Wednesday, 4 December 2024
TODAY SPECIAL

16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 ‘ในหลวงรัชกาลที่ 9’ ทรงได้รับการทูลเกล้า ฯ ถวายเหรียญทอง จากการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ในการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4

สำหรับวันนี้ในแวดวงกีฬาของประเทศไทยแล้ว ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็น ‘วันกีฬาแห่งชาติ’ แต่ที่มาของวันพิเศษวันนี้ คงต้องย้อนกลับไปสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2510 หรือเมื่อกว่า 53 ปีมาแล้ว

 

วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นตัวแทนของนักกีฬาทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 (หรือชื่อในปัจจุบันคือ กีฬาซีเกมส์) ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ โดยทรงชนะเลิศได้รับเหรียญทองในการแข่งขันเรือใบประเภท โอ.เค. ร่วมกับทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ซึ่งนับเป็นหน้าประวัติศาสตร์ทางการกีฬาอันสำคัญยิ่งของประเทศไทย

 

กล่าวถึงเรือใบที่ทรงใช้แข่งขันในครั้งนั้น เป็นเรือใบที่ทรงต่อขึ้นเอง พระราชทานชื่อว่า ‘นวฤกษ์’ โดยส่วนพระองค์ทรงโปรดการเล่นเรือใบ และกีฬาประเภทอื่นๆ อีกหลายชนิด อาทิ สกี แบดมินตัน เทนนิส รวมทั้งยังทรงให้ความสำคัญต่อการซ้อมและการมีวินัยเป็นอย่างมาก

 

เพื่อเป็นการระลึกถึงพระปรีชาสามารถ ที่ทรงเป็นนักกีฬาตัวแทนของชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 และเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนชาวไทยเห็นคุณค่าความสำคัญของการกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย จึงได้มีมตินำเสนอคณะรัฐมนตรีลงความเห็นชอบ เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2529 กำหนดให้วันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวัน "วันกีฬาแห่งชาติ" นับแต่นั้นเป็นต้นมา

 

การเล่นกีฬานอกจากให้ทำให้สุขภาพแข็งแรง ยังฝึกให้มีระเบียบ วินัย ตลอดจนมีความวิริยะ อดทน เพราะการหมั่นฝึกซ้อมด้วยความอดทน จะนำชัยชนะมาครองได้ในท้ายที่สุด

 

 

15 ธันวาคม...วันชาสากล วันที่ชวนทุกคนมาดื่มชา พร้อมกันนี้ยังเป็นวันที่รณรงค์ให้ตั้งราคา สินค้าใบชาอย่างเป็นธรรม

เครื่องดื่มกลิ่นหอมๆ ของคุณในตอนเช้าๆ คืออะไรกันครับ? กาแฟ? หรือว่าชา? ถ้าในถ้วยที่กำลังถืออยู่ เป็นชาร้อนหอมๆ บอกเลยว่า วันนี้ ‘ชาอร่อยเป็นพิเศษ’ อย่างแน่นอน

เพราะวันนี้ ถูกยกให้เป็น ‘วันชาสากล’ (International Tea Day) วันนี้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงปี พ.ศ. 2548 จุดเริ่มต้นมาจากเกษตรกรผู้ปลูกชากลุ่มเล็ก ๆ ในเบงกอลตะวันตก และหลายรัฐทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องถึงสิทธิและความชอบธรรมในการค้าชาของตน โดยในช่วงนั้น แม้ว่าชาจะเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่มีการปลูกอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ แต่อุตสาหกรรมค้าชาในประเทศอินเดียกลับมีความอ่อนแอและบริหารจัดการได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ เกษตรกรผู้ปลูกชากลุ่มเล็ก ๆ จึงได้นำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการปลูก ทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตดีขึ้น และได้ชาที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน

ทว่าเมื่อชาดี แต่เกษตรกรกลับไม่ได้รับความเป็นธรรมในการค้าขาย พวกเขาถูกเอารัดเอาเปรียบและถูกกดราคา กระทั่งองค์กรเพื่อการสื่อสารและการศึกษาของประเทศอินเดีย (CEC – Centre for Communication and Education) ซึ่งเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือสิทธิของเกษตรกรและผู้ผลิตรายย่อยในประเทศ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยได้รับความร่วมมือกับองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติด้วยอีกทาง ในที่สุดจึงสามารถเข้ามาพัฒนาและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ค้าชากลุ่มย่อย ๆ ให้ได้รับความเป็นธรรมในการค้าชาและทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น 

