(3 มี.ค. 68) “แสงและเงา” คือหัวใจของการถ่ายภาพ ศิลปินที่แท้จริงต้องความสามารถใช้แสงกับเงาเพื่อสร้างความลึกซึ้งให้กับเรื่องราว และถ้ามีใครสักคนที่สามารถดึงอารมณ์ออกมาผ่านแสงและเงาได้อย่างทรงพลัง ‘ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล’ ก็คือหนึ่งในนั้น
70 ปีบนเส้นทางศิลปะภาพถ่าย ชัยโรจน์ได้สร้างผลงานที่สะท้อนอารมณ์ ความรู้สึก และจิตวิญญาณของผู้คน ทว่าชื่อของเขาในฐานะผู้สร้างสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่ากลับเป็นที่รู้จักในระดับโลกมากกว่าประเทศบ้านเกิด วันนี้ถึงเวลาที่แสงของเขาจะต้องส่องมาถึงที่นี่ เพื่อให้วงการศิลปะไทยตระหนักถึงคุณค่าของชายผู้นี้ ในฐานะศิลปินผู้ควรค่าแก่การยกย่อง
จุดเริ่มต้นของเส้นทางสายเกียรติยศสายที่ 2
จากเด็กชายผู้หลงใหลในเงาสู่ศิลปินแห่งแสง ชัยโรจน์ เกิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2480 ในครอบครัวนักธุรกิจที่บุกเบิกวงการนาฬิกาไทย แต่แทนที่จะเติบโตมาพร้อมตัวเลขและกำไรเท่านั้น เขายังหลงใหลในภาพถ่าย ความอยากรู้อยากเห็นว่ากล้องจะสามารถ “หยุดเวลา” ได้จริงหรือไม่ ทำให้เขาหยิบกล้องฟิล์มตัวแรกขึ้นมา และนั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
“ภาพถ่ายไม่ใช่แค่การบันทึกความจริง แต่มันเป็นศิลปะ เป็นวิธีที่เราสามารถเล่าเรื่องราวโดยไม่ต้องพูด”
เส้นทางของเขายิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ London University สาขาวิศวกรรมศาสตร์ พร้อมทั้งเรียนศิลปะการถ่ายภาพที่ Saint Martin’ s School of Art ที่อังกฤษ ที่นั่นเขาได้ฝึกฝนการใช้กล้อง ตั้งแต่วิวทิวทัศน์ใน Hyde Park ไปจนถึงภาพถ่ายบุคคลที่สะท้อนอารมณ์ลึกซึ้ง และถ่ายทอดมันด้วยหัวใจ และนี่คือจุดสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็นศิลปิน
เส้นทางสู่ช่างภาพระดับโลก เมื่อเงาใหญ่กว่าชื่อเสียงในบ้านเกิด
หลังได้ศึกษาและฝึกฝนการถ่ายภาพอย่างจริงจัง กระทั่งรังสรรค์ผลงานอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เรียกว่า Pictorial Art หรือ “ศิลปะเชิงภาพ” ด้วยเทคนิคการถ่ายภาพที่ผสมผสานความคลาสสิกและความร่วมสมัย การใช้แสงและเงาสร้างมิติของภาพให้ดูเหมือนจิตรกรรม เทคนิคนี้ทำให้ภาพของเขามีความนุ่มนวล ทรงพลัง และสามารถเล่าเรื่องราวโดยไม่ต้องพึ่งพาคำบรรยาย กลายเป็นผลงานที่มีความโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศ โดยเฉพาะในระดับสากล
ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล ได้สร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายอันทรงคุณค่ามากมาย ทั้งภาพถ่ายบุคคล วิถีชีวิต ภาพทิวทัศน์ และวัฒนธรรม ผลงานของเขาได้รับการจัดแสดงในนิทรรศการทั้งในประเทศและต่างประเทศ และได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลก อาทิ
รางวัลถ้วยพระราชทานชนะเลิศประเภทภาพถ่ายดิจิทัล จากการแข่งขันถ่ายภาพทั่วประเทศ ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2543
.
