ส่องฟาร์ม​ 'แอปเปิ้ล'​ ในแดนสวิสฯ 'ฟาร์มอดิเรก'​ สุดเก๋ !! ของคนอยากเติมพลังใจ ไม่ใช่แค่นำไปขายเอารวย

ตอนนี้ที่สวิส คือฤดูใบไม้ผลิ ถ้าพูดถึงความสวยงามของดอกไม้ที่กำลังผลิบานก็ต้องบอกว่าดอกของต้นแอปเปิ้ล มีความสวยงาม น่ารัก เปรียบดังสาวแรกรุ่นไม่แพ้ดอกไม้อื่น ๆ เลยทีเดียว ที่บอกแบบนั้นเพราะดอกของแอปเปิ้ลจะเป็นสีขาวแต่มีสีชมพูแซม เห็นไหมล่ะว่ามีความเป็นสาวน้อยแรกรุ่นยังไง 

ที่ฟาร์มนอกจากต้นไม้ต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้ว เราก้อจะซื้อมาปลูกเพิ่มอยู่เรื่อย ๆ เราจะมีที่ ที่เราไปซื้อประจำไม่ไกลจากบ้านมากเท่าไหร่ วิธีการที่เค้าปลูกน่ะเหรอ เป็นการเอาเมล็ดของต้นแอปเปิ้ลป่ามาเพาะ ที่ทำแบบนี้เพราะต้นแอปเปิ้ลป่าหรือที่มันขึ้นมาตามธรรมชาตินั้น ต้นมันจะมีความแข็งแรง แข็งแกร่ง และทนทาน พอต้นที่เพาะโตได้สักประมาณ 1 ปี เราก็จะเอามาตอนกิ่งกับพันธุ์ที่เราต้องการอยากจะได้ แต่วิธีนี้เป็นวิธีการดั้งเดิมสำหรับไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ คือต้นไม้สูง ซึ่งต้นนึงเนี่ยสูงหลายเมตรเลยทีเดียว ถ้าเป็นวิธีแบบนี้ทางฟาร์มเราเอาแต่พันธุ์เก่าแก่มาปลูกซึ่งโดยปกติแล้วอายุ 5-10 ปีกว่าจะให้ผล ซึ่งถ้าเป็นแบบที่ว่าคือจะมีอายุได้ยาวนานถึง 200 ปีเลยทีเดียว

ที่ฟาร์มของวี่มีอาณาเขต 44 ไร่เศษ มีต้นไม้ทั้งหมดประมาณ 80 กว่าต้น เฉพาะแอปเปิ้ลอย่างเดียว 28 ต้น มี 27 สายพันธุ์ เพราะบางต้นมีถึง 6 สายพันธุ์เลยนะ มีอยู่ต้นนึงที่วี่รักมาก แต่เมื่อสิงหาคมปี 2013 ที่ผ่านมามีพายุหนัก ต้นนี้เป็นหนึ่งในหลายต้นที่โค่นลงมา ณ ตอนนั้นมีอายุ 140 ปี สาเหตุที่รักต้นนี้เป็นพิเศษคือ ต้นและกิ่งเขาสวยมาก แถมต้นนี้ต้นเดียวให้ผลแอปเปิ้ลมากถึง 1,000 กิโลกรัมเลยทีเดียว ใช่ฮะ ไม่ต้องตกใจ ช่วงที่ผลเริ่มออกเราต้องหาไม้มาค้ำยันกิ่งไว้ไม่ให้กิ่งหักเพราะรับน้ำหนักที่มากเกินไป พูดถึงทีไรก็สุขใจปนเศร้าใจไปซะทุกที...

ต้นแอปเปิ้ลที่เก่าแก่ที่สุดในฟาร์มวี่ มีอายุถึง 150 ปี มากกว่าพวกเราอีกเนาะ ส่วนต้นที่สูงที่สุดอยู่ที่ 15 เมตร แอปเปิ้ลที่ฟาร์ม ไม่เหมาะสำหรับการนำมาขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านทั่วไปเพื่อบริโภค แต่เพื่อทำอาหาร ทำน้ำผลไม้และเพื่อทำเหล้าโดยเฉพาะ วี่ชอบเอามาอบเค้กแอปเปิ้ล เรามีหลากหลายสายพันธุ์มาก ๆ แต่อย่างที่ย้ำ ๆ คือเรามีแต่พันธุ์เก่าแก่

