‘Yes man’ ชีวิตเกือบตุ้บ เพราะมุ่ง​ 'เซย์เยส'​

เชื่อว่าหลายๆ​ คนคงได้ยินประโยคติดหูอย่าง ‘ทำดีย่อมได้ดี’ ซึ่งก็อาจจะจริง แต่ไม่จริงทั้งหมด วันนี้เลยอยากจะยกกรณีของหนังเรื่อง ‘Yes Man’ หรือชื่อไทย ‘คนมันรุ่งเพราะมุ่งเซย์เยส’ หนัง Feel Good ที่สะท้อนให้เห็นว่าการทำดี (แบบไม่ลืมหูลืมตา) ก็ไม่ใช่ผลดีเสมอไป

โดยหนังเรื่องนี้ได้เล่าถึง ‘คาร์ล อัลเลน’ นายธนาคาร ที่มีชีวิตสุดหดหู่ เพราะการหย่าร้าง ทำให้เขาเริ่มใช้ชีวิตแบบหันหลังให้สังคม คำพูดติดปากของเขาคือ​ การเซย์ ‘โน’ (ปฏิเสธทุกอย่าง)​

เขาปฏิเสธกับทุกสิ่งที่เหวี่ยงเข้ามาในชีวิต แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้มาเจอกับเพื่อนเก่าที่ชักชวนให้เขาไปเข้าร่วมสัมมนา ที่ทุกคนต่างพูดแต่คำว่า ‘เยส’ (ตอบรับทุกเรื่อง)​ ซึ่งก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเริ่ม​ 'เซย์เยส’ กับทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิต 

หลังจากนั้นชีวิตเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป​ เพราะชีวิตที่เคยมีแต่ความหดหู่กลับมีเรื่องดีๆ เข้ามา แต่เมื่อไหร่ที่เขาเซย์ ‘โน’ เรื่องแย่ๆ ก็จะเกิดขึ้นกับเขาไปเสียทุกที ทำให้เขายิ่งเชื่อว่าหากเขาเริ่มปฏิเสธเขาก็จะกลับมาสู่ชีวิตหดหู่แบบเดิมอีกครั้ง 

เพียงแต่การเซย์ ‘เยส’ ของเขา​ ก็ใช่ว่าจะเจอเรื่องดีๆ​ ทั้งหมด​ เพราะมันกลับทำให้เกิดเรื่องยุ่งๆ   ด้วยเช่นกัน​ เมื่อเขาดันตกปากรับคำไปซะทุกเรื่อง แม้ว่าเรื่องนั้นจะไม่เต็มใจทำ หรือเกินความสามารถที่เขาจะทำได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้เขาต้องมาทำความเข้าใจเสียใหม่กับการ เซย์ ‘เยส’ แบบไม่ลืมหูลืมตาของเขา

จากโลกของหนัง​ อ้อมมาสู่โลกของความเป็นจริง​  อะไรที่หล่อหลอมให้คนหนึ่งคนเกิดพฤติกรรมชอบเยสแบบ​ ‘คาร์ล อัลเลน’

ปัจจัยสำคัญหนึ่งที่สะท้อนจากเรื่องนี้​ คือ ‘ความขี้เกรงใจ’ จนไม่กล้าปฏิเสธ ซึ่งเรื่องนี้ทางผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาของจีน 'โจวเหวยลี่'​ เชื่อว่า "ความวุ่นวายส่วนใหญ่ของชีวิตมาจากการที่คุณพูดว่า YES เร็วเกินไป และพูดว่า NO ช้าเกินไป" โดยเธอมองว่าความเกรงใจกลายเป็นส่วนหนึ่งที่มาทำลายชีวิต 

และทางออกที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้​ ก็ง่ายๆ​ แค่หัดรู้จักเซย์ ‘โน’ เสียบ้าง ซึ่งอาจจะต้องเริ่มเปลี่ยนวิธีคิด กำจัดความเกรงใจออกไป เพื่อให้เรากล้าที่จะปฏิเสธ พร้อมท่องจำไว้ด้วยว่า "ก่อนจะเห็นแก่คนอื่น เราต้องเห็นแก่ตัวเองเสียก่อน" 

"การปฏิเสธไม่ใช่การกระทำที่แย่ แต่เราควรต้องเรียนรู้ที่จะพูดคำว่า ‘ไม่’ และคำว่า ‘ได้’ ไปพร้อมๆ​ กัน"

หากมองดูจากภาพยนต์เรื่อง Yes Man นี้แล้วก็สะท้อนให้เห็นว่าการเซย์ ‘เยส’ ที่สุดโต่ง​ หรือ​ 'โน'​ แบบสุดลิ่มทิ่มประตู ย่อมสร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองได้ทั้งนั้น

ฉะนั้นหนทางที่ดีที่สุด​ คือ ควรอยู่บนความพอดี เราควร เซย์ ‘เยส’ กับเรื่องที่ทำได้ และเซย์ ‘โน’ กับเรื่องที่เกินตัวไปสำหรับเรา เพราะถ้ายังเป็น Yes Man ในชีวิตจริง ก็คงชีวิตหวิดตุ้บ เพราะมุ่งเซย์เยสอย่างแน่นอน


ข้อมูลอ้างอิง 
https://www.brandthink.me/content/moody-digest-say-no
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1229676