รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลั่นจัดการม็อบประท้วงเมียนมาไม่ใส่แมส ฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโควิด-19 ย้ำปัญหาบ้านโน้น อย่าเอามายุ่งบ้านนี้ ส่วนปมได้วัคซีนโควิดช้า เพราะไม่อยากให้คนไทยเป็นหนูทดลอง ต้องได้ของที่ผ่านมาตรฐานเท่านั้น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณี มีการรัฐประหารในประเทศเมียนมาร์ประเทศไทยต้องเฝ้าระวังตามแนวชายแดนหรือไม่ว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ ที่มีพื้นที่ติดชายแดนไทย และเมียนมาเฝ้าระวังเกี่ยวกับการลักลอบเข้ามาอย่างเต็มที่โดยจะให้ความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคง

เมื่อถามว่าปัจจุบันมีการชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมาร์ประจำประเทศไทยกังวลจะมีการแพร่ระบาดโรคโควิด -19 ได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมสถานการณ์อย่างเต็มที่เพราะความกังวลเกี่ยวกับแพร่ระบาดโควิด -19 มีทุกวัน จึงต้องดูถ้ามีการชุมนุมแล้วไม่ใส่หน้ากากอนามัยก็ต้องจัดการ ปัญหาบ้านโน้น จะมายุ่งอะไรกับบ้านนี้"

นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังได้กล่าวถึงการจัดหาวัคซีนกำหนดการส่งมอบยังเป็นเช่นเดิมหรือไม่ ว่า "เราพยายามอย่างเต็มที่แต่คำว่าคงเดิมนั้นคือเดือนมิ.ย. จะพยายามอย่างเต็มที่ ให้ได้เร็วที่สุด ถ้ามาก่อนเดือนมิ.ย.คือความพยายาม อย่าเอาประเทศไทย ไปเทียบกับประเทศอื่น"

"คนที่ชอบพูดว่าประเทศอื่นได้รับแล้วต้องไปดูรายละเอียดของแต่ละประเทศ เพราะบางประเทศได้รับในฐานะที่ยอมให้ประชาชนของเขาได้รับการทดลองวิจัยวัคซีน ไม่ใช่เป็นผู้ซื้อ และเขามีผู้ป่วยเพียงพอในการทดลอง ซึ่งประเทศไทยมีผู้ป่วยไม่พอ และไม่เคยอยู่ในหัวของรมว.สาธารณสุขคนนี้ ที่จะเอาคนไทยมาเป็นผู้ที่จะถูกการทดลอง เราไม่ได้อยู่ในสภาพนั้น เพราะประเทศไทยควบคุมได้ ลองนึกสภาพดูว่าหากฉีดแล้วเหมือนในยุโรป และ สหรัฐอเมริกา ที่เมื่อฉีดแล้ว ปากเบี้ยว กล้ามเนื้ออ่อนแรง ใครจะเป็นผู้อธิบาย เมื่อเรามีเวลาและโอกาสเลือกสิ่งที่ปลอดภัย ทำไมจะไม่ทำ"

ส่วนจังหวัดสมุทรสาครที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงอยู่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า "เป็นเพราะการตรวจเชิงรุก คนป่วยก็แยกออกมารักษาและควบคุมอย่างดี ไม่ใช่กระจายไปทุกจังหวัด และดีที่สังคมช่วยกันดูแล พวกจัดปาร์ตี้ก็น้อยลง ใครที่ทำอยู่ก็ไม่มีใครออกมาสรรเสริญและตรงกันข้ามเป็นสิ่งที่ทำความเสื่อมเสียให้กับตัวเอง รัฐบาลก็พยายามผ่อนปรนมาตรการให้มากที่สุดที่จะทำได้"

ขณะที่การแพร่ระบาดจากเหตุโต๊ะแชร์ที่จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งถือว่าเป็นคลัสเตอร์ใหม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "อย่างที่บอกเวลาเหล้าเข้าปาก ก็เป็นเช่นนี้ บางจังหวัดไม่ได้ห้ามดื่มเหล้า แต่ต้องเว้นระยะห่าง บางคนบอกว่าถ้ากินเหล้าแล้วใครจะมีระยะห่างได้ ก็อย่ากิน ส่วนการดำเนินคดีผู้ปกปิดข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคนั้นนายอนุทิน กล่าวว่า ก็ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่กทม.ได้ไปแจ้งความไปแล้ว"

"ส่วนทางโรงแรมที่ถูกฟ้องก็ส่งข้อมูลยืนยันว่าไม่มีการเสิร์ฟแอลกอฮอล์ แต่มีการเสิร์ฟน้ำแอปเปิล น้ำส้มคั้น น้ำบ๊วย ทุกอย่างสั่งปิดก่อนเวลา 3 ทุ่ม ก็ต้องไปดูว่าผิดหรือไม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจ ถ้าเป็นตามนั้นก็ให้สังคม ประชาชนตัดสิน ถ้าจะปาร์ตี้จริง ๆ จะกินน้ำส้มคั้น น้ำแอปเปิล น้ำบ๊วย ก็กินกันไป อย่ากินเหล้าก็แล้วกัน" รองนายกฯ กล่าว