ชาจึงได้ถูกพัฒนาให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ รวมทั้งได้มีการจัดตั้งให้วันที่ 15 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันชาสากล เพื่อระลึกถึงคุณประโยชน์ของชาและตระหนักถึงความสำคัญของเหล่าเกษตรกรตัวเล็ก ๆ ผู้ปลูกพืชซึ่งกลายเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณค่าชนิดนี้

อ่านถึงตรงนี้ ใครที่มีถ้วยชาอยู่ในมือ โปรดยกขึ้นจิบให้สมกับคุณค่าของมัน หรือหากใครที่อยากจิบชาเพื่อสร้างบรรยากาศดีๆ บ่ายๆ นี้ลองจัดสักแก้วหนึ่ง ฉลองให้กับวันชาสากลกันนะครับ Cheers!


อ้างอิงข้อมูล : teadayblog

14 ธันวาคม วันเจ้าจ๋อเจี๊ยก ๆ

เช้าวันนี้ ส่งภาพเจ้าจ๋อฉีกยิ้มฟันขาวมาให้ชมกัน ขอให้เริ่มต้นวันทำงาน หรือวันเรียนแบบสบายๆ กันนะครับ แต่จริงๆ แล้ว วันนี้ก็เป็นวันสำคัญของเจ้าจ๋อเช่นกัน เนื่องจากวันนี้ทั่วโลกต่างยกให้เป็น ‘วันแห่งลิง’ (Monkey Day)

วันแห่งลิงถูกริเริ่มขึ้นมาโดยศิลปินคนหนึ่งชื่อว่า เคซี ซอร์โรว์  เขาได้เขียนคำว่า "Monkey Day" ลงบนวันที่ 14 ธันวาคมในปฏิทินของเพื่อนคนหนึ่ง และหลังจากนั้น ในช่วงปี ค.ศ. 2000 ก็ได้ยกให้วันที่ 14 ธันวาคมของทุกปี กลายเป็นวันแห่งลิง หรือ World Monkey Day

เหตุที่ต้องให้ความสำคัญจนมีวันของเจ้าจ๋อ เนื่องจาก ‘ลิง’ ถือเป็นสัตว์ที่มีความฉลาด มีมันสมอง และมีความใกล้เคียงกับมนุษย์อย่างเราเอามากๆ แต่ปัจจุบัน มีข่าวคราวร้ายๆ ที่เกิดกับลิงอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการถูกทรมาน การถูกรุกรานพื้นที่ วันนี้จึงเป็นวันที่ต้องการให้ผู้คนได้ตระหนักถึงลิง หนึ่งในสัตว์โลกที่มีการสืบทอดสายพันธุ์กันมายาวนาน และเป็นเพื่อนร่วมโลกกับเรามายาวนานด้วยเช่นกัน

ไหนๆ วันนี้ก็เป็นวันเจ้าจ๋อแล้ว เห็นรูปนี้แล้วก็ส่งยิ้มกลับให้มันสักหน่อยแล้วกันนะครับ 1…2…3 Smileeee!

 

วิเคราะห์ศึกผ่าเมือง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้" ใครจะเป็นผู้ชนะ?

โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้ง กับศึกผ่าเมืองแมนเชสเตอร์ ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ งานนี้สนุกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ผลสกอร์ออกหน้าไหนก็เป็นไปได้หมด

ภาพรวมของทั้งสองทีมช่วงนี้ นิยามเบา ๆ ได้ว่า "ทรง ๆ" ขยายความต่อมาคือ กำลังหาทรงอยู่นั่นเอง ผ่าม!! ไม่ช่าย ทรง ๆ คือ ฟอร์มไม่ถึงกับดีมากมาย แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก โดยเฉพาะผีแดง - แมนฯ ยูฯ  ทำผลงาน 5 นัดในลีกหลังสุด ชนะ 4 แพ้ 1 อยู่อันดับ 7 ส่วนแมนฯ ซิตี้ หายใจรดต้นคอมาติดๆ อยู่อันดับ 8 ผลงาน 5 นัดหลังสุด ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 

