Saturday, 9 December 2023
NEWS

ไทย สมายล์ บัส มอบหมวกกันน็อค ในกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ปี 2566

วันที่ 4 ธันวาคม 2566 

คุณกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ประธานกิตติมศักดิ์ มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วย
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์  และ ทีมงานมวลชนสัมพันธ์ (CSR) ไทย สมายล์ บัส 

ได้ร่วมกับศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ.) กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานต่างๆ จัดกิจกรรมจิตอาสา แจกหมวกกันน็อค  ในนามของ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด 
เพื่อสนับสนุนงานด้านจราจรและความปลอดภัย เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 ณ วัดปากน้ำภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร

ซึ่งบรรยากาศของการจัดกิจกรรมจิตอาสาในจุดนี้มีพี่น้องประชาชน นักเรียน นักศึกษา เจ้าหน้าที่จากภาคส่วนต่างๆ และชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงต่างให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

อีอีซี ชูศักยภาพพลังคนรุ่นใหม่ ร่วมโครงการ “อีอีซี สแควร์” เดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมดูแลสิ่งแวดล้อมและชุมชน พร้อมผนึกกำลังทุกภาคส่วนผลักดันสร้างโอกาสขยายผลโครงการจริง

​เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 นางธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการสายงานพื้นที่และชุมชน สกพอ. หรือ อีอีซี เป็นประธานพร้อมมอบรางวัลในงานประกาศรางวัลโครงการ อีอีซี สแควร์ ประจำปี 2566 (EEC2 : Environmental Empowerment CAMP & CONTEST) ณ โรงแรมบางแสนเฮอริเทจ จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน อาทิ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านพื้นที่และชุมชน นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายชัยพร  แพภิรมย์รัตน์ ปลัดจังหวัดชลบุรี 

นายฉัตรชัย ทิมกระจ่าง นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา นายณัฏฐ์ธน สาตรจีนพงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ผศ.ดร.ณยศ คุรุกิจโกศล ผู้รักษาการแทนรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา ธนาคารกรุงไทย จำกัดบริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เข้าร่วมชมผลงานและแสดงความยินดีแก่เยาวชน โดยโครงการ อีอีซี สแควร์ ประจำปี 2566 ได้สร้างการมีส่วนร่วม และสิ่งเสริมให้เยาวชนใน อีอีซี แสดงศักยภาพผ่านการประกวดการสร้างสรรค์โครงงานนวัตกรรม และการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยพัฒนาสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นในมิติต่างๆ ตามบริบทของพื้นที่ พร้อมสร้างโอกาสการขยายผลจริงในชุมชน 

​ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการประเมินผลงานเยาวชนซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจาก EECi. NECTEC สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพื้นที่ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยศิลปากร PTTGC และธนาคารไทยพาณิชย์ โดยผลงานดีเด่น รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนเซนต์หลุยส์ฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา กับการออกแบบและพัฒนาถังดักไขมันในน้ำเสียเพื่อใช้ในครัวเรือน รองชนะเลิศอันดับ 1 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ 2 จังหวัดฉะเชิงเทรา กับโครงการ Smart farm feeding เครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัติและติดตามอุณหภูมิน้ำผ่าน Application และรองชนะเลิศอันดับ 2 โรงเรียนหมอนทองวิทยา จังหวัดฉะเชิงเทรา กับผลงานโครงการกระถางจากธรรมชาติ โดยนำฟางข้าวมาแปรรูปเป็นกระถางเพื่อลดมลภาวะทางอากาศจากการเผาฟางข้าว  
​นอกจากนี้ ยังมีรางวัลพิเศษแห่งความประทับใจ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทย อีก 5 รางวัล ได้แก่ รางวัล Best Content Creator ได้แก่ โรงเรียนมกุฎเมืองราชวิทยาลัย จังหวัดระยอง รางวัล Best Impact ได้แก่ โรงเรียนแปลงยาวพิทยาคม จังหวัดฉะเชิงเทรา รางวัล School Supporter ได้แก่ โรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) จังหวัดชลบุรี รางวัล Young EEC Square Courage ได้แก่ โรงเรียนวัดป่าประดู่ จังหวัดระยอง และรางวัล Start Up DNA ได้แก่ โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง จังหวัดระยอง 

