'กล้า'​ มองไทยให้รอบด้าน กับ 'กรณ์​ จาติกวณิช'​ | The States Times Click on Clear EP.3

คุณกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จากนักการเงินสู่บทบาทนักการเมืองเข้าปีที่ 16 เริ่มต้นด้วยการเปิดบริษัทหลักทรัพย์ของตัวเองในวัย 24 ปี นำเอาประสบการณ์ที่มีมาสร้างธุรกิจของตัวเอง จนกระทั่งเดินเข้าสู่เส้นทางสายการเมือง 

.

.

รายการ : 'กล้า'​ มองไทยให้รอบด้าน กับ 'กรณ์​ จาติกวณิช'​ | The States Times Click on Clear EP.3

.

จากซีรีย์ Start-Up สู่มุมมอง Sand Box ในประเทศไทย

ด้วยความที่ชื่นชอบซีรีย์เรื่อง Start-Up เป็นการส่วนตัวและบทบาทนักการเงินมือฉมัง คุณกรณ์จึงเปิดเรื่องด้วยการนำความรู้และข้อคิดจากในเรื่องมาอธิบายเชื่อมโยงถึงประเด็นทางธุรกิจ Start-up ในประเทศไทย โดยคุณกรณ์อธิบายว่า ประเทศไทยมีกฎหมายและระเบียบมากมาย ในอดีตอาจออกกฎหมายมาเพื่อลดความกังวลในยุคที่ยังกลัวคอมมิวนิสต์ แต่มาถึงตอนนี้วันเวลาและบริบทในสังคมเปลี่ยนไปมาก แต่กฎหมายบางตัวกลับไม่เปลี่ยน เป็นเหตุให้ธุรกิจ Start-Up ในหลายกรณีเกิดไม่ได้ เพราะติดขัดในเรื่องระเบียบและกฎเกณฑ์ จึงคิดว่ารัฐควรมี Sand Box หมายถึง พื้นที่ปลอดภัยให้กลับคนเริ่มต้นทำธุรกิจ โดยไม่ต้องกังวลกฎหมายหรือระเบียบราชการ เพื่อเรียนรู้การทำธุรกิจที่ล้มแล้วไม่เจ็บ  แล้วค่อยนำเอาประสบการณ์หรือข้อมูลที่มีนั้นไปปรับกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง  

อีกปัญหาที่มองเห็นคือ ณ ปัจจุบัน ข้อมูลของภาครัฐนั้นมีเยอะ แต่กลับกระจัดกระจาย สิ่งที่สำคัญที่จะมีธุรกิจเชิงนวัตกรรม ดิจิตอลเทคโนโลยี รัฐต้องทำให้ข้อมูลของรัฐเอง ไปสู่ในระบบ Digital มากขึ้น  เปิดให้ภาคเอกชน ประชาชนสามารถนำข้อมูลนั้นไปใช้ได้ ซึ่งคุณกรณ์มองว่า "เป็นภารกิจสำคัญที่สุดของรัฐบาล"

บทบาทพรรคกล้า 

เมื่อพูดถึงพรรคกล้า พรรคใหม่ไฟแรงที่กำลังเข้ามามีบทบาททางการเมืองของประเทศ  คุณกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคให้นิยามความเป็นพรรคกล้าไว้ว่า พรรคกล้าเป็นแพลตฟอร์มที่จะไปสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สร้างความเปลี่ยนแปลงในแง่ของแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม แพลตฟอร์มสำหรับคนที่มีใจอยากจะแก้ปัญหา โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการพึ่งพานักการเมืองอาชีพเยอะเกินไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีข้อจำกัด แต่วันนี้ถึงเวลาที่จะหาคนที่มีประสบการณ์โดยตรงในแต่ละเรื่องเข้ามาเปลี่ยนแปลง เนื่องจากหลายๆ อย่างเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยังแก้ไม่ตก เพราะยังผูกติดกับความคิดแบบเดิม แก้ปัญหาแบบเดิม ด้วยคนเดิม ๆ ไม่มองปัญหาในข้อเท็จจริง แต่กลับไปมองในเชิงอุดมคติ การมองปัญหาในเชิงอุดมคติทำให้แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง 

เปิดนโยบายพรรคกล้า

เปิดนโยบายพรรคกล้า 5 ภารกิจ ได้แก่ เศรษฐกิจ การเกษตร การศึกษา คุณภาพชีวิต เศรษฐกิจสร้างสรรค์ คุณกรณ์เล่าว่า การขับเคลื่อนทุกภารกิจมีปัญหาเหมือนกัน คือ ระบบราชการที่ล้าหลัง เพราะฉะนั้นต้องเน้นถึงภารกิจสำคัญ คือทำอย่างไรให้การบริหารราชการมีความทันสมัย มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ คำตอบก็คือ e-Government ทำให้ทุกอย่างโปร่งใสด้วยการใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะในส่วนของภาครัฐ

