Friday, 26 April 2024
WEEKEND NEWS

'อลงกรณ์-อรรถพร' ลุยเพชรบุรีแก้ปัญหาประชาชนนำทีมชลประทานพัฒนาคลองรับมือน้ำท่วม

(9​ ต.ค.64) นายอลงกรณ์  พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ​ ร่วมด้วยนายอรรถพร  พลบุตร คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตร.และดร.ชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 14  พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้านนำเครื่องจักรกลหนัก รถขุดแขนยาว 4 คันของกรมชลประทานขุดลอกคลองสาย​ 'ดี.25'​ ช่วงตำบลบางแก้วถึงตำบลช่องสะแกในพื้นที่อำเภอบ้านแหลมและอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรีโดยลอกคลองกำจัดผักตบชวาเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากฤดูฝนนี้และเป็นคลองส่งน้ำ-กักเก็บน้ำยามฤดูแล้ง

นอกจากนี้ยังได้รับงบสนับสนุนเพิ่มเติมในการพัฒนาคลอง ดี.9​ สามารถระบายน้ำในกรณีน้ำท่วมได้ถึง​ 100​ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

'เฉลิมชัย' นำทีมลงพื้นที่ อำนาจเจริญ ติดตามการพัฒนาแหล่งน้ำ ตั้งเป้าเพิ่มน้ำต้นทุน 35 ล้าน ลบ.ม. ครอบคุมการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรเพิ่มกว่า 4,000 ไร่

(9 ต.ค.​ 64)​ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามงานตามนโยบายสำคัญในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ 

โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายว่าจากการติดตามการบริหารจัดการน้ำจังหวัดอำนาจเจริญ และแผนโครงการปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำของจังหวัดอำนาจเจริญ ณ อ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน (บริเวณสวนพุทธอุทยาน อำนาจเจริญ) ตำบลบุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ตนได้รับรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ที่มีอ่างเก็บน้ำ 5 แห่ง (อ่างฯพุทธอุทยาน, อ่างฯห้วยโพธิ์, อ่างฯร่องน้ำซับ, อ่างฯห้วยสีโท และเขื่อนลำเซบาย) มีความจุอ่างรวมกันประมาณ 49.98 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมกัน 49 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 99% ของความจุอ่างรวมกัน จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำต้นทุนดังกล่าวไม่เพียงพอต่อภาคการเกษตร และมีพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทานเพียง 35,491 ไร่ ส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทานจะไม่สามารถทำการเกษตรได้ในช่วงฤดูแล้ง และเมื่อถึงช่วงฤดูน้ำหลากจะเกิดท่วมซ้ำซากในเขตอำเภอหัวตะพานและอำเภอเมืองริมฝั่งลำเซบาย และลำห้วยปลาแดก

ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทานได้วางแผนดำเนินโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน – อ่างเก็บน้ำห้วยโพธิ์ ประกอบด้วย งานปรับปรุงอ่างฯ พุทธอุทยาน ด้วยการขุดลอกอ่างฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำได้มากขึ้น 3.2 ล้าน ลบ.ม. งานปรับปรุงฝายพับได้ช่วยเพิ่มความจุได้อีก 2.6 ล้าน ลบ.ม. และอาคารประกอบ 26 แห่ง ในส่วนของงานปรับปรุงอ่างฯ ห้วยโพธิ์ จะขุดลอกอ่างฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำมากขึ้นอีก 1.3 ล้าน ลบ.ม. งานปรับปรุงฝายพับจะช่วยเพิ่มความจุได้อีก 1 ล้าน ลบ.ม. และอาคารประกอบ 9 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีแผนดำเนินโครงการคลองผันน้ำพุทธ-โพธิ์ ความยาว 3,100 เมตร หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะทำให้มีน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ชลประทานเพิ่มขึ้นอีก 4,000 ไร่ และยังช่วยเพิ่มศักยภาพผลผลิตทางการเกษตรอีกด้วย

