กระทรวงศึกษารั้งบ๊วย วิเคราะห์เบื้องหลังผลสอบณัฏฐพลบู่ คาดปมส่งภรรยาลงชิงผู้ว่ากรุงเป็นเหตุ
หากเรียงอันดับคะแนนสอบผลลงมติซักฟอก 'รัฐบาลตู่ 2' จากมากไปน้อย จะมีหน้าตาเรียงกันออกมาดังนี้...
1. รมว.สาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกุล
2. รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ
3. รมช.เกษตร ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า
4. นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา
5. รมว.มหาดไทย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา
6. รมช.มหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี
7. รมว.คมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
8. รมว.พาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
9. รมว.แรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น
และ 10. รมว. ศึกษาธิการ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
คะแนนที่ออกมา น่าจะดูจากการตอบคำถาม!!
ทำไมรมต.อนุทิน ได้คะแนนสูงสุด!!
เชื่อว่าน่าจะมาจากการตอบคำถามสวนหมัดตรงจากคำถามอันกร้าวร้าวของ ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่แทนที่จะกดหัวหมอหนูให้อยู่หมัด กลายเป็นเข้าทาง รมว.สาธารณสุข เต็มๆ ขณะเดียวกันก็มีแรงเสริมจากการช่วยตอบของทีมแพทย์กระทรวงสาธารณสุขที่ต้องบอกว่าข้อมูลแน่นเอี้ยด ดังนั้น รมว.สาธารณสุขสมควรได้คะแนนสูงสุด จึงถูกต้องแล้ว
ส่วนคนที่ตอบคำถามชัดเจนภาษาชาวบ้านได้ดีอีกคน จนทำให้บรรดาชาวบ้านและสื่อมวลชนที่ฟังอยู่เข้าใจง่ายและเคลียร์ คือ รมช.มหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี ในเรื่องมีผลประโยชน์รู้ข้อมูลซื้อขายที่ดินในการจัดตั้งนิคมภาคใต้ ที่อ.จะนะ จ.สงขลา ทำให้ผลจากการอภิปรายของ ส.ส.พรรคก้าวไกล เป็นรองไปในบัดดล
ส่วน รมว.คมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยที่โดน ส.ส.พรรคแดงและพรรคส้ม รุมกระหน่ำเรื่องความไม่ชอบมาพากล ในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ระดับวงเงินสูงกว่าหนึ่งแสนล้านบาทนั้น แม้จะตอบคำถามไม่เคลียร์ทั้งหมด แต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดได้ในที่สุด ถึงคะแนนจะห่างจากหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไปหลายคะแนน ก็เป่าปากสุดปอด
ส่วน รมว.กระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น ที่ตอบคำถามได้เคลียร์ แต่ด้วยสถานการณ์ที่มีแรงงานตกงานเพราะพิษโควิด รวมทั้งการแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ ที่เกิดจากแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เลยได้คะแนนน้อยไปนิด
ส่วนที่น่าแปลกใจหน่อย คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 'ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ' ที่อาการไม่ค่อยดี จากผลคะแนนน้อยที่สุดได้อันดับที่ 10 ทั้งที่ตอบกระทู้ดีมากและเคลียร์ น่าจะมาจากการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีส.ส.ในมือน้อยที่สุด โดยแว่วมาว่า ส.ส.กทม. ในมือที่มี 12 คน ตอนนี้เหลือแค่ 6 คน จากการที่หลายคนได้ออกไปตั้งกลุ่มเอง หรือ 'กลุ่มดาวฤกษ์' แต่เชื่อว่ากลุ่มนี้คงยกมือให้นายเก่าโดยพร้อมเพรียงกัน
ทว่าน่าจะมีกลุ่ม ส.ส.ภายในพรรคที่น่าจะยกมือสวนทาง ซึ่งอาจจะสืบเนื่องจากปมภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่หัวหน้าพรรค พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ สนับสนุนพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงสู้ในสนามแย่งผู้ว่าเมืองหลวง แต่ ณัฏฐพล ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรค ก็ไม่ถอย และแว่วว่าผลักดันภรรยาตัวเองนางทยา ทีปสุวรรณ ที่เป็นอดีตรองผู้ว่ากทม. และแกนนำ กปปส. แข่งกับ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ เช่นกัน เพราะถือว่าพรรคมีมติไม่ส่งผู้ว่า กทม. ดังนั้นใครๆ ก็ส่งได้สิ
ฉะนั้นคะแนนสอบของ ณัฏฐพล ได้น้อยที่สุดน่าจะเกี่ยวข้องทางตรง หรือทางอ้อมกับการส่งภรรยาลงผู้ว่ากทม. ซึ่งมีผลของการตัดคะแนนกันเอง ในฐานเสียงที่สนับสนุนรัฐบาลลุงตู่
แต่มาดูคะแนนฟาก ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ได้ข่าวว่ามีส่วนในการสนับสนุนพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา มีคะแนนห่างอย่างมีนัยยะกับ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นี่คือวัดพลังกันในการแย่งชิงแคนดิเดตในนามพรรคพลังประชารัฐหรืออิสระ หรือไม่น่าติดตามจริงๆ
แต่ที่เห็นในการลงมติครั้งนี้ รัฐมนตรีศึกษาฯ ณัฏฐพล ดูจะเสียรังวัดไปพอสมควร ในการประลองในสนามแรก