อย่างที่บอกไปว่า ทรง ๆ กันทั้งคู่ ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ฤดูกาลนี้ยังไม่ลงตัวสักที ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเต็งลุ้นแชมป์ แต่ภาพรวมกว่า 10 เกม ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา ก็ยังไม่แจ่มนัก โดยเฉพาะแผงกลางไปถึงหลัง ไม่ลงตัวเหมือนเที่คยเป็นมา 

ส่วนปีศาจแดง ในการทำทีมของน้าโอเล่ - โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เพิ่งพาแมนฯ ยูฯ ตกรอบแบ่งกลุ่มในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาหมาดๆ โดยมิตรรักสหายผีแดงวิจารณ์ซะเละเทะ แต่ภาพรวมในลีกก็ยังพอรับได้ ค่อยๆ เก็บคะแนนไล่ตามจ่าฝูงอย่างสเปอร์ตอนนี้เหลือแค่ 5 แต้ม แถมยังมีนัดตกค้างเหลืออีก 1 นัด

ฉะนั้น นัดนี้ที่ปีศาจแดงได้เล่นในบ้าน ยังไงน้าโอเล่ต้องเน้นกับลูกทีมสุด ๆ เพราะถ้าชนะ นั่นหมายถึง คะแนนจากอันดับ 7 อาจกระโดดข้ามขึ้นไปอีก ซึ่งปีนี้แต่ละทีมคะแนนไล่เบียดคู่คี่กันมาก 

ตามสถิติทั้งสองทีมพบกันมากว่า 159 นัด โดยเป็นแมนฯ ยูฯ ที่เอาชนะไปได้ 64 ครั้ง แมนฯ ซิตี้ ชนะไป 48 ครั้ง และออกผลเสมอกัน 47 ครั้ง ผลงานเจอกัน 6 นัดหลังสุดก็คู่คี่พอ ๆ กัน โดยทั้งสองทีมสามารถเอาชนะกันไป 3 ครั้งเท่า ๆ กัน แต่กับฤดูกาลล่าสุดที่ผ่านมา แมนฯ ยูฯ ดูจะทำผลงานได้ดีกว่าซิตี้นิดๆ สามารถเอาชนะได้ทั้งแมทซ์เหย้าและเยือน

ผลที่น่าจะเป็นของคู่นี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะออกเสมอกัน แบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น แต่หากจะมองว่าทีมใดที่มีโอกาสคว้า 3 แต้มมากกว่า ด้วยความสม่ำเสมอในฟอร์มการเล่นของแมนฯ ซิตี้ ยังเหนือกว่าแมนฯ ยูฯ ในเวลานี้ ถ้าจะหาผู้ชนะในเกมนี้ ก็คงต้องเลือกจิ้มไปที่ทีมเรือใบสีฟ้า แมนฯ ซิตี้ นี่เอง 

ส่วนสกอร์ของคู่นี้ ตามสถิติที่เคยเป็นมา ถ้าไม่ยิงกันเยอะ ก็ไม่ยิงกันเลย แต่เชื่อว่านัดนี้น่าจะสกอร์เกิน 2 ลูกแน่นอน และน่าจะเป็นเกมที่สนุก เปิดหน้าเล่นเกมบุกใส่กัน เพราะอย่างที่บอก ผู้ชนะได้ 3 แต้ม มีผลต่ออันดับที่จะกระโดดขึ้นไปอย่างแน่นอน 

เพราะฉะนั้น คืนนี้เวลา 00.30 น. หรือเที่ยงคืนครึ่ง ตามเวลาในประเทศไทย จะรักผี หรือเชียร์เรือใบ หรือจะแช่งทั้งคู่ ก็ไม่ควรพลาดแมทซ์ 5 ดาวนี้ด้วยประการทั้งปวง ง่วงยังไงก็ต้องเจอกันนะ ปู๊น ๆ

 