“ผมได้สั่งการให้กรมพัฒนาที่ดิน ขุดสระเก็บน้ำเพิ่มเติมในพื้นที่ โดยในปีนี้จะเร่งรัดอนุมัติงบประมาณให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่เตรียมการไว้ ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อพัฒนาพื้นที่รับน้ำของอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยานของกรมชลประทาน ไปด้วยกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่” นายเฉลิมชัย กล่าว

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการ กองทัพไทย ลงพื้นที่อยุธยา ติดตามสถานการณ์​ พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน

อยุธยา - ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการ กองทัพไทย ลงพื้นที่อยุธยา ติดตามสถานการณ์พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน

(3 ต.ค.64)​ พลเอก จีรัชญ์ บุญชญา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการ กองทัพไทย พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่บริเวณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าโรงงานซ่อมยาง กองโรงงานซ่อมสร้างรถยนต์ทหารกรมสรรพาวุธทหารบก อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธนากร ตันติกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา พันเอก(พ)เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดต.สุรินทร์ ผดุงเพียร รองนายกเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ พร้อมนำคณะลงเรือติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและแนวป้องกันโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม พระตำหนักสิริยาลัย วัดกษัตราธิราชวรวิหาร จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบอุทัยพร้อมมอบถุงยังชีพ ข้าวกล่องให้กับประชาชนใน ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามพร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงาน

กระบี่-ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามพร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงาน 

(3 ต.ค.64) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และส่วนเกี่ยวข้องประจำโรงพยาบาลสนามโกเมน โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลสนามให้การต้อนรับ และนำชมการทำงานต่างๆ ภายในโรงพยาบาลสนาม 

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เดินทางไปโรงพยาบาลสนามพลบดี โดยได้ตรวจเยี่ยม ติดตามการปฏิบัติงาน พูดคุย และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้เสียสละ ร่วมแรงร่วมใจในปฏิบัติการครั้งนี้

ตม.ร่วม ภ.4 รวบ ฝรั่งเมายาบ้า ข่มขืนสาวร้านนวดแผนไทย ใน จ.ขอนแก่น

(2 ต.ค.64) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงการจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ข่มขืนพนักงานร้านนวดแผนไทย ในจังหวัดขอนแก่น

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ก.ย.64 เกิดเหตุชายสัญชาติอเมริกัน ทำร้ายร่างกายและข่มขืนพนักงานร้านนวดแผนไทย เหตุเกิดที่ร้านนวด ย่าน ถ.รอบเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป ระหว่างหลบหนีได้ไปก่อเหตุกระทำอนาจารกับเด็กสาว อายุ 13 ปี อีกรายในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จนป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ความสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากผู้ต้องหากระทำผิดอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ผู้เสียหายเป็นหญิงที่ประกอบอาชีพพนักงานนวด อาจทำให้เพื่อนร่วมอาชีพเกิดความหวาดระแวงต่ออาชญากรรม จึงสั่งการให้ พล.ต.ท.ภูมิภิภัทฒ์ฯ ผบช.สตม. และ พล.ต.ท.บรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 เร่งสืบสวนติดตามนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่สังคมโดยเร็วที่สุด

กรมส่งเสริมการเกษตร แถลงข่าวออนไลน์เผยความคืบหน้าโครงการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบ จาก COVID-19 ดำเนินการได้ตามแผน เกษตรกรสามารถลดต้นทุน

 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกภาคส่วน ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบของพี่น้องเกษตรกรทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้น ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานหลักในการจัดซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกร ที่ประสบปัญหาสินค้าล้นตลาด ราคาตกต่ำ เพื่อนำไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ภายใต้ “โครงการแบ่งปันน้ำใจ เกษตรไทยสู้ภัยโควิด-19” ซึ่งดำเนินการแล้ว 264 ครั้ง 46 จังหวัด รวมเป็นมูลค่าสินค้าทั้งสิ้น 1.2 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มเกษตรกร รวมถึงการช่วยกระจายผลผลิตให้กับเกษตรกรชาวสวนผลไม้ในแคมเปญ  “เกษตรกรแฮปปี้”  จำนวน 2 เฟส  สามารถช่วยระบาย มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย ได้จำนวนมาก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพี่น้องประชาชน ทำให้ราคาผลไม้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นที่น่าพอใจ และได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการขนส่งและเป็นจุดกระจายสินค้า 

