นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ประกาศล็อกดาวน์อังกฤษและสก็อตแลนด์ทั่วประเทศรอบใหม่ หลังโควิด-19 กลายพันธุ์ ดันยอดติดเชื้อพุ่ง
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบใหม่แล้ว เพื่อควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นและกำลังคุกคามระบบสาธารณสุขของอังกฤษอย่างรุนแรงในขณะนี้ โดยคำสั่งดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้ในทันที
นายจอห์นสัน ได้ออกแถลงการณ์ ถ่ายทอดสดทั่วประเทศในวันจันทร์ (4 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า ขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และจะออกนอกบ้านได้ก็ต่อเมื่อต้องซื้ออาหารและของใช้ที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่งต้องปิดทำการ นอกจากนี้ ร้านค้าที่ไม่จำเป็น และธุรกิจบริการที่พักอาศัยจะต้องปิดทำการเช่นกัน
ทั้งนี้ คาดว่ารัฐบาลอาจจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงครึ่งหลังของเดือนก.พ. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คาดหวังว่าผู้ที่อยู่ในบ้านพักคนชราทุกคน, ประชากรที่มีอายุเกิน 70 ปี และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าด้านสาธารณสุข จะได้รับการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด
อย่างไรก็ดี นายจอห์นสันยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับช่วงเวลาในการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และเรียกร้องให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎข้อบังคับอย่างเข้มงวด
ไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว จนทำให้จำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 27,000 รายในอังกฤษ ซึ่งสูงกว่าในช่วงแรกเริ่มของการแพร่ระบาดในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ล่าสุดนับจนถึงวันจันทร์ อังกฤษมีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น 58,784 ราย เเละเป็นวันที่เจ็ดติดต่อกันที่พบผู้ติดเชื้อใหม่เกิน 50,000 คน ที่ผ่านมาอังกฤษพบผู้ติดเชื้อเเล้วกว่า 2.6 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมดมากกว่า 75,000 คนตามรายงานของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์
ทั้งนี้ การประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่อังกฤษประเดิมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าและมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดเป็นประเทศแรกเมื่อวานนี้