พี่ๆ ในค่ายจึงต้องพยายามสอนน้อง ปรับ mindset ใหม่ จนจบค่ายน้องมาขอบคุณพี่ๆ และบอกว่าตัวเองมีความฝันแล้วว่าอยากจะเข้าเรียนต่อในคณะอะไร ทำให้คุณปิ่นเกิดความตื้นตันใจมาก

จากความเหลื่อมล้ำที่พบเจอมา ทำให้คุณปิ่นอยากผลักดันด้านการศึกษาในประเทศไทย โดยมองว่า การศึกษาควรเริ่มที่บุคลากร คุณครูผู้สอน นอกจากสอนในเรื่องเนื้อหาแล้ว ควรสอนในเรื่องของการใช้ชีวิต สอนให้เด็กสามารถนำเนื้อหาที่เรียนมาประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงได้

คุณปิ่นเคยอยู่ในวงดนตรีไอดอล ตำแหน่งมือกีตาร์ไฟฟ้า เนื่องจากมีความสนใจ อยากมีงานแสดงเป็นของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เมื่อมีคนมาชักชวนจึงตกลง ซึ่งต้องไปฝึกเล่นกีตาร์ไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด โดยประสบการณ์ที่ได้ คือ เรื่องของการแบ่งเวลา ต้องแบ่งเวลาซ้อมและเวลาเรียน และอย่าลืมที่จะพักผ่อน คุณปิ่นกล่าวว่า ส่วนใหญ่เวลาที่ทำอะไรหลายๆ อย่าง เราต้องตั้งเป้าหมายที่ต้องการไว้ ว่าเราทำไปเพื่ออะไร นอกจากนี้ การเป็นไอดอลจะมีกลุ่มแฟนคลับที่คอยสนับสนุน สอนให้รู้จักการวางตัว และต้องพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ 

ปัจจุบันคุณปิ่นมุ่งสู่สายอาชีพนักแสดง มีความตั้งใจอยากแสดงซีรีส์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการถ่ายทำ รวมทั้งยังเป็นสตรีมเมอร์ เล่นเกมให้คนอื่นเข้ามาดู ซึ่งแต่ละคนจะมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน คุณปิ่นมองว่า เกมเป็นตัวเชื่อมที่ทำให้ได้ติดต่อกับคนที่มีความชื่นชอบเหมือนกัน มีคนคอยแนะนำ เหมือนได้เล่นเกมกับเพื่อน ไม่ได้เล่นอยู่คนเดียว

.

.

.