สพฐ.ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นระยะ เบื้องต้น ยังคงยืนยันการสอบรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตามปฏิทินเดิม รับสมัคร 24 - 28 เม.ย. สอบ 1 - 2 พ.ค.

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า การสอบรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2564 นั้น สพฐ.ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นระยะ เบื้องต้น ยังคงยืนยันตามปฏิทินเดิม

คือ มัธยมศึกษาปีที่ 1 รับสมัครระหว่างวันที่ 24 - 28 เมษายน สอบคัดเลือกวันที่ 1 พฤษภาคม ประกาศผลวันที่ 5 พฤษภาคม มอบตัววันที่ 8 พฤษภาคม มัธยมศึกษาปีที่ 4 รับสมัครระหว่างวันที่ 24 - 28 เมษายน สอบคัดเลือกวันที่ 2 พฤษภาคม ประกาศผลวันที่ 6 พฤษภาคม มอบตัววันที่ 9 พฤษภาคม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กทม. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภูมิภาค ม.4 รับสมัครวันที่ 20 - 24 กุมภาพันธ์ สอบคัดเลือก 6 มีนาคม ประกาศผล 15 มีนาคม มอบตัววันที่ 18 มีนาคม ยกเว้นว่า จะมีเหตุการณ์ฉุกเฉินค่อยมาพิจารณาแก้ปัญหา

“ขณะนี้กำหนดการจัดสอบรับเด็กเพื่อเข้าเรียนม.1 และม.4 ยังเป็นไปตามปฏิทินเดิม แต่หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาต่อไป แต่เท่าที่ดูขณะนี้คิดว่า ไม่น่าจะมีปัญหา โดยผมได้ย้ำให้เตรียมการจัดสอบ ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อาทิ มีการเว้นระยะห่าง ตรวจวัดอุณหภูมิ เตรียมเจลล้างมือแอลกอฮอล์ไว้ในห้องสอบ และสถานที่โดยรอบ เพื่อให้เด็กที่เข้าสอบได้ใช้ในการทำความสะอาดอย่างถูกต้อง ” นายอัมพร กล่าว

นายอัมพร กล่าวต่อว่า "ส่วนโรงเรียนที่ใช้คะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติหรือโอเน็ต เป็นองค์ประกอบในการเข้าเรียนต่อชั้น ม.1 และ ม.4 นั้น ก็ยกเลิกเช่นกัน โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ออกประกาศเรื่อง นโยบายการใช้ผลสอบโอเน็ต เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน ของผู้ที่จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ตามนโยบายของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการศธ. ที่ให้ยกเลิกการทดสอบโอเน็ตชั้น ป.6 และม.3 แต่ให้ถือเป็นสิทธิโดยส่วนตัวที่จะเข้าสอบโดยความสมัครใจ"

"อย่างไรก็ตาม อนาคตจำนวนนักเรียนต่อห้องต้องลดลง เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 อย่างต่อเนื่องหรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่า จำนวนต่อห้องซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ไม่เกิน 40 คน ต่อห้องนั้น เป็นไปตามหลักวิชาการ ดังนั้นจึงอาจยังไม่จำเป็นต้องมีการปรับ แต่หากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทางโรงเรียนก็ต้องปรับตัว จัดการเรียนการสอน ตามมาตรการป้องกันของสธ. อย่างเคร่งครัด"


ที่มา: https://www.matichon.co.th/education/news_2584606