12 ธันวาคม พ.ศ. 2533 วันเกิดครบรอบ 30 ปี "ซึงรี" อดีตสมาชิก BIGBANG

วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของ "ซึงรี" หรือ "อีซึงฮยอน" อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์เกาหลีใต้ชื่อดังอย่าง BIGBANG แถมเขายังเป็นสมาชิกที่มีอายุน้อยที่สุดของวงอีกด้วย สำหรับแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานของ BIGBANG จะทราบดีว่า ซึงรีมีความโดดเด่นในเรื่องการเต้น ซึ่งก่อนหน้าที่เขาจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ BIGBANG ซึงรีเคยเป็นหัวหน้าและสมาชิกเต้นในวงที่ชื่อ II Hwa มาก่อน 

ซึงรี และ BIGBANG เปิดตัวผลงานของพวกเขาในช่วงราวปี ค.ศ. 2006 และหลังจากนั้น พวกเขาาก็โด่งดังแบบเปรี้ยงปร้าง ไม่ใช่แค่เฉพาะในเกาหลีใต้ แต่ดังไกลไปทั่วโลก จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "Revolutionary Group of Hallyu Wave"

แต่แล้วเมื่อปี ค.ศ. 2019 ซึงรีก็ทำให้แฟน ๆ ของเขาต้องช็อก เมื่อมีออกมาว่า เขามีส่วนพัวพันกับการค้าประเวณี จัดหาหญิงสาวให้นักธุรกิจต่างชาติ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด โดยมีธุรกิจผับ Buning Sun ซึ่งเจ้าตัวมีหุ้นส่วนอยู่เป็นฉากหน้า รวมไปถึงการมีชื่ออยู่ในกรุ๊ปแชตสุดฉาว ก่อนจะถูกจับกุมในเวลาต่อมา 

ภายหลังที่ตกเป็นข่าวครึกโครม ซึงรีได้ประกาศถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกวง BIGBANG และต้องต่อสู้กับคดีความอีกมากมายที่ดาหน้าเข้ามา กระทั่งเมื่อช่วงต้นปี 2020 หลังจากเคลียร์คดีความต่าง ๆ ให้จบลง ซึงรีก็เข้าสู่กรมทหาร เพื่อเข้ารับการฝึกการเป็นทหาร แม้ความเป็นซูเปอร์สตาร์ของเขาจะจบลงไปแล้ว แต่เจ้าตัวก็ได้ชื่อว่า เป็นศิลปินที่สร้างความเปลี่ยนแปลงและความยิ่งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ได้ในช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว

วันนี้ครบรอบอายุ 30 ปี ไม่ว่าแฟน ๆ จะยังรัก หรือจะชิงชังในข่าวคราวของเขา อย่างไรก็ต้องขอกล่าวคำว่า แฮปปี้เบิรธ์เดย์ ทู ซึงรี!!

 

11 ธันวาคม วันภูเขาสากล

‘ภูเขา’ นับเป็นแหล่งของสิ่งมีชีวิตที่ทำให้เกิดการผลิดอกออกผล รวมถึงเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลากหลายสายทั่วโลก เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่อยู่คู่กับมนุษยชาติเสมอมา เป็นเหตุให้ในปีพ.ศ. 2548 ณ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ได้มีการตกลงร่วมกัน โดยกำหนดให้ วันที่ 11 ธันวาคมของทุกปี ถือเป็น ‘วันภูเขาสากล’ (International Mountain Day)

 

ในวันนี้จะเป็นวันที่เราได้รำลึกและให้ความสำคัญกับ ‘ภูเขา’ ลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหล่งให้กำเนิดต้นน้ำ ต้นไม้ และธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นการให้ความสำคัญกับประเพณีและวัฒนธรรมของชาวเขาทั่วโลก เนื่องจากเป็นชุมชนดั้งเดิมที่ยังคงรักษารากแห่งวัฒนธรรมอันเก่าแก่ไว้ได้อย่างยาวนาน

 

วันภูเขาสากลในวันนี้ จึงไม่ใช่แค่การรำลึกเพียงแค่ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ แต่ยังสะท้อนถึงการคงไว้ซึ่ง ‘วิถีอันเก่าแก่’ ของผู้คนกลุ่มหนึ่งของโลก ไม่ว่าโลกจะหมุนไปด้วยความรวดเร็วแค่ไหน แต่วิถีชีวิตบางหนบางแห่ง ก็ยังคงดำเนินต่อไป และยังคงตั้งอยู่ในความงดงามของตัวเอง