​สำหรับโครงการ อีอีซี สแควร์ นับเป็นโครงการสำคัญที่ อีอีซี สร้างการมีส่วนร่วมและพัฒนาศักยภาพเยาวชน ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 โดยในปี 2566 นี้ได้เปิดรับสมัครเยาวชนระดับมัธยมศึกษาในพื้นที่อีอีซี มีเยาวชนเข้าร่วมจำนวน 17 โรงเรียน และได้รับการเรียนรู้เกี่ยวกับ อีอีซี การนำเทคโนโลยีนำเทคโนโลยี board Kidbright มาปรับใช้ในการทำโครงงาน ซึ่งตั้งใจให้เยาวชนที่เรียนเรื่อง coding ในโรงเรียนอยู่แล้วได้เข้าใจว่าสิ่งที่เรียนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาผลงานที่เป็นประโยชน์ได้อย่างไร รวมถึงมีการพัฒนาทักษะต่าง ๆ เช่น การทำงานเป็นทีม การศึกษาดูงานกระบวนการผลิตแบตตารีลิเทียมในอุตสาหกรรมจริง เป็นต้น และที่สำคัญ อีอีซี ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนหลายหน่วยงาน ให้ความสนใจนำผลงานเยาวชนไปพัฒนาต่อยอดขยายผลจริงในชุมชน ในโรงงาน และสร้างโอกาสต่อยอดเชิงพาณิชย์อีกด้วย

'หมอยง' ชี้!! โรคปอดบวมในเด็กที่กำลังระบาด เป็นเชื้อที่มีอยู่เดิมแล้ว  เมื่อติดเชื้อจะมีภูมิต้านทาน หากติดปีต่อๆ ไป ความรุนแรงก็จะน้อยลง

(4 ธ.ค. 66) นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เรื่อง ‘โรคปอดบวม ปอดอักเสบ ที่เพิ่มมากขึ้น’ ระบุว่า มีการระบาดและเพิ่มมากขึ้นของปอดอักเสบ โดยเฉพาะในเด็ก ไม่ใช่เฉพาะประเทศจีน ยังพบมากในเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก อเมริกาในหลายรัฐ และแม้แต่ในประเทศไทย

จากการระบาดของโควิด-19 มาถึงขณะนี้เป็นเวลา 4 ปี ในช่วง 3 ปีแรก มีมาตรการเข้มงวด เคร่งครัด ควบคุมการระบาดของโรค ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ ใช้แอลกอฮอล์เช็ดมือ ปิดบ้านปิดเมือง รวมทั้งปิดโรงเรียน ทำให้โรคทางเดินหายใจ ไม่ระบาด เด็กที่เกิดในช่วงนี้ จึงยังไม่เคยเป็นโรคดังกล่าว หรือถ้าเป็นมาแล้วในเด็กโตก็นานมาแล้ว ทำให้ประชากรส่วนใหญ่โดยเฉพาะเด็ก ง่ายต่อการติดเชื้อ เกิดระบาดได้ง่าย เป็นกลุ่มใหญ่ ชดเชยกับปีที่ผ่านมาที่ไม่มีการระบาด

โรคทางเดินหายใจในเด็กส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส โควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ RSV parainfluenza virus rhinovirus hMPV เป็นเชื้อที่มีอยู่เดิมแล้ว ไม่ได้เป็นเชื้ออุบัติใหม่แต่อย่างใด เมื่อติดเชื้อไปแล้ว ก็จะมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น ปีต่อ ๆ ไปถึงจะมีการติดเชื้ออีก อาการความรุนแรง ก็จะน้อยลง

ความรุนแรงของโรคส่วนใหญ่จะอยู่ในเด็กเล็ก กลุ่มเปราะบางที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ ถ้าเป็นในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ที่แข็งแรงจะมีอาการน้อย

‘แพทย์’ แนะ!! ‘เศรษฐา’ ให้พักผ่อนมากขึ้น หลังผลตรวจพบภาวะ ‘เครียด-ตื่นเต้น-กดดันสูง’

เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระหว่างลงพื้นที่ตรวจการดำเนินงานตามมาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด ‘หนองบัวลำภูโมเดล’ และการดูแลผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้ยาเสพติด และตรวจเยี่ยมกระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยจิตเวช ที่โรงพยาบาลสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู

โดยช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปตรวจสภาพร่างกายเบื้องต้น บนรถโมบายเคลื่อนที่ ของกรมสุขภาพจิต ประจำโรงพยาบาลสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ซักประวัตินายกรัฐมนตรี โดยผลการตรวจร่างกายพบว่า นายกรัฐมนตรีมีสภาวะเครียดสูง ตื่นเต้น และกดดัน ทำให้ระบบประสาทไม่สมดุลกัน ทั้ง 2 ด้าน

ทำให้นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี มีภารกิจเยอะ จะไม่เครียดได้อย่างไร รวมถึงความเหนื่อยล้าของสภาพร่างกาย ทำให้นายกฯ ถึงกับขั้นหัวเราะเสียงดัง เปรียบเสมือนการยอมรับความจริง ซึ่งแพทย์ก็แนะนำให้นายกรัฐมนตรีนอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้น