สำหรับระยะยาว กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินงานโครงการสำคัญหลายโครงการ ภายใต้โครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีโครงการสำคัญหลายโครงการได้แก่ โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ซึ่งมีหลายหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมดำเนินการ และโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) เป็นต้น ซึ่งผลการดำเนินการในแต่ละโครงการ กรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินการเป็นไปตามแผนที่ได้วางกรอบเอาไว้เป็นที่น่าพอใจ และพร้อมกำชับให้กรมส่งเสริมการเกษตรรายงานผลการดำเนินงานให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทราบอย่างต่อเนื่อง  

ด้านนายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สำหรับโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่กรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินการ แบ่งตามแหล่งที่มาของงบประมาณ ประกอบด้วย 1) เงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 จำนวน 12 โครงการ เช่น โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) และโครงการที่หน่วยงานระดับจังหวัดเสนอขอดำเนินการ เช่น โครงการส่งเสริมการปลูกพืชเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตร (สมุทรสงคราม) โครงการส่งเสริมการปลูกผักปลอดภัยเชิงการค้าในกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ (จังหวัดสตูล) เป็นต้น  ผลการดำเนินงานโดยภาพรวม มีการเบิกจ่ายไปแล้วประมาณ 3,029 ล้านบาท คิดเป็น 56.92% ของวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร โดยมีหลายโครงการที่ดำเนินการเบิกจ่ายเสร็จสิ้นแล้ว  และ 2) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  
จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการส่งเสริมการปลูกพืชเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตร (จังหวัดสมุทรสงคราม) และโครงการโรงเรือนเพาะเห็ดอัจฉริยะ (จังหวัดสระบุรี) ขณะนี้ดำเนินการเบิกจ่ายไปแล้วประมาณ 1.14 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 83.37 ของวงเงินงบประมาณที่ได้รับ 

พันธมิตรจิตอาสา ขนข้าวกล่อง-น้ำดื่มแจก 'คนไร้บ้าน'​ ย่านหัวลำโพง ตะลุยฝั่งธนฯ แบ่งปันอาหารปันอิ่มช่วยชาวบางขุนเทียน สู้ภัยโควิด

(25 ก.ย.64)​ ที่หน้าบริษัท เปรมสวัสดิ์ (TALON) จำกัด ปากซอยบางขุนเทียน 11 นายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นางสาวพรทิพย์ เตชะสมบูรณา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทในเครือ เวิลด์เมดิคอลซัพพลาย จำกัด ตัวแทนนักศึกษา สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่น 1 (ปสม.) หลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่น 11-12 (สสสส.) พร้อมตัวแทนมูลนิธิสหชาติ ที่รวมตัวจากองค์กรต่างๆ ในนามกลุ่ม “พันธิมิตรจิตอาสา” เป็นสะพานบุญ ส่งมอบข้าวกล่องอุ่นร้อนพร้อมทาน โครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19” จากเครือบริษัท ซีพี และโลตัส ส่งต่อความห่วงใยถึงชาวบ้านในชุมชน โดยมี นายชัยสิทธิ์ คุ้มปลื้ม ตัวแทนพร้อมชาวบ้านหมู่บ้านไกรสร เขตบางขุนเทียน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 นำไปรับประทาน 

