คนที่อยู่ในความสัมพันธ์ที่ยาวนาน จะมีความเหมือนกัน มากกว่าความแตกต่างในช่วงเริ่มต้น ในการพบกันครั้งแรกพวกเขาสังเกตเห็นลักษณะของอีกฝ่ายที่พวกเขาเองก็มี ลักษณะเหล่านี้บ่งบอกว่าทั้งคู่อาจมีความสัมพันธ์ที่เข้ากันได้ในอนาคต

เคยได้ยินคำพูดที่ว่า เรามองหาคนที่แตกต่างจากเรา เพื่อมาเติมเต็มส่วนที่เราขาดหาย เขาคนนั้นจะเป็นสีสันและความแปลกใหม่ในชีวิตที่เราไม่เคยได้พบ เพื่อให้ชีวิตที่ซ้ำซากจำเจของเราไม่น่าเบื่อ เพราะหากเลือกคนที่นิสัยเหมือนกัน ก็คงอยู่กันได้ยาก แต่ความจริงแล้วสิ่งนี้อาจเป็นความเข้าใจที่ผิด

เราไปอ่านเจอบทความต่างประเทศเรื่องหนึ่งมา ซึ่งเขารวบรวมความเชื่อหรือความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับความรักเอาไว้ มีหลายข้อที่น่าสนใจ แต่วันนี้เราขอหยิบหัวข้อที่คิดว่าหลายคนน่าจะเข้าใจผิดเหมือนกันมาคุย โดยข้อที่ว่า คือ “สิ่งตรงข้ามดึงดูด” แม้คำนี้จะได้รับความนิยมและดูท่าว่าจะเป็นจริง แต่ก็มีการพิสูจน์แล้วว่าผิด

บทความกล่าวว่า โดยทั่วไปแล้วคนที่อยู่ในความสัมพันธ์ที่ยาวนานจะมีความเหมือนกัน มากกว่าความแตกต่างในช่วงเริ่มต้น ในการพบกันครั้งแรกพวกเขาสังเกตเห็นลักษณะของอีกฝ่ายที่พวกเขาเองก็มี ลักษณะเหล่านี้บ่งบอกว่าทั้งคู่อาจมีความสัมพันธ์ที่เข้ากันได้ในอนาคต นอกจากนี้ยังพบว่าคู่รักที่มีบุคลิกและค่านิยมคล้ายคลึงกันจะทำหน้าที่พ่อแม่ได้ดีกว่าคู่รักที่มีนิสัยต่างกัน

เราก็เป็นคนหนึ่งที่เคยรู้สึกว่า เราอยากหาคนที่มีนิสัยแตกต่างจากตัวเอง เพื่อมาเติมเต็มส่วนที่เราขาดหาย เป็นความท้าทายในชีวิต เช่น เราอยากได้คนที่กล้าตัดสินใจ เด็ดขาด เพราะเรารู้สึกว่าตัวเองโลเล ไม่มั่นใจ เราอยากได้คนที่พูดน้อย ชอบรับฟัง เพราะเราพูดเก่ง เราอยากได้คนที่กินง่าย เพราะเรากินยาก เวลาไปกินข้าวด้วยกัน เขาจะได้ช่วยเรากิน (ฮา) เราว่าหลายคนก็มีความคิดแบบนี้นะ การมองหาและพยายามแก้ไขสิ่งที่เราไม่มี ด้วยการสะท้อนมันจากตัวตนของอีกฝ่าย ชีวิตธรรมดาที่ดำเนินเช่นเดิมมาตลอด อาจจะมีเรื่องแปลกใหม่ที่ทำให้ตื่นเต้นและคาดไม่ถึงอยู่บ้าง

แต่ข้อมูลจากบทความที่กล่าวไปข้างต้น กลับสั่นคลอนความเข้าใจของเรา ลองมาตกตะกอนอีกที น่าคิดนะว่า หรือความเหมือนต่างหากที่จะทำให้ความสัมพันธ์ยืนระยะยาว เพราะความต่าง คือการที่เราอยากได้คนมาเติมเต็มส่วนที่ขาด ได้ความตื่นเต้น แปลกใหม่ คาดเดายาก แต่เราไม่ได้บอกว่ามันจะทำให้ความสัมพันธ์นั้นยืนยาว กลับกันถ้าเรามองหาคนที่นิสัยเหมือนกัน ชอบอะไรคล้าย ๆ กัน ทัศนคติตรงกัน คนแบบนี้หรือเปล่าที่จะทำให้เราอยู่กับเขาไปได้อย่างยาวนาน

ลองคิดภาพคนที่ต่างจากเรา เขาสามารถกินได้ทุกอย่าง แต่เราเลือกกิน วันหนึ่งเกิดทะเลาะกันเรื่องร้านอาหารขึ้นมา หรือเราชอบคนพูดน้อย เพราะเราพูดมาก เลยอยากให้เขาฟัง แต่ถ้าเขาอยากอยู่เงียบ ๆ ไม่ได้อยากฟังเราพูดล่ะ หรือถ้าชอบฟังเพลงคนละแนว นั่งรถไปจะแย่งกันเปิดเพลงไหม ถ้าอีกคนชอบออกไปเที่ยว แต่อีกคนชอบนอนอยู่บ้านล่ะ ถ้าเป็นความต่างแบบนี้ ก็ดูท่าความสัมพันธ์จะไม่ยืนยาวเท่าไหร่ ต้องปรับให้กันอีกมากโข

กลับกัน ถ้าเราเจอคนที่ชอบพูดเหมือนกัน เล่านู่นเล่านี่ที่เจอ ช่างจ้อ บทสนทนาคงไม่กร่อย หรือคนที่ชอบท่องเที่ยวเหมือนกัน วันหยุดคงพากันจัดทริปไปไหนต่อไหน คนที่กินเก่งเหมือนกัน ก็คงพากันไปตะลุยกิน คนที่เข้าใจในความเงียบของกันและกัน สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้น มากกว่าความแตกต่างที่เราเคยเข้าใจ

แต่ในท้ายที่สุดก็คงต้องย้ำเหมือนเดิมว่า มันเป็นเรื่องของคนสองคน ที่ไม่ว่าจะเหมือนกันสุดขีด หรือต่างกันสุดขั้ว ถ้าไม่มีความรักเป็นตัวนำก็คงยากที่จะไปกันรอด ส่วนเหตุผลยิบย่อยในความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ทุกคู่ต้องช่วยกันปรับ และประคับประคองกันไป หากคนสองคนรักกัน ย่อมหาวิธีที่จะไม่เสียความรักนั้นไป คงมีเส้นทางและด่านทดสอบอีกมาก ให้ช่วยกันหาทางออก ไม่มีอะไรที่ราบรื่นสมดังใจหวังทุกอย่าง เพราะความรักมันไม่เคยง่าย…


เขียนโดย เพลิน ภารวี สุภามาลา Content Editor THE STUDY TIMES

อ้างอิงข้อมูล: https://brightside.me/inspiration-relationships/6-myths-about-love-that-people-still-believe-in-444860