ในส่วนของภารกิจที่เรียกว่า เศรษฐกิจคนตัวเล็ก สาเหตุคือ ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยเอื้อกับทุนใหญ่มากกว่า ขีดความสามารถของผู้ประกอบการขนาดใหญ่เทียบกับผู้ประกอบการขนาดเล็กมีช่องว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ติดกับดักการพัฒนาในแง่ของประเทศโดยรวม จึงต้องมีการส่งเสริมการใช้นวัตกรรม ให้ตอบโจทย์คนตัวเล็กมากขึ้น 

ด้านการเกษตร พรรคกล้าเชื่อในอนาคตของการเกษตร ทุกครั้งที่มีการลงพื้นที่จะขอพบกลุ่ม Young Smart Farmer เสมอ เพราะพรรคมองว่านี่คืออนาคตการเกษตรของไทย ความต่างของเกษตรกรรุ่นใหม่คือเวลาคิดแผนจะคิดครบไปถึงแผนการตลาด ขณะที่เกษตรกรทั่วไปจะเน้นเรื่องของการผลิต ไม่มีแผนการเข้าถึงตลาดด้วยตัวเอง ทำให้ขาดอำนาจต่อรอง 

ระบบการศึกษา เทคโนโลยีเป็นตัวบ่งบอกว่าระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันอาจไม่ใช่คำตอบในการพัฒนาการศึกษา บทบาทของครูคนหนึ่งไม่มีทางที่จะมีข้อมูลเทียบเท่ากับข้อมูลที่มีอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ตที่นักเรียน นักศึกษาสามารถหาความรู้ได้เอง ดังนั้นจึงต้องมีการสลับสับเปลี่ยนบทบาท นักเรียนควรได้รับมอบหมายไปหาข้อมูลด้วยตนเอง แต่ครูยังมีบทบาทสำคัญในการเป็นโค้ช ด้วยการให้ประสบการณ์ที่ครูมีซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กไม่มี ที่สำคัญเรียนไปแล้วต้องมีอาชีพ สร้างเนื้อสร้างตัว สร้างโอกาส เป็นเรื่องของกระจายอำนาจออกไปจากกระทรวงศึกษาธิการ 

ส่วนในเรื่องคุณภาพชีวิต คุณกรณ์มองว่าเป็นเรื่องของผังเมืองยังเป็นปัญหาที่อาจนำมาซึ่งความเสียหาย และการจัดการ PM2.5 ที่ไม่ได้มาตรฐาน

และสุดท้าย เศรษฐกิจสร้างสรรค์ คุณกรณ์ยกตัวอย่างจากวิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 โดยอธิบายว่า วิกฤติครั้งนี้เกาหลีและไทยโดนหนักที่สุด ทุกประเทศมีการปรับตัวแตกต่างกัน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เกาหลีใช้การปฏิรูปกฎหมาย ตัดลดกฎหมายที่ล้าสมัยออก ปลดแอกภาคเอกชน ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ การที่เกาหลีมาถึงจุดนี้ได้จึงไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เกิดจากยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนของประเทศ และรัฐบาลมีส่วนสำคัญในการส่งเสริม เชื่อว่าของไทยมีของสะสมไว้เยอะมากไม่ต่างกัน เพียงแต่ยังไม่มีการส่งเสริม หากรัฐไม่ลดอำนาจตัวเองลงจากกฎหมายและระเบียบราชการที่มี ปรับวิธีการทำงานและทัศนคติ ก็เป็นเรื่องยากที่เอกชนจะเกิดได้ เพราะฉะนั้นการจะประสบความสำเร็จได้ต้องมีความสร้างสรรค์ มีนวัตกรรม ต้องแข่งกันยกระดับคุณภาพสินค้า ไม่ใช่แข่งกันเข้าถึงผู้มีอำนาจอย่างทุกวันนี้

เปรียบเทียบ วิกฤติ Covid-19 vs วิกฤติ Hamburger 

อดีตรมว.คลังโลก ผู้ที่เคยพาประเทศผ่านวิกฤติ Hamburger กล่าวว่า หากให้เปรียบเทียบที่ผ่านมาวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 40  หนักที่สุด เป็นเหตุการณ์ถังแตกของจริง ประเทศเจ๊งเอง ส่วน Hamburger ตนมองว่ายังไม่เท่าไหร่ เพียงแต่ได้รับผลกระทบเพราะการทำการค้าระหว่างประเทศ เมื่อกำลังซื้อคู่ค้าไม่มี จึงทำให้ไทยได้รับผลกระทบไปด้วย ส่วนโควิด เป็นวิกฤติที่ค่อย ๆ ซึม เกิดขึ้นกับทุกประเทศพร้อมกันทั่วโลก ทุกอย่างหยุดชะงักพร้อมกัน เหลือที่พึ่งเดียวคือรัฐบาล ความโชคดีคือฐานะทางการคลังของประเทศยังดีมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ รัฐบาลจึงสามารถกู้ยืมมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือมาเยียวยาประชาชน   

