คุณแกม อนัญญา เอกอุรุ | THE STUDY TIMES STORY EP.32

บทสัมภาษณ์ คุณแกม อนัญญา เอกอุรุ นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 3 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วินัยและไม่ผัดวันประกันพรุ่ง ทำให้พื้นฐานในการเรียนแน่น โดยไม่ต้องกดดันตัวเองเกินไป

ช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย คุณแกมเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่น 79 ห้องคิง คุณแกมเล่าว่า ตอนช่วงม.ต้น ไม่ได้เก่งเลขเลย แต่อยากสอบติดและเป็นคนที่เก่งเลข จึงฝึกฝนโดยการทำโจทย์ข้อเดิมซ้ำๆ จนกว่าจะทำได้ ส่วนวิชาวิทยาศาสตร์ และอังกฤษ จะไปเรียนพิเศษและอ่านทบทวนเอง จนสามารถสอบติดสายวิทย์-คณิต บริหาร ห้องคิง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นรุ่นที่ 79 

แรงบันดาลใจเลือกเรียนต่อ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยของคุณแกมมาจากความที่ชอบวิทย์-คณิตมาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้ชอบทางด้านภาษา พยายามหาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับวิทย์-คณิต จนได้ดูซีรีส์ที่เกี่ยวกับหมอ แล้วรู้สึกอิน มีอารมณ์ร่วม เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้อยากเป็นหมอมาตั้งแต่เด็ก 

เทคนิคการเตรียมตัวสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ของคุณแกม คือ พยายามเรียนเนื้อหาม.ปลายให้จบภายใน ม.4-5 พอถึงช่วงเปิดเทอมขึ้นม.6 จะเริ่มเรียนคอร์สเอนท์ ไปจนถึงม.6 เทอม 1 รวมทั้งต้องแบ่งเวลาอ่านหนังสือ เตรียมโจทย์ไปทำที่โรงเรียน  พยายามทำการบ้านคอร์สเอนท์ให้หมด ไม่ค้างไว้ ในช่วงปิดเทอมสั้นม.6 จะเริ่มเรียนคอร์สตะลุยโจทย์ต่างๆ และช่วงม.6 เทอม 2 เริ่มเรียนคอร์สความถนัดแพทย์ ตะลุยโจทย์วิชาที่เหลือ และเน้นอ่านเองเป็นหลัก

สังคมที่เตรียมฯ เพื่อนทุกคนจะพากันเรียน หลังเลิกเรียนแยกย้ายกันไปเรียนพิเศษ มีอะไรสงสัยสามารถถามกันได้ เพื่อนๆ ช่วยกันเรียน คุณแกมเป็นคนมีวินัยในการเรียน พยายามไม่ออกนอกลู่นอกทาง ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง อาจไม่ได้เที่ยวเล่นมาก เพราะมีจุดมุ่งหมายคือการสอบติดคณะแพทย์ จึงพยายามเรียนไม่เล่นเยอะ

กิจกรรมในรั้วมหาวิทยลัย 
ครั้งแรกที่คุณแกมเข้าไปเรียนที่จุฬาฯ มีกิจกรรมค่ายรับน้อง เป็นค่ายที่ทำให้รู้จักเพื่อนใหม่ รุ่นพี่ สังคมใหม่ๆ ค้นพบว่าคณะแพทย์จุฬาฯ อบอุ่นมาก ต่อมาคือค่ายเฟรชชี่ และค่ายอยากเป็นหมอ ช่วยแนะแนวทางการศึกษาแพทย์ให้กับน้องม.ปลาย การร่วมกิจกรรมต่างๆ เกิดเป็นแรงบันดาลใจในการทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยเรื่อยมา

ความชื่นชอบในค่ายเฟรชชี่ตอนตัวเองเป็นรุ่นน้อง คุณแกมจึงสมัครเป็นฝ่ายประสานงานของค่าย พอทำแล้วรู้สึกชอบมาก เนื่องจากตอนเรียนมัธยมไม่ค่อยได้ทำกิจกรรม เพราะมีจุดมุ่งหมายคืออยากเข้าเรียนคณะแพทย์ ทำให้เรียนหนัก แต่เมื่อสอบติดแล้วทำให้รู้สึกว่าไม่มีอะไรต้องเครียด ลองทำกิจกรรมมากขึ้น ทำให้รู้ว่า ชีวิตไม่ได้มีแค่การเรียน การทำกิจกรรมฝึกพัฒนาตัวเองได้เยอะมาก เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาได้จากการเรียน

ติวเตอร์สอนพิเศษ
ช่วงที่สอบมหาวิทยาลัยติดแล้ว คุณแกมมีเวลาว่างจึงเริ่มสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์และชีววิทยา แต่ต่อมาเน้นสอนคณิตศาสตร์อย่างเดียว ชอบที่ได้ถ่ายทอดความรู้ไปให้น้องๆ รู้สึกแฮปปี้ การสอนบ่อยๆ ทำให้เริ่มผูกพันธ์กับงานสอน เหมือนเป็นความเคยชิน ทำให้สอนเรื่อยมาตั้งแต่ปี 1

คุณแกมฝากทิ้งท้ายเป็นกำลังใจสำหรับคนที่เตรียมตัวสอบไว้ว่า ไม่ต้องเครียดมาก พยายามทำให้ดีที่สุด มีวินัยกับตัวเอง  พยายามเตรียมตัวเรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเอง เพราะการกดดันตัวเอง เป็นการเพิ่มความเครียดให้ตัวเอง ทำให้ทำอะไรไม่ได้ดีสักอย่าง


.

.

.