‘ประกาศิตพญามังกร’ จีนสั่งปิดธุรกิจฝากเงินออนไลน์ ดับฝัน ‘แจ็ค หม่า’ หลัง ‘ระงับไอพีโอแอนต์ กรุ๊ป’ ตัดรายได้หลักของอาลีเพย์และยักษ์ใหญ่อื่น ๆ ในดาบเดียว
หลังจากเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ‘แอนต์ กรุ๊ป’ เจ้าของแพลตฟอร์มการเงินออนไลน์อาลีเพย์ ได้ประกาศแผนการเข้าตลาดหุ้นทั้งตลาดเซี่ยงไฮ้และตลาดฮ่องกง โดยฝันหวานด้วยจิตใจที่พองโตว่าการเปิดขายหุ้นสาธารณะครั้งแรก (ไอพีโอ)นี้ จะระดมทุน 34,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หากการเข้าตลาดหุ้นเป็นไปอย่างราบรื่น อาลีเพย์จะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดกว่า 2 ล้านหยวน ทั้งแจ็ค หม่า ผู้บริหารใหญ่ในแอนต์คือ อีริค จิ่ง และลูซี่ เผิง ไปยันกลุ่มนักลงทุน ก็จะฟันกำไรก้อนโตกันหน้าบาน
แต่ทว่า ก่อนหน้าเพียงไม่กี่วันที่เจ้ามดน้อยอย่าง ‘แอนต์’ จะก้าวเท้าเข้าตลาดขายหุ้นไอพีโอในวันที่ 5 พ.ย. พญามังกรก็ร่อนลงมาสะบัดหางปัดมดกระเด็นออกจากตลาดไป นั่นคือ ‘คำสั่งระงับการเปิดขายไอพีโอ’ ต่อมาธนาคารประชาชนจีนซึ่งเป็นธนาคารกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานผู้คุมกฎภาคการเงินและการธนาคาร ก็ ‘นัดคุย’ กับแอนต์ กรุ๊ป
ระหว่างเกิดเรื่องเขย่าวงการหุ้นโลกนี้ อภิหมาเศรษฐีแจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กรุ๊ป และแอนต์ กรุ๊ป ก็หายตัวไปจากสาธารณะอย่างปริศนา ท่ามกลางกระแสลือว่าเขาถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดีคอรัปชั่น หม่าหายไปสองเดือนกว่า และเพิ่งปรากฏตัวในพิธีมอบรางวัลดีเด่นให้แก่กลุ่มครูชนบทซึ่งจัดผ่านวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา
ไม่กี่วันต่อมา กลุ่มสื่อจีนออกข่าว รองผู้ว่าแบงค์ชาติจีน นาย เฉิน อี่ว์ลู่ออกมาเปิดเผยว่า แอนต์ กรุ๊ปได้จัดตั้งกลุ่มทำงานดำเนินการปรับปรุงธุรกิจตามที่หน่วยงานผู้คุมกฎเรียกร้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้อาลีเพย์ได้ปิดธุรกิจที่ทำรายได้หลักไปตลอดกาล ทำให้ผู้ใช้นับร้อยล้านรายร้องกันระงม “เสียดายจัง...”
