(18 ก.พ.68) เพจ ‘ชมรมพนักงานกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดระยอง’ โพสต์กรณี พยาบาลถูกญาติคนไข้ทำร้าย โดยโพสต์แรกเป็นข้อความระบุว่า ญาติคนไข้ตบพยาบาลศูนย์ แต่ฝ่ายกฎหมายของโรงพยาบาลกลับพยายามไกล่เกลี่ย และไม่ให้วงจรปิด เพื่อที่จะเป็นหลักฐานดำเนินคดี จริงหรือไม่ ความปลอดภัยของบุคลากรอยู่ที่ใด
โพสต์ต่อมา ระบุว่า เหตุบุคลากรของโรงพยาบาลในจังหวัดระยอง ถูกญาติคนไข้ทำร้ายร่างกาย ด้วยการตบหน้า เพราะไม่พอใจที่ถูกเตือน ถือเป็นภัยคุกคามอย่างรุนแรง และไม่ควรจะเกิด ทางชมรมจึงขอประณามการกระทำดังกล่าว และขอให้สำนักงานข่าวช่วยให้ความเป็นธรรม กับบุคลากรรายนี้ด้วย เพราะทราบมาว่า หน่วยงานต้นสังกัด ไม่ให้ความร่วมมือในการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ว่า เหตุที่เกิดขึ้น เพราะพยาบาลให้คำแนะนำว่า ไม่ควรเอาเด็กเข้ามา ภรรยาออกไปบอกสามี สามีเดินเข้ามาเคาน์เตอร์ ทำการตบเจ้าหน้าที่ มีกฎหมายไม่ยอมความมากกว่านี้ไหม ขอทนายด่วน ช่วยแชร์หน่อยค่ำ
ต่อมา โพสต์ที่ 3 ระบุว่า เหตุทำร้ายร่างกายตบหน้าพยาบาล ฝ่ายกฎหมายโรงพยาบาลได้มอบคลิปหลักฐานถึงมือตำรวจแล้ว พบว่า ตบไปถึงสองครั้ง จนผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ ผู้ก่อเหตุกล่าวทิ้งท้ายเป็นนัยยะว่า "พลาดที่ทำในเวลาทำการ" ส่วนกระแสข่าวว่าทางโรงพยาบาล ไม่อยากให้ผู้เสียหายเอาความนั้น ไม่เป็นความจริง ทางผู้อำนวยการยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว ได้โพสต์ “ขอบคุณทุกคนค่ะ รพ. เจ้าหน้าที่ รพ. พลังโซเชียล ทางครอบครัวขอไปต่อค่ะ ดำเนินคดีโดยนิติกร รพ.และท่าน ผอ.ก็ช่วยค่ะ ไม่ยอมความและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด”
“กรณีโดนญาติคนไข้ตบหน้า ขอทนายฝีมือเก่งๆหน่อยค่ะ เหตุเพราะให้คำแนะนำว่าไม่ควรเอาเด็กเข้ามา ภรรยาออกไปบอกสามี สามีเดินเข้ามาเคาน์เตอร์ทำการตบเจ้าหน้าที่ มีกฎหมายไม่ยอมความมากกว่านี้ไหม ขอทนายด่วน ช่วยแชร์หน่อยค่ะ ณ สถานีตำรวจทิ้งท้ายที่ว่า พลาดที่ทำในเวลาทำการ ประโยคแบบนี้คือการข่มขู่ไหมคะ จะเอาให้ถึงที่สุดดดด คลิปถึงสถานีตำรวจหล่ะค่ะ
ขอบคุณทุกคนค่ะ รพ เจ้าหน้าที่รพ. พลังโซเชียล ทางครอบครัวขอไปต่อค่ะ ดำเนินคดีโดยนิติกร รพ.และท่าน ผอ.ก็ช่วยค่ะ ไม่ยอมความและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด”
ขณะที่เพจ Drama-addict ได้โพสต์ข้อความที่ระบุว่า เป็นฝั่งญาติคนไข้ ที่ออกมาชี้แจงว่า ครอบครัวมีกัน 6 คน พ่อ แม่ ลูก 3 คน และคุณยาย น้องทั้ง 3 คนไปโรงเรียนและติดไข้หวัดสายพันธุ์ A กันมาแล้ว โดยคุณยายเป็นคนดูแลน้องเลยติดไข้มา เช้าวันเสาร์คุณยายมีอาการไข้ พาไปหาหมอโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ยากลับมากิน เช้าวันอาทิตย์ มีอาการช็อกหายใจไม่ออก เลยส่งโรงพยาบาลใกล้บ้าน โรงพยาบาลเลยส่งต่อมาโรงพยาบาลใหญ่ เพราะไวรัสลงปอดทั้งสองข้างแล้ว มันเร็วมากจนตั้งตัวไม่ติด