ก่อนที่เดินลงมาถ่ายภาพร่วมกับคณะแพทย์และโรงพยาบาล และรับฟังบรรยาย ระบบการใช้อุปกรณ์รถเคลื่อนที่ ในการรักษา

‘ท่านอ้น’ เตรียมเยือนไทยครั้งที่ 2 พรุ่งนี้ เผย เป็นการเดินทางมาแบบส่วนตัว

(3 ธ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่านวัชเรศร วิวัชรวงศ์ หรือ ‘ท่านอ้น’ โอรสคนที่ 2 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเดินทางมายังประเทศไทย ในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ ซึ่งมีการยืนยันว่าเป็นการเดินทางมาเป็นการส่วนตัว ในการมาไทยเป็นครั้งที่ 2 ของ ‘ท่านอ้น’

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ท่านอ้นได้เดินทางมาไทย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 ซึ่งถือเป็นการมาไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปี ก่อนที่ ‘ท่านอ่อง’ นายแพทย์จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ น้องชาย เดินทางมาสมทบในวันที่ 13 สิงหาคม ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินทางกลับสหรัฐอเมริกาพร้อมกัน ในวันที่ 14 สิงหาคม

‘รมว.พีระพันธุ์’ เป็นประธานหล่อองค์พระมหาโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ พร้อมเปิดมูลนิธิฯ ให้ความช่วยเหลือ ปชช.ที่ประสบภัยใน จ.ราชบุรี

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 66 ที่พุทธสถานเต๋อฮว่า อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินทางมาเป็นประธานในพิธีหล่อองค์พระมหาโพธิสัตว์กวนอิมพันกร พร้อมทั้งเปิดมูลนิธิวงษ์พิทักษ์ร่วมประชาชนสงเคราะห์ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย และประสบอุบัติเหตุ โดยมี นายอัครเดชร วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ ในพิธีดังกล่าว นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรค นำทีม สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ อาทิ นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ รองหัวหน้าพรรค, น.ส.กุลวดี นพอมรบดี สส.ราชบุรี, พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร สส.นครปฐม พร้อมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ใน จ.ราชบุรี นำโดยนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.ราชบุรี พ่อค้า ประชาชนชาว จ.ราชบุรีร่วมงานจำนวนมาก

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณชาว จ.ราชบุรี ที่ได้เลือกนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ เป็น สส.ราชบุรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้ามาเป็นตัวแทนรับใช้ประชาชนในพื้นที่ นายอัครเดชถือว่าเป็นกำลังสำคัญของตนและพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อพี่น้องชาวราชบุรีอย่างจริงจังตลอดมา 

สำหรับ พรรครวมไทยสร้างชาติมุ่งมั่นที่เข้ามาทำงาน โดยนโยบายหนึ่งที่ตนตั้งใจจะทำก็คือ การแก้ปัญหาราคาพลังงานให้กับประชาชนเพราะปัญหาพลังงานเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของประชาชน ตนมุ่งมั่นตั้งใจว่าถ้าได้มาเป็นรัฐบาลจะพยายามปรับปรุงแก้ไขอย่างเต็มที่ เมื่อพรรครวมไทยสร้างชาติได้เป็นรัฐบาล และมีโอกาสมาทำงานตรงนี้จะทำตามที่ได้พูดไว้ ตั้งใจจะแก้ปัญหานี้ให้ยั่งยืน โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่ไม่มีใครเคยทำได้มา 40 ปีจนเกิดปัญหากับประชาชน ตนและพรรครวมไทยสร้างชาติจะเข้ามาทำให้ได้ ทำให้ดี และยั่งยืนเพื่อลดภาระด้านพลังงานให้กับประชาชนได้มีชีวิตที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเสร็จพิธี นายพีระพันธุ์พร้อมคณะได้มอบเครื่องอุปโภค-บริโภคให้กับประชาชนผู้ยากไร้ เพื่อช่วยเหลือในการดำรงชีวิต

ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า เนื่องจาก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่หนึ่งที่มีชาวไทยเชื้อสายจีนมาตั้งรกรากอาศัย และทำมาหากินมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว จะเห็นได้ว่าในพื้นที่มีสถาปัตยกรรมจีนต่าง ๆ ปรากฎให้เห็นมากมาย  ดังนั้นนายวุฒิพงศ์ และคุณแม่สมจิตต์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาและมารดาของตน ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีน จึงได้มีดำริในการก่อตั้งศาลาแปดเหลี่ยมในรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน เพื่อประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันกร และศาลทีกง หรือ ‘ศาลเทียนสี่ฟูมู่’ หรือ ‘ศาลเทวดา ฟ้าดิน’ รวมทั้งยังได้ก่อตั้งศาลหลวงปู่ไต่ฮงกง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะแบบหลวงพ่อพระใส พร้อมองค์ไฉ่ซิงเอี๊ย หรือ ‘เทพเจ้าแห่งโชคลาภ’ ให้พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปได้มากราบสักการะบูชา 