กลับมาที่เรื่อง ‘นัดคุย’ ก่อนสิ้นปีที่แล้ว แบงค์ชาติมังกรได้เรียก แจ็ก หม่าไปพบอีก ทั้งกลุ่มยักษ์ใหญ่แพลตฟอร์มการเงิน เทนเซนท์ ไฟแนนเชียล เทคโนโลยี (Tencent Financial Technology) ตงจิง ไฟแนนซ์ (Jingdong Finance) ก็ถูกเรียกไปคุยด้วยพร้อมหน้ากันเพื่อแจ้งกฎข้อบังคับใหม่และการปรับปรุงธุรกิจ
หลังการ ‘นัดคุย’ อาลีเพย์ ก็จัดแจงปิดกิจการฝากเงินออนไลน์ทั้งหมดเป็นรายแรก ตามด้วย เทนเซนท์, จิงตง (JD) เหมยถวน (Meituan)…
กฎข้อบังคับใหม่ของแบงค์ชาติมังกรประกาศิตให้ภาคธุรกิจฝากเงินออนไลน์ของอาลีเพย์และบริษัทรายใหญ่อื่นๆหายวับไปจากโลกออนไลน์แผ่นดินใหญ่อย่างชนิดไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกเลย คงเห็นภาพแล้วว่าธุรกิจที่ทำรายได้หลักของอาลีเพย์ และบรรดายักษ์ใหญ่อย่างเทนเซนท์ จิงตง ถูกแบงค์ชาติฟันฉับดาบเดียวร่วงหมดทั้งยวงในพริบตา
ทั้งนี้ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ภาคการเงินออนไลน์เบ่งบานสะพรั่งไปทั่วแผ่นดินจีนโดยมีอาลีเพย์เป็นผู้บุกเบิก จากนั้นเหล่ายักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตและอี-คอมเมิร์ซรายอื่นๆ ทั้ง เทนเซนท์ จิงตง เหมยถวน ก็โดดลงมาชิงส่วนแบ่งตลาดโดยออกแพลตฟอร์มการเงินออนไลน์ เทียบกับระบบฝากเงินแบบเก่าแล้วระบบการเงินออนไลน์รวดเร็วกว่าและบริการน่าประทับใจ ที่สำคัญคือดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่า
เฉพาะแพลตฟอร์มอาลีเพย์ มีผู้ใช้หลายร้อยล้านราย ผู้ใช้จำนวนไม่น้อยช้อปปิ้งผ่านระบบฝากเงินออนไลน์กันอย่างเมามัน การปิดธุรกิจฝากเงินออนไลน์อย่างสายฟ้าแลบเช่นนี้ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากได้แต่มองตาปริบๆด้วยความเสียดาย
ในด้านพญามังกรที่ออกโรงโดยธนาคารกลางนั้นมองว่าธุรกิจเงินฝากออนไลน์ของอาลีเพย์และยักษ์ใหญ่ไอทีรายอื่นๆ เปรียบดั่ง ‘การขับรถโดยไม่มีใบขับขี่’ และต้องจัดการให้เข้ามาอยู่ในอาณัติกำกับดูแลของผู้คุมกฎ เนื่องจากระบบฝากเงินออนไลน์มีความเสี่ยงใหญ่สองประการ
หนึ่งคือ ทำลายระเบียบการแข่งขันของตลาดฝากเงิน จากข้อมูลระบุว่าผู้ที่ทำธุรกิจฝากเงินออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดกลาง-ขนาดเล็กในท้องถิ่นและธนาคารเอกชน กลุ่มธนาคารเหล่านี้ไม่สามารถแข่งขันกับสี่ยักษ์ใหญ่ธนาคารพาณิชย์ของประเทศได้เลย ดังนั้นจึงใช้วิธีการ ‘ให้ดอกเบี้ยสูง’ และอื่นๆ ที่แหกกฎข้อบังคับ
สองคือ สร้างแรงกดดันให้กับการบริหารสภาพคล่องและต้นทุนหนี้สินของธนาคาร หากกลุ่มธนาคารในท้องถิ่นและธนาคารเอกชนเหล่านี้มีความสามารถในการจัดการสินทรัพย์และหนี้สินไม่เพียงพอ เมื่อต้องประสบกับสถานการณ์ที่กองทุนเงินฝากมหาศาลถั่งโถมเข้ามา จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท หากห่วงโซ่ทุนเกิดแตกขึ้นมา ผลกระทบที่ตามมาจะเลวร้ายมากอีกทั้งขยายวงกว้างขวาง
การปิดธุรกิจฝากเงินฯ ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากสูญเสียช่องทางจัดการทรัพย์สินที่สะดวกและรวดเร็วไป แต่ปกป้องทุนให้มีความปลอดภัยมากกว่า ระบบการเงินออนไลน์เป็นนวัตกรรมใหม่ การสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ดี แต่การควบคุมความเสี่ยงและเสถียรภาพสำคัญกว่า