นายชัยสิทธิ์ คุ้มปลื้ม เปิดเผยว่า ชุมชนหมู่บ้านไกรสรมีผู้พักอาศัย 500 คน ส่วนใหญ่จะทำงานอยู่กับบ้าน เป็นแม่บ้าน ยังมีความต้องการได้รับความช่วยเหลืออยู่เช่นกัน ก่อนหน้านี้มีผู้ติดเชื้อโควิดประมาณ 50 คน โดยทุกคนได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล และสาธารณสุข นำผู้ป่วยไปพักฟื้น ส่งไปรักษา หรือบางรายที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง จะมีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือถึงในบ้าน รวมถึงวันนี้ ได้รับการเอื้อเฟื้อจาก กลุ่มพันธมิตรจิตอาสา ที่นำอาหารพร้อมทานจากครัวปันอิ่ม มาแบ่งปันส่งมอบให้กับคนในชุมชนถึงมือ ต้องขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานแจ้งว่า หลังจากกลุ่มพันธมิตรจิตอาสา แบ่งปันอาหารแก่ชาวบางขุนเทียนเสร็จสิ้น จึงเดินทางต่อนำอาหารและน้ำดื่มมาแจกจ่ายคนไร้บ้านหรือคนยากจน ที่รวมตัวกันอยู่ริมถนนฝั่งคลองผดุงกรุงเกษม ติดกับสถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาจอด บรรดาคนไร้บ้าน ต่างพากันวิ่งกรูเข้ามา โดยไม่มีการนัดหมาย ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนใจบุญนำอาหารมาแจก ทีมงานกลุ่มพันธมิตรจิตอาสา จึงแจ้งขอให้เข้าคิว และเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แล้วค่อทยอยเดินเข้ามารับน้ำดื่มพร้อมอาหารนำไปรับประทาน 

ดีเอสไอ สนธิกำลัง ปปส. และ สตช. เข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์ขบวนการค้ายาเสพติด ในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือ

ดีเอสไอ สนธิกำลัง ปปส. และ สตช. เข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์ขบวนการค้ายาเสพติด ในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือ

ตามคำสั่งอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษเพื่อการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้มีการบูรณาการทุกหน่วยงานในการขับเคลื่อนการดำเนินการเพื่อยึดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อทำลายเครือข่ายการค้า
ยาเสพติดทั้งในส่วนกลางและระดับพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมและเกิดผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ

พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจโท สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะกำกับดูแล จึงได้สั่งการให้ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการพาลีปราบยา 2 และหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 33/2564 ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนพบกลุ่มผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติคนสำคัญ ซึ่งมีพฤติการณ์ฟอกเงินให้กับกลุ่มค้ายาเสพติดรายใหญ่ 

โดยเมื่อวันพุธที่ 22 กันยายน 2564 เวลา 07.00 น. จึงได้สนธิกำลังกับ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และตำรวจภูธรจังหวัดตาก เข้าค้นบริษัท ค้าอัญมณี ตั้งอยู่ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตามอนุมัติศาลจังหวัดแม่สอด ที่ ค.179/2564 ลงวันที่ 21 กันยายน 2564 และในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ ห้องชุดคอนโดหรู ขนาดพื้นที่ 165 ตร.ม. บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ย่านสาทร กรุงเทพมหานคร ตามอนุมัติศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค.151/2564 ลงวันที่ 20 กันยายน 2564 

โดยปรากฏผลการสืบสวนสอบสวนว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้ มีธุรกรรมต้องสงสัยและมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับเส้นทางการเงินกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งผลการตรวจสอบย้อนหลัง 9 ปี นับแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน พบว่า มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารของผู้ต้องสงสัย บุคคลใกล้ชิดและบุคคลอื่น ๆ ในห้วงเวลาเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน รวมกว่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับผลประกอบการของบริษัท อีกทั้งปรากฏข้อมูลรายได้ตามแบบ ภงด. 90, 91 ของผู้ต้องสงสัยนี้ มีรายได้เพียงสามแสนบาทเศษต่อปี

วันหยุดเราไม่หยุด!! พันธมิตรจิตอาสา เดินหน้าช่วยกลุ่มเปราะบาง ชุมชนเสนานิคม 2 มอบข้าวปันอิ่มบรรเทาความหิว ฝ่าวิกฤติโควิด-19