“นอกจากนี้ ยังเป็นการเริ่มต้นในการก่อตั้งมูลนิธิวงษ์พิทักษ์ร่วมประชาสงเคราะห์ เนื่องจาก อ.จอมบึง ยังไม่มีอาสาสมัครกู้ภัยอย่างเป็นทางการ ดังนั้น คุณพ่อวุฒิพงศ์ และคุณแม่สมจิตต์ มีความประสงค์ที่จะร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิฯ เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยและประสบอุบัติเหตุ และช่วยเหลือทางราชการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์ต่างๆ ในอนาคต เราหวังว่ามูลนิธิวงษ์พิทักษ์ร่วมประชาชนสงเคราะห์ จะได้ปฏิบัติภารกิจเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับชาว จ.ราชบุรีอย่างเต็มที่ ตามวัตถุประสงค์ของคุณพ่อวุฒิพงศ์ และคุณแม่สมต่อไป” นายอัครเดชกล่าว

‘น้องเทนนิส’ คว้าแชมป์ที่ 51 เป็นของขวัญส่งท้ายปีให้คนไทย  พังสถิติโลก ขึ้นแท่นแชมป์ ‘เวิลด์ กรังด์ปรีซ์’ สูงสุด 12 สมัย!!

(3 ธ.ค. 66) พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือ ‘น้องเทนนิส’ ยังคงสร้างผลงานไร้เทียมทาน คว้าแชมป์ที่ 6 ในปี 2023 สำเร็จ ย้ำแค้นคู่ปรับเก่าชาวสเปน ผงาดแชมป์เทควันโด ‘กรังด์ปรีซ์ ไฟนอลส์’ ส่งท้ายปีที่สหราชอาณาจักร

เส้นทางแชมป์ เริ่มต้น รอบ 16 คน ชนะ ‘ฟีนิกซ์ กู๊ดแมน’ (อังกฤษ) 2-0, รอบ 8 คน ชนะ ‘ยิลเดริม รูกิเย’ (ตุรกี) 2-0, รอบรองฯ ชนะ ‘กานิเอลา ซูซ่า’ (เม็กซิโก) 2-0 และรอบชิง ชนะ ‘อาเดรียนา เซเรโซ อิเกลเซียส’ (สเปน) 2-0

‘เทนนิส’ คว้าแชมป์ที่ 51 ให้กับตัวเธอเอง พร้อมจารึกประวัติศาสตร์เป็นสถิติโลกด้วยการเป็นนักกีฬาหญิงที่ได้แชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์สูงสุดถึง 12 สมัย

แต่งตั้ง ‘องคมนตรี’ คุณสมบัติที่มิใช่แค่ ‘คนเก่ง-ผลงานดี’ ก็ได้ดำรงตำแหน่ง แต่ต้อง ‘ซื่อสัตย์-ไว้ใจได้’ คอยเป็นผู้ช่วยเหลืองานข้างกายพระมหากษัตริย์

เมื่อไม่นานนี้ ได้มีผู้ใช้ติ๊กต็อกท่านหนึ่ง ชื่อบัญชี @flukepatsmile ได้โพสต์คลิปตอบกลับความคิดของผู้ใช้ติ๊กต็อกอีกท่านหนึ่ง ที่ได้มาแสดงความคิดถึงการตั้งแต่งอดีตนายกรัฐมนตรี ‘พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ขึ้นเป็น ‘องคมนตรี’ ระบุว่า…

“ปกติครับ เห็นมีอยู่แค่ไม่กี่คนที่เป็นนายกฯ แล้วไม่ได้เป็นองคมนตรี เช่น คุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์ เพราะว่าโดนรัฐประหาร”

โดยเจ้าของบัญชี ได้ตอบกลับว่า…

“ผมคิดว่าคุณอคติไม่หาข้อมูลนะครับ คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วได้เป็นองคมนตรี มีอยู่ไม่ถึง 5-6 คนเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากนะครับ เพราะนายกรัฐมนตรีในประเทศเรา ที่เคยมีมานั้น มีอยู่ประมาณ 30 คน ถามว่าทุกคนจะได้เป็นองคมนตรีหมดเลยเหรอครับ?

