คุณยีนส์ อรุณรัตน์ เปรมสิริอำไพ | THE STUDY TIMES STORY EP.3

บทสัมภาษณ์ คุณยีนส์ อรุณรัตน์ เปรมสิริอำไพ คอลัมนิสต์อิสระ, นักแปล เรียนต่อออสเตรเลียและจีน (The University of Queensland,  Shanghai Normal University) 
แนะเคล็ดลับ บริหารเงินอย่างคุ้มค่า เรียนต่อออสเตรเลียและจีน

คุณยีนส์เรียนจบปริญญาตรีและโทที่ประเทศไทย ก่อนหน้าที่คุณยีนส์จะเดินทางไปเรียนต่อในต่างประเทศ ได้ทำงานหน้าที่แนะแนว ให้คำปรึกษา ทำวีซ่าให้กับนักเรียนที่ต้องการไปเรียนต่อ คุณยีนส์ตัดสินใจไปเรียนต่อเพราะต้องการประสบการณ์เพื่อกลับมาทำงานและแชร์ประสบการณ์ให้กับนักเรียนไทยที่สนใจ

ครั้งแรกที่ไป เนื่องจากคุณยีนส์จบด้านภาษาอังกฤษมา เลยอยากจะได้วุฒิที่เกี่ยวข้องกับด้านการสอนภาษาอังกฤษ จึงตัดสินใจลง Graduate Certificate in TESSOL University of Queensland-Australia ที่เกี่ยวกับวิชาด้านการสอนภาษาอังกฤษ จากนั้นได้ลงเรียนด้านวิชาบริหารธุรกิจเพิ่ม เพื่อจะนำมาต่อยอด ซึ่งก็คือ Graduate Diploma in Business เท่ากับไปอยู่ออสเตรเลียรวม 2 ปี 

วิธีบริหารจัดการงบประมาณเรียนต่อต่างประเทศ
เรื่องของการบริหารจัดการงบประมาณในการไปเรียนต่อต่างประเทศ คุณยีนส์แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ค่าเล่าเรียน ที่เป็นงบตายตัว เปลี่ยนไม่ได้ เป็นงบส่วนที่ผู้ปกครองหรือนักเรียนต้องแบ่งไว้ ส่วนที่สอง คือ ค่ากินอยู่ ควรเตรียมเป็นงบขวัญถุงไว้ประมาณ 2-3 เดือน เมื่อไปถึงทางออสเตรเลียจะให้สิทธิในการทำงานพิเศษได้ ช่วงที่คุณยีนส์ไป ตามวีซ่าสามารถทำงานพิเศษได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นักเรียนหลายคนต่างก็มีวิธีที่จะไปหางานพิเศษทำเพื่อช่วยในการลดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะทำงานตามร้านอาหารไทย ร้านกาแฟ ช่วยงานมหาวิทยาลัย ช่วยอาจารย์ งานห้องสมุด 

ต่อมาคือค่าที่พัก หากทางผู้ปกครองมีงบประมาณพอ อาจจะให้อยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง บางคนก็อาจจะแยกมาอยู่เอง เช่าอพาร์ทเม้นกับเพื่อน ซึ่งส่วนนี้ต้องดูตามความเหมาะสม หากนำงบประมาณเป็นที่ตั้ง อยากได้ที่พักราคาถูก ก็อาจต้องไปอยู่ที่พักโซนที่ไกลมาก เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เสียเวลาเพิ่มขึ้น 

ค่าเรียนของคุณยีนส์ที่จ่ายไป 2 ปีประมาณ 5-6 แสน ค่ากินอยู่ เดือนแรกประมาณ 30,000 แต่หลังจากได้งานพิเศษก็ตัดเงินส่วนนี้อออก ทำงานหาเงินมาดูแลตัวเอง   

ตอนเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศครั้งแรก คุณยีนส์เล่าว่า มีเรื่องที่ทำให้กังวลใจอยู่บ้าง ในเรื่องตารางรถเมล์ที่มาชั่วโมงละคัน ทำให้ไปเข้าเรียนไม่ทัน และช่วงแรกที่ยังไม่มีงานพิเศษทำ ต้องตีราคาของทุกอย่างเป็นค่าเงินไทย ความเครียดที่เกิดเป็นธรรมดาของนักเรียนไทยที่ไปเรียนต่อ การอยู่เมืองนอกคือการที่ต้องปรับตัวไปอีกระดับหนึ่ง ต้องคิด วางแผนล่วงหน้า แบ่งเวลาทำงานและเรียน 

หลังจากผ่านไป 1 เดือน คุณยีนส์ได้เจอเพื่อนคนไทย เพื่อนต่างชาติ เพื่อนออสเตรเลีย นัดปรึกษาอาจารย์ถึงปัญหาการเรียน กล้าเปิดใจ และปรับวิถีชีวิตตัวเอง จัดตารางเวลาชีวิตใหม่ เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เมื่อปรับตัวได้หลังจากนั้นเริ่มสนุก