ช่วงบ่ายคุณหมอโทรมาบอกว่า คุณแม่อาการหนัก ให้สแตนด์บายรอที่ รพ. ลูกสาวเลยโทรบอกสามีให้มาอยู่ด้วย ก็ต้องเอาลูกมาด้วยอยู่แล้ว เพราะไม่มีคนเลี้ยง พอถึงเวลาเข้าเยี่ยม สามีก็เลยพาหลานรักยายเข้า 1 คน เผื่อถ้าคุณยายเห็นจะได้มีกำลังใจสู้ เจอพี่พยาบาลคนที่ 1 เค้าก็พูดจาน่ารัก บอกเด็กเข้ามาอันตรายนะคะ พ่อเค้าเลยบอกว่า ยายติดจากเด็กครับ เด็กเพิ่งหาย มาให้ยายเห็นหน้าหน่อย ยายจะได้สู้ ๆ พี่พยาบาลคนเดิมบอกว่า ได้ ๆ แต่คนไข้เช็ดตัวอยู่ ค่อยเข้ามาใหม่นะ ก็เดินออกไปจากห้อง
รอบใหม่ ลูกสาวบอกเดี๋ยวพาน้องไปดูแม่เอง (เพราะสามีต้องเฝ้าลูกอีก 2 คน ที่ต้องหอบมาด้วย) ลูกสาวก็พาน้องเข้าไป พยาบาลที่เช็ดตัวยายอยู่ เดินออกมาจากห้อง ปิดประตูดัง ดึงแมสลงจากปาก ชักสีหน้าแล้วพูดเสียงดังแบบตะคอก ว่า สูญเสียแม่อีกคนยังไม่พอ อยากจะสูญเสียลูกอีกคน ยอมรับได้ใช้ไหม พาเด็กออกไปเดี๋ยวนี้
ลูกสาวก็ตกใจ พูดแต่ว่า โอเคได้ค่ะ แล้วเดินออกไป ยังไม่ทันได้ดูแม่เลย พอออกไปข้างนอก ก็บอกสามีว่า เธอเข้าไปดูแม่คนเดียวเลย เดี๋ยวพาลูกลงไปรอข้างล่าง โดนพี่เค้าว่ามา แล้วลูกก็เล่าพ่อเค้าว่า ปาป๊า พยาบาลด่าหนู แล้วพี่เค้าก็ไม่ขอโทษหนูเลย เค้าตะคอกใส่หนู พร้อมพ่อถามด่าเรื่องอะไรลูก เมียเลยเล่า แล้วร้องไห้หนักมาก ไม่ได้ร้องไห้เพราะโดนด่ามา แต่งงว่า สรุปแม่ตายแล้วเหรอ คือแม่จะไม่รอดเหรอ มันรวดเร็วไปหมดในความรู้สึกนั้นมาก สามีเค้าเลยโมโห แต่เข้าไปแล้วดูแม่ยาย ก็พยายามอดทนคำพูดที่ได้ยินมา แต่ไม่ไหวจริง ๆ เลยถามเมื่อกี้ใครด่าลูกเมียผม และตบที่หน้าไป 2 ครั้ง ก็สอนไปว่าเวลาพูดกับใครก็ให้รู้จักให้เกียรติคนไข้และญาติคนไข้บ้าง ทำร้ายความรู้สึกกันทำไม คุณเป็นพยาบาล ไม่มีจรรยาบรรณบ้างเหรอ แล้วก็เดินมาบอกเมียว่า เดี๋ยวรอพบตำรวจ และก็ยอมรับกับตำรวจว่า ทำจริงครับ ผมบันดาลโทสะ ไปจริง ๆ ทางครอบครัวเราไม่ได้สนับสนุนความรุนแรง และยอมรับว่าทำจริง จากการบันดาลโทสะ และถ้าทางคู่กรณีจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดก็ยินดีน้อมรับ
ทีมข่าวสอบถามไปที่ผู้โพสต์ ซึ่งเป็นญาติของพยาบาลที่ถูกทำร้าย โดยการคุยทาง Inbox บอกว่า ได้นำคลิปไปยื่นที่สถานีตำรวจแล้ว และตอนที่ถูกทำร้าย รุนแรงจนเซ ญาติคนอื่นเห็น คนไข้ที่นอนใส่ท่อเห็น ส่วนน้องสาว หลังถูกทำร้ายก็ยังมีอาการปวดกกหู เวียนหัวไม่หาย รวมถึงปวดที่ต้นคอด้วย ยืนยันว่าจะเอาเรื่องผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด หาก รพ.พร้อม พวกหนูก็พร้อม กลัวเรื่องจะเงียบ และกลัวว่าน้องจะถูกรังแกอีก