วิชาเกษตร 101

วิชาเกษตร 101

 

ไม่ใช่วิชาการเมืองนะคะนักเรียน โปรดอย่าเข้าใจอะไรผิดๆ คาบนี้เป็นวิชาการเกษตร 101 เหตุที่ต้องเปิดคอร์สสอนวิชานี้ เพราะช่วงนี้เห็นอุปกรณ์ทางการเกษตรไปอยู่ผิดที่ผิดทาง แห่ะๆ คุณครูก็เลยต้องนำเจ้าอุปกรณ์เหล่านั้นมาแนะนำแก่นักเรียน ตกลงมันใช้อะไรยังไง เน๊อะ!

 

อ๊ะ! ไหนๆ ก็เป็นช่วงปลายปี อากาศมันก็จะดีๆ หน่อย ลองเรียนรู้อุปกรณ์ทางเกษตรเหล่านี้จากคุณครู จากนั้นถ้าคิดจะปลูกผัก ปลูกต้นไม้ ดายหญ้า ลงปุ๋ย พรวนดิน ก็ทำได้ตามสบายเลยนะนักเรียน แต่จุดนี้ขอติงนิดนึง เมื่อรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ก็จงใช้สิ่งของนั้นๆ ให้ถูกหน้าที่ของมันนะจ้ะ

 

เริ่มเรียนตามแผนภูมิภาพนี้นะจ้ะ...

10 ธันวาคม...วันรัฐธรรมนูญ

วันนี้เมื่อ 88 ปีก่อน เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 แห่งราชวงศ์จักรี ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรสยาม ฉบับถาวร เพื่อเป็นหลักในการปกครองของประเทศ ให้แก่ประชาชนชาวไทย ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต

 

รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ เป็นเครื่องกำหนดระเบียบแบบแผนของสังคม เพื่อเป็นการระลึกถึงรัฐธรรมนูญฉบับแรก อันเป็นฉบับถาวร และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานให้กับปวงชนชาวไทย ทางราชการจึงกำหนดให้ วันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับที่ใช้อยู่ปัจจุบัน เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประจำพุทธศักราช 2560 (6 เมษายน 2560 – ปัจจุบัน)

ส่องคำขวัญวันเด็กและลายมือของ "นายกฯ ลุงตู่"

นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่งมอบคำขวัญ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ซึ่งตรงกับวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2564 มีประโยคว่า "เด็กไทยวิถีใหม่ รวมไทยสร้างชาติ ด้วยภักดีมีคุณธรรม"

สำหรับคำขวัญปีล่าสุดนี้ ถือเป็นการมอบคำขวัญครั้งที่ 7 ที่ "นายกฯ ลุงตู่" ได้มอบให้กับเด็กไทย โดย 6 ครั้งก่อนหน้านี้ มีประโยคและการสื่อความหมายที่แตกต่างกันออกไป เรามาย้อนให้อ่านกัน พร้อมเทคนิคการตั้งคำขวัญ ดังนี้...

ปี พ.ศ. 2563 "เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย"

ปี พ.ศ. 2562 "เด็ก เยาวชน จิตอาสา ร่วมพัฒนาชาติ"

ปี พ.ศ. 2561 "รู้คิด รู้เท่าทัน รู้สร้างสรรค์เทคโนโลยี" 

ปี พ.ศ. 2560 "เด็กไทยใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง"

ปี พ.ศ. 2559 "เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต"

ปี พ.ศ. 2558 "ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต"

จะสังเกตได้ว่า คำขวัญของ "นายกฯ ลุงตู่" จะมีคำว่า "เด็ก" ขึ้นต้นเสียเป็นส่วนใหญ่ และมีคำว่า "อนาคต" ผสมผสานอยู่ในคำขวัญอีกด้วย และในระยะ 3-4 ปีให้หลัง คำขวัญจะเน้นย้ำในเรื่องเทคโนโลยี ยุคใหม่ แต่ทั้งหมดทั้งมวล คือต้องรู้หน้าที่ และมีความสามัคคี สร้างชาติ

ส่วนลายมือของนายกฯ ลุงตู่ ค่อนข้างอ้วน ตัวใหญ่ แต่อ่านไม่ยาก มีหางยาวฉวัดเฉวียน ดูสวยงาม (จบการรายงาน...นะจ้ะเด็ก ๆ)

 

 

วัคซีนต้านโควิด - 19 เริ่มออกปฏิบัติการแล้วจ้า!