ทางออกของวิกฤติโควิด-19 และเงินกู้ 6 แสนล้าน 

อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า วิกฤติโควิดรอบสองต่างกับรอบแรก ในทางลบคนอยู่ในสภาพเศรษฐกิจที่เดือดร้อนมากกว่ารอบแรก เพราะอดทนมา 1 ปี เงินในกระเป๋าลดลง ในทางบวกเราเห็นจุดจบ คือวันที่คนไทยได้รับวัคซีนครบ แต่ถึงอย่างไรรัฐปฏิเสธความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้ ต้องมีการเยียวยา เพราะเป็นเรื่องที่จำเป็น ต้องมีการส่งสัญญาณให้ชัดเพื่อลดภาระความเดือดร้อน ประเมินแล้วว่ามีเงินส่วนเหลือจาก พ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท อย่างน้อย 6 แสนล้านที่ยังไม่ได้ใช้ 

โดยกลุ่มเดือดร้อนที่ควรมีมาตรการช่วยเหลือทันที ได้แก่ กลุ่มแรก คือกลุ่มที่เปราะบางที่สุด ขึ้นทะเบียน 20 กว่าล้านคนในรอบที่แล้ว ให้เงินไป 5,000 บาท 3 เดือน วันนี้ก็ควรจะช่วยต่อไป กลุ่มต่อมาคือ กลุ่มลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง สมาชิกกองทุนประกันสังคม ได้รับการเยียวยาผ่านกองทุนประกันสังคม เศรษฐกิจแบบนี้คาดว่ายังไม่สามารถหางานใหม่ได้ จะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร สามารถใช้เงินฉุกเฉินยิงตรงให้ได้ กลุ่มที่สาม คือ ผู้ประกอบการทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งรัฐบาล ร้านอาหาร โรงแรม อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ห้องเช่า ร้านค้าต่าง ๆ ควรออกมาตรการเยียวยาช่วยในระยะเวลาที่จำกัดได้ ต่อมาคือ ผู้ค้าที่ได้รับผลจากโครงการคนละครึ่ง จะเติมส่วนนี้ให้เต็มเหมือนเดิมได้อย่างไร และสุดท้ายกลุ่มฟรีแลนซ์ เนื่องจากทำงานได้ยากขึ้น ไม่อยากให้ถูกมองข้าม ทั้งนี้ตนและพรรคพยายามทำหน้าที่ในการนำเสนอให้รัฐบาลได้รับรู้เพื่อออกมาตรการที่เหมาะสม 

ความคาดหวังทางการเมืองของพรรคกล้า

ทิ้งท้ายประเด็นความคาดหวังทางการเมือง โดยคุณกรณ์คาดหวังว่าพรรคกล้าจะมีโอกาสเข้ามาทำในเรื่องที่จะทำให้ประเทศดีขึ้น ให้ประชาชนมีความรู้สึกว่ามีโอกาสมากขึ้น แต่หากการเมืองไม่เปลี่ยนก็เป็นเรื่องยากที่จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ การเมืองจะเปลี่ยนได้ คนที่มาทำการเมืองต้องเปลี่ยน พรรคกล้าจึงใช้เวลารวมตัวคนที่อาจไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง แต่มีความรู้ ความสามารถในการที่จะสร้างโอกาสให้กับคนไทยในอนาคต หน้าที่ของพรรคกล้าคือขายคนเหล่านี้ให้กับประชาชน 

ความคาดหวังทางการเมืองของพรรคกล้า

ทิ้งท้ายประเด็นความคาดหวังทางการเมือง โดยคุณกรณ์คาดหวังว่าพรรคกล้าจะมีโอกาสเข้ามาทำในเรื่องที่จะทำให้ประเทศดีขึ้น ให้ประชาชนมีความรู้สึกว่ามีโอกาสมากขึ้น แต่หากการเมืองไม่เปลี่ยนก็เป็นเรื่องยากที่จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ การเมืองจะเปลี่ยนได้ คนที่มาทำการเมืองต้องเปลี่ยน พรรคกล้าจึงใช้เวลารวมตัวคนที่อาจไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง แต่มีความรู้ ความสามารถในการที่จะสร้างโอกาสให้กับคนไทยในอนาคต หน้าที่ของพรรคกล้าคือขายคนเหล่านี้ให้กับประชาชน