ทำไมวันตรุษจีน ต้องจุดประทัด!!
สำหรับ ‘วันตรุษจีน’ ถือเป็น ‘วันขึ้นปีใหม่’ ตามปฏิทินจีน ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คล้าย ๆ กับวันสงกรานต์ของบ้านเรา
โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน จะหยุดงาน หยุดเรียนเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ เพื่อให้ผู้คนได้เดินทางกลับไปร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขกับครอบครัว
แน่นอนว่าพอเข้าเทศกาลตรุษจีนทีไร สิ่งที่เรามักเห็น คือ การประดับตกแต่งหน้าบ้าน หรือหน้าร้านด้วยโคมไฟสีแดง ที่ชาวจีนนั้นเชื่อว่าเป็นสีนำโชค
นอกจากนี้ ยังมีการไหว้บรรพบุรุษ และหลังจากไหว้บรรพบุรุษ ก็จะมีการ ‘จุดประทัด’ ตามกันมาแทบทุกครอบครัว
...ว่าแต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า? ทำไมถึงต้องจุดประทัดในเทศกาลตรุษจีน
มีตำนานเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับวันตรุษจีน ที่เป็นความเชื่อแบบเชื่อมโยงไปสู่การ ‘จุดประทัด’ ซึ่งเกี่ยวพันกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ปีศาจเหนียน’
...ปีศาจเหนียน ปีศาจร้ายในตำนานวันตรุษจีน
หากเอ่ยถึงสัตว์ในตำนานของชาวจีน หลายคนก็มักจะนึกถึงแต่ ‘มังกร’ ที่เปรียบเสมือนสัตว์เทพที่เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง
แต่ถ้าใครได้มีโอกาสไปเที่ยววัดเชื้อจีน อาจเคยเห็นรูปปั้นของสัตว์ประหลาดสี่เท้า ที่หัวมีลักษณะคล้ายมังกร ลำตัวใหญ่เป็นสองเท่าของสิงโต และมีเขี้ยวแหลมคม
นั่นแหละที่เขาเรียกว่า ‘ปีศาจเหนียน’
ปีศาจเหนียน เป็นสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่งในสมัยโบราณ มักออกอาละวาดกินคน และสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ สวรรค์จึงได้สั่งลงโทษ ด้วยการสาปให้ปีศาจเหนียนกลายเป็นหิน
...แต่ในทุก ๆ 1 ปีคำสาปจะคลายลงในวันสิ้นปีของจีน หรือก็คือวันก่อนวันตรุษจีน 1 วัน ซึ่งตรงกับความเชื่อของชาวจีนที่ว่าเป็นวันที่ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์
ดังนั้น เมื่อถึงวันสิ้นปีของทุกปี ผู้คนต่างอพยพเข้าไปหลบซ่อนในหุบเขาลึก เพื่อไม่ให้ปีศาจเหนียนมาทำร้าย
แล้ว ‘ปีศาจเหนียน’ ไปเกี่ยวอะไรกับ ‘การจุดประทัด’
ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้ว่า ก่อนวันตรุษจีน 1 วัน ปีศาจเหนียนจะหลุดพ้นจากคำสาปและลงมาอาละวาดทำร้ายผู้คน
ทว่าก็ได้มีผู้ที่ค้นพบจุดอ่อนของปีศาจเหนียน นั่นคือ สีแดงฉูดฉาด, แสงไฟ และเสียงดังเปรี้ยงปร้าง ทำให้ผู้คนสามารถคิดหาวิธีกำจัดปีศาจเหนียนได้โดยไม่ยากนัก
พอวันตรุษจีนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างนำกระดาษสีแดงมาติดไว้บนประตูหน้าบ้าน หรือแขวนโคมไฟสีแดง พร้อมกับ ‘จุดประทัด’ และตีฆ้องรัวกลองอย่างต่อเนื่อง
เมื่อปีศาจมาถึงหมู่บ้าน เห็นแสงไฟสว่างไสว มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าป่าไป ไม่กล้าออกมาอาละวาดอีกเลย
นี่เป็นอีกเรื่องเล่า คำกล่าวขาย และตำนานที่ชาวจีนต่างเชื่อกันมา และทำให้การจุดประทัดในเทศกาลตรุษจีนกลายเป็นความเชื่อที่ทำตามกันมา จนกลายเป็นประเพณีนิยมจนปัจจุบัน