เมื่อวานผู้คนทั้งโลกต่างพากันจับจ้องไปยังข่าวการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 โดสแรกของ "มาร์กาเรต คีแนน" คุณยายชาวอังกฤษวัย 90 ปี ซึ่งการฉีดวัคซีนครั้งนี้ เป็นไปตามเจตนารมย์ของประเทศในเครือสหราชอาณาจักร ที่ต้องการจะเริ่มการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นแนวหน้าในการรักษาผู้ป่วยโควิด - 19

ถึงตรงนี้ เริ่มเป็นสัญญาณที่ดี ที่การเดินหน้าการผลิตวัคซีนจากบริษัทต่าง ๆ เริ่มมีประสิทธิผล พร้อมทั้งถูกนำมาใช้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น หลังจากที่เป็นเพียงแค่ข่าวคราวมาได้ระยะใหญ่ คาดว่าหลังจากกลางเดือนธันวาคมนี้ เลยข้ามไปจนถึงกลางปีหน้า การอนุมัติการสั่งซื้อวัคซีนต่าง ๆ รวมไปถึงการทดลองตัวยาที่มีประสิทธิภาพสูขึ้น จะเริ่มทยอยตามออกมา

ช่วงนี้หลายประเทศเริ่ม "พรีออเดอร์" หรือมีการสั่งซื้อวัคซีนกันมากขึ้น ประเทศในอียูสั่งไปแล้วกว่า 700 ล้านโดส ส่วนสหรัฐฯ ประเทศเดียวก็สั่งไปกว่า 700 ล้านโดสเช่นเดียวกัน เนื่องจากยังเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงที่สุดในโลกอยู่ที่เกือบๆ 15 ล้านคน ส่วนประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อตามมาเป็นอันดับสองและสาม อย่างอินเดียและบราซิล ก็พรีออเดอร์วัคซีนไปประเทศละ 500 ล้านโดส และ 100 ล้านโดส 

ล่าสุดประเทศแคนาดา เพิ่งมีข่าวสั่งจองวัคซีนต้านโควิด - 19 จำนวนมากพอต่อประชากรแล้ว (ราว 38 ล้านคน) โดยเป็นการสั่งจองวัคซีนจากผู้ผลิตและทดสอบรายต่างๆ ไปมากกว่าจำนวนประชากรทั้งประเทศเกือบ 4 เท่า อันนี้ก็ถือเป็นเรื่องโชคดีของพลเมืองแคนาดา แต่ในมุมกลับกัน หลายฝ่ายก็แสดงความกังวลว่า การกระจายของวัคซีนต้านโควิด - 19 นี้ จะไม่แพร่หลายไปยังผู้คนทั่วโลก หรือพูดง่าย ๆ ว่า เกรงจะเกิดความเหลื่อมล้ำในการแจกจ่ายวัคซีนขึ้น เนื่องจากประเทศที่ไม่ได้มั่งคั่ง อาจจะเข้าถึงตัวยาเหล่านี้ได้ยากกว่า

ด้วยเหตุนี้จึงมีพันธมิตรวัคซีนที่เรียกว่า "เกวี" เป็นการร่วมมือกันระหว่างองค์กรใหญ่ระดับนานาชาติ เช่น องค์การอนามัยโลก และมูลนิธิเกตส์ ได้ทำโครงการเข้าถึงวัคซีนโลก (โคแวกซ์) เพื่อช่วยกระจายวัคซีนไปทั่วโลก ถึงขณะนี้ได้รับการบริจาคจากประเทศ บุคคล และองค์กรการกุศลไปแล้วกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ แต่ยังต้องการอีก 5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมไปทั่วโลก

เอาเป็นว่า ถ้าจะป้องกัน ก็อยากให้ป้องกันทั่วโลก เพราะหากทำไม่ได้ 100 เปอร์เซนต์ ถึงวันหนึ่ง โควิด - 19 ก็อาจวนกลับมายังประเทศของเรา หรือตัวเราได้อยู่ดี...

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top