(18 ก.ย.​ 64)​ ที่หน้าร้านค้ากลางชุมชนเสนานิคม 2 ฝั่งเหนือ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร กลุ่มพันธมิตรจิตอาสา นำโดย นายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางถวิล เพิ่มเพียรสิน อดีตรองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่น 1 (ปสม.1) หลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่น 12 (สสสส.) ตัวแทนมูลนิธิสหชาติ ร่วมมอบข้าวกล่องอุ่นร้อนพร้อมทาน จากโครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19” ของเครือซีพี พร้อมน้ำดื่ม โดยมี นายเมธี คล้ายรัศมี ตัวแทนผู้ประสานงาน และชาวชุมชนเสนานิคม 2 มารับมอบ 

ชุมชนเสนานิคม 2 ฝั่งเหนือ มีประชากรพักอาศัยกว่า 2,000 คน ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะ กลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ คนเร่ร่อน คนไร้บ้าน ผู้ด้อยโอกาส คนตกงาน ขาดรายได้ มีจำนวนมาก

นายสมชาย จรรยา เปิดเยว่า อาหารถือเป็นปัจจัยแรกในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะในยามที่ลำบากจากวิกฤติ ผลกระทบที่ชาวชุมชนแต่ละที่ได้รับ โดยเฉพาะครอบครัวผู้ยากไร้และด้อยโอกาส หรือผู้ว่างงาน คือการรอความช่วยเหลือ “ข้าวกล่องจากครัวปันอิ่ม” เป็นที่พึ่งของชาวชุมชนช่วยแบ่งเบาภาระและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย รวมทั้งยังช่วยให้ร้านอาหารได้มีรายได้พอที่จะประคองธุรกิจให้สามารถผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้

ไทยสมายล์บัส นำขบวน แพลตฟอร์ม รถบัสพลังงานไฟฟ้า เตรียมเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชน รถ-เรือ-ราง ทั่วกรุง ด้วยแอปพลิเคชั่น ทีเอสบี โก (TSB GO)

ไทยสมายล์บัส จำกัด หรือ “TSB” ผู้นำระบบแพลตฟอร์ม การให้บริการรถบัสพลังงานไฟฟ้า หรือ E-Bus ซึ่งเป็นนวัตกรรม ที่เชื่อมต่อเข้ากับระบบขนส่งมวลชนด้วยแอปพลิเคชั่น ทีเอสบี โก (TSB GO) ซึ่งสามารถติดตามพิกัด การเดินทางของรถประจำทาง เพื่อพลิกโฉมรถโดยสารในระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นยานยนต์ไฟฟ้า ที่ทันสมัย สะอาด สะดวกสบาย ปลอดภัย และไร้ PM2.5 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยเป็นรายแรก สนับสนุนภารกิจลดภาวะโลกร้อน เตรียมพร้อมที่จะเชื่อมต่อการเดินทาง “รถ-เรือ-ราง” แบบครบวงจร ช่วยประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายเดินทางเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างยั่งยืน

บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด หรือ “TSB” ได้จัดพิธีเปิดการให้บริการรถบัสโดยสารพลังงานไฟฟ้า    Thai Smile Bus “The Way for your smiles” เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อมขึ้น โดยมี นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง  ไทยสมายล์บัส (TSB) ให้การต้อนรับ นายธีรพล นพรัมภา อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ท่านสมัคร สุนทรเวช)แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนอย่างอบอุ่น พร้อมกับนำรถบัสพลังงานไฟฟ้า มาแสดงให้แขกผู้มีเกียรติ และผู้สนใจเยี่ยมชม สร้างประสบการณ์ใหม่ที่ประทับใจ สมกับการรอคอย

 นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานกรรมการ และผู้ก่อตั้ง  ไทยสมายล์บัส (TSB) กล่าวว่า “เราได้ทำการศึกษาแล้วพบว่า ประชาชนในกรุงเทพฯ มีการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะถึง 2.72 ล้านคน จึงได้เตรียมการลงทุนและพัฒนาระบบต่างๆ จนในวันนี้ TSB มีความพร้อมแล้ว ที่จะนำแพลตฟอร์มยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ และเทคโนโลยีมาใช้เป็นหัวใจหลักในการบริการแก่ประชาชนด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และราคาประหยัด  


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top