รางวัลดาว 5 ดวง จากสมาคมถ่ายภาพแห่งอเมริกา (P.S.A.) ในปี พ.ศ. 2552
ติดอันดับ World Top Ten หลายครั้ง
โดยผลงานของเขาได้รับการยอมรับจากเวทีระดับโลกเป็นครั้งแรกเมื่อเขาส่งภาพเข้าประกวดใน PSA Gold Medal ซึ่งทำให้เขากลายเป็นศิลปินไทยที่วงการศิลปะภาพถ่ายทั่วโลกจับตามอง หลังจากนั้นรางวัลและเกียรติยศก็ทยอยเข้ามาไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็น FIAP Gold Medal (ฝรั่งเศส) , Tokyo International Photography Awards และ Grand Award จาก Asia Photo Awards
“เวลาผมไปต่างประเทศ นักวิจารณ์ศิลปะพูดถึงงานของผมในเชิงปรัชญา พวกเขาบอกว่าผมสามารถใช้แสงและเงาเล่าเรื่องราวได้ลึกซึ้ง แต่ในไทยกลับมีคนรู้จักผมน้อยกว่าที่ควรจะเป็น”
Pictorial Art – ศิลปะผ่านเลนส์
แสงสะท้อนชีวิต และเงาที่ซ่อนเรื่องราว
ชัยโรจน์ ไม่ได้ถ่ายภาพเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เขาใช้มันเป็นเครื่องมือสื่อสารทางศิลปะ ผลงานของเขามักสะท้อนถึงชีวิต ความเป็นมนุษย์ และอารมณ์ที่ไม่สามารถถ่ายทอดเป็นคำพูดได้ “ผมไม่ต้องการให้คนแค่ดูภาพของผม ผมต้องการให้พวกเขารู้สึกถึงมัน”
หนึ่งในผู้ที่ให้ความสำคัญกับงานของ ชัยโรจน์ มากที่สุด คือ เกรซ มหาดำรงค์กุล ลูกสาวของเขา ในปี 2565 เธอได้จัดนิทรรศการ “ย้อนเวลาผ่านเลนส์” เพื่อให้คนไทยได้รู้จักและเข้าใจในคุณค่าของศิลปะของบิดา ซึ่งไม่เพียงเป็นการแสดงภาพถ่าย แต่เป็นการส่งเสียงให้วงการศิลปะไทยตระหนักถึงคุณค่าของ ชัยโรจน์
“ผลงานของคุณพ่อไม่ใช่แค่ภาพถ่าย แต่เป็นบันทึกของยุคสมัยเป็นศิลปะที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น” เกรซกล่าวในวันเปิดนิทรรศการ
อย่าปล่อยให้เงากลืนกินชื่อ ชัยโรจน์
ส่องแสงมาเพื่อให้ “โลกจารึก”
ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล คือศิลปินที่ใช้แสงและเงาเป็นภาษาของเขา ส่งผ่านให้มันคงอยู่ตลอดกาลผ่านงานศิลปะ สร้างผลงานที่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศมากมาย แต่กลับไม่เป็นที่จดจำในประเทศไทยเท่าที่ควร กระทั่งมีความพยายามให้เขาได้รับการเสนอชื่อเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่าย) ซึ่งเป็นสิ่งที่สมควรเกิดขึ้นนานแล้ว
70 ปีบนเส้นทางศิลปะ ผลงานของเขาได้รับการยกย่องมากมาย สร้างคุณูปการต่อวงการศิลปะภาพถ่ายมาอย่างยาวนาน การได้รับเสนอชื่อเป็นศิลปินแห่งชาติ จึงไม่ใช่เพียงแค่รางวัลสำหรับตัวเขา แต่เป็นรางวัลสำหรับวงการศิลปะไทย ที่ควรให้เกียรติผู้สร้างสรรค์งานระดับโลก
“ภาพถ่ายที่ดีไม่ได้หยุดเวลา แต่มันทำให้เราหวนคิดถึงความหมายของมันตลอดไป”
อย่าปล่อยให้เงากลืนกินชื่อของเขา แต่ควรส่องแสงมาเพื่อให้โลกจารึก “ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล” ไม่ใช่เพียงศิลปินแห่งภาพถ่าย แต่คือศิลปินแห่งประวัติศาสตร์ไทย ที่ควรได้รับการจารึกชื่ออย่างสมเกียรติ