ทั้งนั้น  เราจะเริ่มทำการเก็บแอปเปิ้ลช่วงกลางกันยายนถึงประมาณกลางตุลาคม ณ ตอนนี้ปี ๆ หนึ่งจะได้ประมาณ 2,000 กิโลกรัม นี่เฉพาะแอปเปิ้ลอย่างเดียวนะ สมัยก่อนเมื่อเก็บได้เราจะเอาไปส่งผู้ผลิตรายใหญ่ ในราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ๆ พูดไปจะต้องตะลึงแน่นอน คือต่อ 100 กิโลกรัม เพียงแค่ 11 สวิสฟรังค์เท่านั้น มีอยู่ปีหนึ่งที่เขาจะให้ราคาเรา 8 ฟรังค์ พอกันทีอ่ะเนอะ ตั้งแต่นั้นมาเราส่งเฉพาะคนที่ต้องการแอปเปิ้ลพันธุ์เก่าแก่นี่ละ ในราคาประมาณ 20-23 ฟรังค์ บางทีเขามารับ บางทีเราไปส่ง 

เขาบอกว่าแอปเปิ้ลเราดี และทำน้ำอร่อย ส่วนวิธีการเก็บเกี่ยวก็คือชาวนาอินดี้ (สามีวี่เอง) จะปีนขึ้นไปตามกิ่งต่าง ๆ และขย่ม ๆ ๆ ๆ จนลูกแอ๊ปเปิ้ลร่วงพลุ่บ ๆ ๆ ๆ เต็มพื้นไปหมด เสร็จแล้วก็ทำการเก็บ และเก็บอย่างเดียวเท่านั้น 

ลูกที่ไม่สวยมาก ๆ เกินจะรับไหวเราก็ไม่ได้ทิ้งนะ เอามาใส่เครื่องปั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้แพะของเรากิน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบมาก

เรื่องการดูแล เราดูแลแบบจะเรียกว่าออร์แกนิคก็ได้ เพราะไม่ใช้สารเคมีใด ๆ เลยกับต้นไม้ทุกต้นในฟาร์ม เราจะตัดแต่งกิ่งทุกปีช่วงต้นธันวาคมเป็นต้นไปจนถึงปลายมีนาคม เพราะพอหลังจากนี้จะเริ่มออกดอก เพื่อให้กิ่งมีความแข็งแรงและให้ใบที่จะผลิได้รับแสงแดดที่ทั่วถึง อ้อ...สิ่งที่สำคัญและจะขาดไปไม่ได้เลยคือการจับหนู ใช่ ที่สวิสก็มีหนูนาด้วยนะเออ เราจะมีกับดักหนูแล้วเอาเหล็กด้ามแหลม ๆ ทิ่มลงไปในดินถ้ามีหนูมันจะเป็นโพรง วี่ชอบบอกว่าหนูมันสร้างถนนเหมือนกับคนนั่นแหละเพื่อไปโน่นนี่ เสร็จแล้วเราก็ขุดหลุมแล้วเอากับดักใส่ลงไป เอาไม้ปักไว้เพื่อให้เราสามารถเห็นได้ง่ายเพราะบางทีหญ้าสูงแล้วหากับดักไม่เจอ เมื่อรูนี้เคยดักหนูได้แล้วเราจะเอาไม้หนีบ หนีบไม้ไว้เพื่อให้รู้ บางครั้งรูนึงดักหนูได้ตั้งหลายตัว (แต่ครั้งละตัวเดียวเท่านั้นนะ) กับดักหนูเรามีประมาณ 30 อันเลยทีเดียว มันไม่ใช่สิ่งที่อยากทำนะ แต่ต้องทำ ถ้าไม่ทำหนูจะกินรากไม้ ไม่นานเดี๋ยวต้นไม้จะอ่อนแอลงเรื่อย ๆ จนตายไป 

ฟาร์มของเราเป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น เพราะทุกคนในครอบครัวมีงานประจำทำ แต่เพราะโตมากับฟาร์มชาวนาอินดี้จึงอยากอนุรักษ์ รักษาไว้ให้อยู่ในสภาพเดิมมากที่สุดโดยใช้วิธีที่ยังค่อนข้างเป็นธรรมชาติเหมือนเมื่อสมัยห้าสิบปีที่แล้ว ใช้อุปกรณ์และเครื่องต่างๆที่ทันสมัยน้อย ใช้แรงกำลังซะเป็นส่วนใหญ่ วี่มีความสุขเพียงแค่ไปนั่งมองต้นไม้ฟังเสียงนกร้องดูแพะเล็มหญ้า มันเหมือนได้ชาร์จพลังชีวิต ธรรมชาติบำบัดมันเป็นแบบนี้นี่เองเนอะ