มันเป็นไปไม่ได้นะครับ มันเป็นหลักการที่ไม่สมเหตุสมผลครับ

การจะแต่งตั้งใครเป็นองคมนตรีนั้น เกิดจากการที่พระมหากษัตริย์ท่านทรงไว้ใจ จึงทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งขึ้น เพื่อให้องคมนตรีคอยช่วยเหลืองาน คอยเป็นที่ปรึกษาให้กับพระมหากษัตริย์

การที่คุณจะเลือกใครสักคนมาเป็นที่ปรึกษา มาอยู่ใกล้ชิดนั้น คุณก็ต้องเลือกคนที่ซื่อสัตย์ คนที่คุณไว้ใจ คนที่คุณเชื่อถือ ถูกไหมครับ? ไม่ใช่แค่เพียงเพราะว่าคนคนนั้นเขามีแค่ผลงานดีอย่างเดียว หรือว่ามีตําแหน่งที่สูงอย่างเดียว

และตั้งแต่อดีต หากองคมนตรีทําผิดพลาด ก็เปรียบเหมือนเสนาบดีทําผิดพลาดครับ เพราะจะส่งผลเสียไปถึงตัวของพระมหากษัตริย์ด้วย

เพราะฉะนั้น นับตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา เวลาแต่งตั้งใครเป็นเสนาบดี หรือแต่งตั้งองคมนตรี พระมหากษัตริย์ท่าจะทรงเลือกคนที่ซื่อสัตย์ คนที่ไว้ใจได้ คนท่านที่คิดว่า จะไม่ทําให้พระองค์ท่านเสื่อมเสียครับ

ดังนั้น ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วจะได้ขึ้นเป็นองคมนตรีนะครับ”

‘บิ๊กดุง’ ชื่นชม!! 'พันจ่าเอก ทรัพย์อำนวย ศรีชม' กำลังพล ‘ทร.’ หลังคืนชีพชาวพม่าหมดสติที่สัตหีบด้วย CPR

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณชมเชย กำลังพลกองทัพเรือที่ประกอบคุณงามความดี เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและสร้างชื่อเสียงแก่กองทัพเรือ จำนวน 7 นาย ณ ห้องสุพรรณหงส์ อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร   

สำหรับกำลังพลทั้ง 7 นายที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย จากผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันทีซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมและได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือให้ปรากฏต่อสาธารณชน 

ทั้งนี้ 1 พลทหารแห่งกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที ได้แก่...

'พันจ่าเอก ทรัพย์อำนวย ศรีชม' ซึ่งได้ให้การช่วยเหลือชายชาวพม่านอนหมดสติและไม่หายใจบริเวณถนนหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาสัตหีบ โดยได้เข้าทำการตรวจสอบและช่วยเหลือด้วยการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน CPR จนทำให้ผู้ป่วยกลับมาหายใจได้ด้วยตนเองและนำส่งตัวเข้ารับการรักษาได้อย่างปลอดภัย

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชม พันจ่าเอก สุวิทย์ อ่อนอินทร์ กำลังพลจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ด้วยว่า การให้การช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงออกซึ่งความกล้าหาญ ไม่ลังเลที่จะเสียสละ เข้าช่วยเหลือ 

ถือเป็นบุคคลตัวอย่างของสังคม เป็นกำลังพลที่ทำให้กองทัพเรือเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการให้การช่วยเหลือประชาชน และการกำหนดให้กำลังพลทุกนายมีความรู้ในการปฐมพยาบาลโดยวิธีช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานหรือ CPR โดยสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีที่ประสบเหตุ

‘อินเตอร์ลิ้งค์’ จัดมื้อพิเศษ ‘LINK THANK YOU VIP 2023’ แทนคำขอบคุณคู่ค้าภาคอีสาน พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

ม่วนอีหลี ส่งความสุขท้ายปี!! ให้ลูกค้าภูมิภาคอีสาน บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) จัดงาน ‘LINK HAPPY EVERYWHERE THANK YOU VIP 2023’ เลี้ยงขอบคุณชุดใหญ่ริมฝั่งโขง ณ เวลาดี นครพนม (VELA Dhi Nakhon Phanom) เพื่อสานสัมพันธ์อันดีร่วมกัน พร้อมกับนำพาลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์กับ LINK กว่าที่เคย เมื่อวันที่ 2 – 3 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา

สำหรับค่ำคืนในบรรยากาศสุดเย็นสบาย ท่ามกลางวิวลุ่มแม่น้ำโขงที่แสงจันทร์สาดส่องกระทบผิวน้ำอันแพรวพราวแห่งนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นการตอบแทนคำขอบคุณแก่ลูกค้า และพันธมิตรทั่วภูมิภาคอีสาร ที่ให้การสนับสนุนสินค้า ‘LINK AMERICA & GERMAN RACK EVERYWHERE’ ด้วยดีตลอดทั้งปีที่ผ่านมา