เมื่อไปถึงออสเตรเลียครั้งแรก สิ่งที่ควรทำ คุณยีนส์แนะนำว่า ทางเจ้าหน้าที่แนะแนวจะแนะนำมาก่อนว่าช่วงเดือนแรกให้อยู่กับโฮมสเตย์ครอบครัวชาวออสเตรเลียไปก่อน เพื่อปรับตัว ให้พวกเขาช่วยแนะนำเรื่องการใช้ชีวิต การขึ้นรถเดินทาง สำหรับเด็กเล็กจะมีครูพี่เลี้ยง รุ่นพี่ที่เป็นนักเรียนไทยที่อยู่มาก่อน จะมาช่วยแนะนำเรื่องสถานที่ซื้อของใช้ เรื่องทั่วไปต่างๆ ถ้าเป็นเด็กมหาวิทยาลัยจะมี Student Union หรือสโมสรนิสิต ซึ่งในช่วงการเปิดภาคเรียน ส่วนใหญ่จะมีกิจกรรมปฐมนิเทศ นำเสนอชมรม จะมีชมรมนักเรียนไทย ชมรมวัฒนธรรม ให้ได้เข้าไปทำความรู้จัก การเรียนในระดับปริญญาตรี-โท เรียนคนเดียวไม่ได้ ต้องเรียนเป็นทีม 

คุณยีนส์เล่าให้ฟังว่า คอนเซปต์ในการเรียนที่ออสเตรเลียจะไม่เหมือนของไทย ของไทยจะมีอาจารย์ป้อนข้อมูลความรู้เข้ามาให้ ขณะที่ทางออสเตรเลียคุณจะต้องเตรียมความรู้มาก่อน เมื่อเข้าชั้นเรียนต้องมีองค์ความรู้พร้อมที่จะไปแชร์กับคนอื่น โดยอาจารย์จะให้แค่โครงตามหลักทฤษฎีที่ถูกต้อง หรือประสบการณ์ที่อาจารย์เคยทำงานมา สุดท้ายทำให้เกิดการพัฒนาเป็นองค์ความรู้ใหม่ 

หากให้เปรียบเทียบความแตกต่างในเรื่องการศึกษาของไทยและออสเตรเลีย คุณยีนส์มองว่า การศึกษาของไทยที่เกริ่นว่า ครูเป็นผู้ให้ นักเรียนเป็นผู้รับ เหมาะกับการปูพื้นฐานในเรื่องของการเรียนรู้ เพราะแต่ละคนมีประสบการณ์ไม่เหมือนกัน ส่วนในเรื่องของวิชาการ องค์ความรู้ คุณยีนส์มองว่าไม่ได้ต่างกันมาก แต่จะต่างกันที่วิธีคิด เพราะของต่างประเทศจะเน้นที่การให้ทุกคนเป็นจุดศูนย์กลางของการพัฒนาองค์ความรู้ การเรียนต่างประเทศจึงทำให้เรามีรูปแบบการคิดที่หลากหลายขึ้น 

คนออสเตรเลียในมุมมองของคุณยีนส์ คือ เป็นคนสบายๆ ไม่ได้มีพิธีรีตองมาก อาจารย์เฟรนด์ลี่มาก คิดอะไรพูดเลย แต่ในเรื่องของกฎเกณฑ์ การรักษาเวลา เดดไลน์การส่งงานเป๊ะ ไม่มีการต่อรอง   

บรรยากาศการเรียน หลักสูตรอบรมภาษาจีนระยะสั้น Shanghai Normal University คุณยีนส์เผยว่า เด็กไทยส่วนใหญ่ที่ไปจะติดขัดในเรื่องของภาษา ต้องไปเรียนเพิ่ม และด้วยความที่จีนต้องการเปิดรับให้นักเรียนต่างชาติเข้ามาเรียน ทำให้เรื่องของหอพัก อุปกรณ์การเรียนเตรียมพร้อมไว้อย่างดี คนจีนมีความตรงเวลา บรรยากาศการเรียนก็สบายๆ มีกิจกรรมเยอะมากสำหรับการไปเรียนภาษาที่จีน เน้นเรื่องการใช้ภาษาควบคู่กับวัฒนธรรม

สำหรับคนที่อยากไปเรียนต่อ คุณยีนส์แนะนำว่าสิ่งที่ควรทำ อันดับแรกคือต้องไปดูเรื่องของสังคม ไปดูในสิ่งที่บ้านเรายังไม่มี มีจุดไหนที่พัฒนาแล้วดีกว่าบ้านเรา เพื่อนำจุดนั้นกลับมาพัฒนาประเทศ ใช้ในการพัฒนาตัวเราและโอกาสในชีวิต หลังจากที่เรากลับมาที่เมืองไทย 

นอกจากนี้การได้เพื่อนต่างชาติก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะได้มุมมองที่กว้างขึ้น เราจะเป็นคนที่ทำงานที่ใดก็ได้ในโลกใบนี้ หากมีทัศนคติหรือไอเดียที่เปิดกว้าง และการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง 

.


.

.

.