งานนี้ คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ พร้อมด้วย ดร.ชลิดา อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ร่วมกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ จำนวนกว่า 100 ท่าน และดูแลลูกค้าอย่างอบอุ่น พร้อมกับร่วมพูดคุย อัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีนวัตกรรมอัจฉริยะที่ตอบโจทย์แก่งานระบบโครงสร้างพื้นฐานแห่งยุคดิจิทัล แนะนำถึงสินค้าใหม่ พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโขง โอบล้อมไปด้วยอากาศสบาย ๆ พร้อมชมวิวแห่งสายน้ำ และท้องฟ้าที่ทอประกายด้วยแสงดาว ที่ทุกท่านจะได้ดื่มด่ำกับอารยธรรมอันน่าหลงใหล ในการแสดงพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น และงดงาม ตระการตาอีกด้วย ควบคู่ไปกับรับประทานอาหารมื้อค่ำสุดพิเศษที่จัดให้ไม่มีอั้นยามค่ำคืน จัดเตรียมมามอบให้ลูกค้าทุกท่านได้ลิ้มรสชาติโดยเฉพาะ

ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคอีสาน บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุข สนุกสนาน เต็มอิ่มกับความบันเทิง รื่นเริงกับเสียงเพลงท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมรับลมโชยเย็นสบายที่พัดผ่านอย่างสุขสมประทับใจ อีกทั้งงานนี้มีกิจกรรม ที่คัดสรรมาให้ทุกท่านได้ร่วมสนุก ลุ้นรับของรางวัลสุดพรีเมียม จากอินเตอร์ลิ้งค์ฯ ตลอดทั้งค่ำคืนอีกด้วย

และในรุ่งเช้า วันฟ้าใหม่ ลูกค้าทุกท่านร่วมตักบาตร ทำบุญ ริมฝั่งโขงนครพนม เพื่อเสริมศิริมงคลในยามเช้าอย่างอิ่มเอมใจ พร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้น เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงาม มองเห็นฝั่งประเทศเพื่อนบ้านสุดขอบชายแดนอีกด้วย

สำหรับงานเลี้ยงส่งมอบความสุข ขอบคุณลูกค้าส่งท้ายปีในภูมิภาคอีสาน นับเป็นการตอบแทนคำขอบคุณที่ลูกค้าทุกท่าน เชื่อมั่น ไว้วางใจในสินค้า ‘LINK AMERICA & GERMAN RACK EVERYWHERE’ ด้วยดีตลอดทั้งปีที่ผ่านมา รวมถึงเป็นการสร้างโอกาส สานสัมพันธ์กระชับมิตรอันดีให้แก่กันมากยิ่งขึ้น เพื่อหนุนสร้างฐานทัพธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่งเพิ่มไปอีกขั้น และนำพาให้ธุรกิจเติบโตไปด้วยกัน อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน

เปิดเหตุผล ‘พอลลีน’ กรณีดึง ‘วิโรจน์ ก้าวไกล’ มาช่วยพัฒนาบอลไทย เชื่อ!! ช่วยเปิดมุมมองที่ไม่คาดคิด วอน!! แยกแยะ ‘กีฬา-การเมือง’

เมื่อไม่นานนี้ ‘คุณพอลลีน งามพริ้ง’ ได้ออกมาชี้แจง หลังจากที่ ได้ประกาศว่าได้ดึงตัว ‘คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร’ เข้ามาเป็นทีมงานเตรียมช่วยพัฒนาฟุตบอลไทย

สำหรับ คุณพอลลีน แสดงตัวชัดเจนว่าจะลงสมัคร และได้ทาบทาม คุณวิโรจน์ ก้าวไกลมาร่วมทีมด้วย โดย คุณพอลลีนได้ ชี้แจงเหตุผลที่เชิญชวนคุณวิโรจน์มาร่วมด้วยช่วยกันในวงการฟุตบอล ไว้ดังนี้

1.) การที่มีคนนอกวงการกีฬาเข้ามา อาจจะช่วยให้เปิดมุมมองที่เราไม่คาดคิดได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น จากที่ได้รู้จักคุณวิโรจน์ ที่เป็นแฟนฟุตบอลตัวตึง และตัวยงไม่แพ้ใคร

2.) ศักยภาพคุณวิโรจน์ ค่อนข้างเป็นที่ประจักษ์ในการตรวจสอบต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

3.) คุณวิโรจน์ มีประสบการณ์วิศวกรรม อาจจะสามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้กับวงการกีฬา เพื่อขับเคลื่อนได้

4.) ประสบการณ์จากการทำงานเป็น ผจก.ทรัพยากร หากนำมาปรับโครงสร้าง และติดตามปัญหาของนักฟุตบอลภายใต้สมาคมได้อีก

“ที่สำคัญพอลลีนเพียงแต่พูดคุยไปที่คุณวิโรจน์ แต่ก็ยังไม่ได้สรุปหรือตอบรับแต่อย่างใด เพราะเกรงเรื่องภารกิจในสภาฯ มีหลายคนพยายามโยงว่า พอลลีน เอาการเมืองเข้ามาเกี่ยว ก็อยากจะบอกว่า ที่ทำฟุตบอลสโมสรกันอยู่เวลานี้ หรือ มีอิทธิพลในสมาคมฯกันอยู่เวลานี้ ก็นักการเมือง หรือสังกัดพรรคการเมืองกันทั้งนั้น อย่าเถียงว่าไม่จริง” คุณพอลลีน กล่าว

“วงการฟุตบอลไม่ควรมาตั้งแง่กันว่า ใครรวยใครจน ใครอยู่ภาคไหน หรือมีแนวคิดการเมืองเป็นอย่างไร ที่สำคัญพรรคการเมืองรัฐบาลก็ไม่ควรแสดงตัวสนับสนุนใคร… เพราะนั่นคุณกำลังเอา ‘การเมืองมายุ่ง’ ของจริง ด้วยความเคารพ” คุณพอลลีน กล่าวทิ้งท้าย

‘พี่ดี้ นิติพงษ์’ แชร์โมเมนต์ประทับใจจากผู้ใช้บริการ ‘บีควิก’ ปะยางให้ไม่คิดตังค์ ให้ทิปก็ไม่รับ พนง.บอก ดูแลฟรีทุกคน

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 66 นายนิติพงษ์ ห่อนาค หรือ ‘ดี้’ นักแต่งเพลงชื่อดัง ได้แชร์โพสต์ภาพและข้อความของเฟซบุ๊ก ‘พึงเนตร อติแพทย์’ เรื่องความประทับใจในการให้บริการของศูนย์ให้บริการรถยนต์ ‘บีควิก’ (B-Quik) ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Nitipong Honark’ โดยระบุว่า…

ฉันเคยใช้บริการของ ‘บีควิก’ ปะยาง… แล้วก็พบประสบการณ์เดียวกันกับคุณที่ฉันแชร์มานี่ พนักงานปะยางให้อย่างกุลีกุจอ… แล้วก็ไม่เอาตังค์สักบาท หน้าตาน้องคนทำงานก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ภูมิใจมาก

หลังจากนั้น… เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางรถทั้งสี่เส้น ฉันไม่นึกถึงที่อื่นเลย ฉันไปจ่ายเงินหลายหมื่นให้บีควิกด้วยเต็มใจ…

เป็นตัวอย่างนโยบายที่ใช้คุณธรรม ไมตรีจิต นำการตลาดที่ได้ผลทางการตลาดอย่างยอดเยี่ยมด้วย… และทำให้พนักงานภาคภูมิใจมาก ที่ได้เห็นความประทับใจจากลูกค้า…

อยากให้ผู้บริหารบริษัทใหญ่ ๆ ทุกสาขา ทั้งประเภทอุปโภคบริโภค สื่อสาร พลังงาน ธนาคาร ประกัน ฯลฯ ได้มีนโยบายน่ารักแบบนี้ให้มากที่สุด บริการมิตรจิตมิตรใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คนเขาประทับใจ… เป็นการตลาดที่น่ารักและยั่งยืนที่สุด พวกที่ได้เงินจากลูกค้าไปแล้วเป็นพันหมื่นแสน ยังจะมาตามเก็บค่าธรรมเนียมยุบยิบ นั่นนี่… ลูกค้าก็ได้แต่จำไว้… มีคู่แข่งเมื่อไหร่ กูหนีมึงแน่นอน

อ๋อ… พวกที่บังคับให้พนักงานหายอดเงินให้ได้ โดยเที่ยวโทร.ไปหาผู้คนเปะปะ เสนอสิทธิพิเศษนั่นนี่… ไม่ว่าจะธนาคารหรือบริษัทประกัน… ขอบอกว่าคุณเป็นผู้บริหารรับจ้างที่สี่เหลี่ยมแห้งแล้งมาก ๆ จ้ะ

‘ผบ.ทร.’ ชื่นชม!! พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณแก่ '3 ทหารกล้า' หลังช่วยชีวิต นทท.เยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร ขึ้นจากน้ำอย่างปลอดภัย

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณชมเชย กำลังพลกองทัพเรือที่ประกอบคุณงามความดี เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและสร้างชื่อเสียงแก่กองทัพเรือ จำนวน 7 นาย ณ ห้องสุพรรณหงส์ อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร   

สำหรับกำลังพลทั้ง 7 นายที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย จากผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันทีซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมและได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือให้ปรากฏต่อสาธารณชน 

ทั้งนี้ 3 พลทหารแห่งกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที ได้แก่...

'พันจ่าเอก ดาวลอย นาธงไชย',‘จ่าตรี เฉลิมชัย เหมหา’ และ 'พลทหาร กูฮัทซัน สมัย' ให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศรและได้กระโดดน้ำบริเวณช่องทางเดินกราบซ้ายของเรือโดยกำลังพลทั้ง 3 นายที่เห็นเหตุการณ์ ได้กระโดดน้ำเพื่อให้การช่วยเหลือ และนำตัวขึ้นฝั่งเพื่อนำผู้ประสบเหตุส่งเข้ารับการรักษาตัวยังโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือได้อย่างปลอดภัย

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชม 'พันจ่าเอก ดาวลอย นาธงไชย',‘จ่าตรี เฉลิมชัย เหมหา’ และ 'พลทหาร กูฮัทซัน สมัย' ด้วยว่า การให้การช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงออกซึ่งความกล้าหาญ ไม่ลังเลที่จะเสียสละ เข้าช่วยเหลือ 

ถือเป็นบุคคลตัวอย่างของสังคม เป็นกำลังพลที่ทำให้กองทัพเรือเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการให้การช่วยเหลือประชาชน และการกำหนดให้กำลังพลทุกนายมีความรู้ในการปฐมพยาบาลโดยวิธีช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานหรือ CPR โดยสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีที่ประสบเหตุ

‘ผู้บัญชาการทหารเรือ’ ยกย่อง-ชื่นชม 'เรือเอก สมใจ เอี่ยมสุข' กำลังพลกองทัพเรือ คืนชีพผู้ถูกคนร้ายยิงที่ชลบุรีด้วย CPR

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณชมเชย กำลังพลกองทัพเรือที่ประกอบคุณงามความดี เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและสร้างชื่อเสียงแก่กองทัพเรือ จำนวน 7 นาย ณ ห้องสุพรรณหงส์ อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร   

สำหรับกำลังพลทั้ง 7 นายที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย จากผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันทีซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมและได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือให้ปรากฏต่อสาธารณชน 

ทั้งนี้ 1 พลทหารแห่งกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที ได้แก่...

'เรือเอก สมใจ เอี่ยมสุข' ซึ่งได้ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยซึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณหน้าทางเข้าหมู่บ้านบุญฤทธิ์โครงการ 2 ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยได้ทำการปฐมพยาบาลด้วยการฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน CPR พร้อมทั้งประสานรถพยาบาลกู้ชีพฉุกเฉินเพื่อนำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชม เรือเอก สมใจ เอี่ยมสุข ด้วยว่า การให้การช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงออกซึ่งความกล้าหาญ ไม่ลังเลที่จะเสียสละ เข้าช่วยเหลือ 

ถือเป็นบุคคลตัวอย่างของสังคม เป็นกำลังพลที่ทำให้กองทัพเรือเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการให้การช่วยเหลือประชาชน และการกำหนดให้กำลังพลทุกนายมีความรู้ในการปฐมพยาบาลโดยวิธีช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานหรือ CPR โดยสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีที่ประสบเหตุ

‘ผู้บัญชาการทหารเรือ’ ชื่นชม!! '2 ทหารกล้า' กำลังพล ‘ทร.’ คืนชีพนักท่องเที่ยวที่กระบี่ด้วย CPR

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณชมเชย กำลังพลกองทัพเรือที่ประกอบคุณงามความดี เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและสร้างชื่อเสียงแก่กองทัพเรือ จำนวน 7 นาย ณ ห้องสุพรรณหงส์ อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร   

สำหรับกำลังพลทั้ง 7 นายที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย จากผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันทีซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมและได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือให้ปรากฏต่อสาธารณชน 

ทั้งนี้ 2 พลทหารแห่งกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที ได้แก่...

เรือตรี สุทิน นอบไทย และ พันจ่าเอก สุวิทย์ อ่อนอินทร์ กำลังพลจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน

โดยได้ให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวซึ่งเกิดอาการช็อก และล้มลงจนศีรษะฟาดพื้นหมดสติ บริเวณหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพีจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 โดยได้ทำการปฐมพยาบาลโดยวิธีช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน CPR จนมีสติฟื้นกลับมาและให้การช่วยเหลือจนกระทั่งรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลในพื้นที่มารับตัวเพื่อทำการรักษาได้อย่างปลอดภัย

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชม เรือตรี สุทิน นอบไทย และ พันจ่าเอก สุวิทย์ อ่อนอินทร์  กำลังพลจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ด้วยว่า การให้การช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงออกซึ่งความกล้าหาญ ไม่ลังเลที่จะเสียสละ เข้าช่วยเหลือ 

ถือเป็นบุคคลตัวอย่างของสังคม เป็นกำลังพลที่ทำให้กองทัพเรือเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการให้การช่วยเหลือประชาชน และการกำหนดให้กำลังพลทุกนายมีความรู้ในการปฐมพยาบาลโดยวิธีช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานหรือ CPR โดยสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีที่ประสบเหตุ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top